เกือบตกเป็นเหยื่ออีกราย พิธีกรเซเลปแห่งรายการตกมันส์บันเทิง “บุ๋ม ปนัดดา” ที่ออกมาเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ถูก “วาวา” มิจฉาชีพตุ๋นคนดังในโซเชียลไปจำนวนหลายล้านบาท ทักเข้ามาเพื่อหวังสร้างภาพลักษณ์ เพื่อนำไปหลอกเหยื่อรายอื่น ๆ
โดย “บุ๋ม” เผยว่า ก่อนหน้านี้ช่วงโควิดระบาดหนัก มูลนิธิองค์กรทำดี ได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง อ้างว่าจะนำหน้ากากอนามัยและถุงมืออนามัยมาบริจาค แต่การติดต่อขอเข้าบริจาค กลับพบจุดพิรุธหลายอย่าง ทำให้ผู้ดูแลของมูลนิธิองค์กรทำดี ตัดสินใจตรวจเช็กชื่อของผู้บริจาค นำไปค้นหาในเฟซบุ๊กและเพจข่าวทั่วไป จนทำให้ทราบว่า เป็นมิจฉาชีพนั่นเอง “บุ๋ม” เผยว่าต่อว่า มิจฉาชีพในสังคมปัจจุบันมีอยู่มากมาย รู้หน้าไม่รู้ใจ โดยส่วนใหญ่พยายามใช้ชื่อเสียงของคนบันเทิงในการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ เข้าหาด้วยวิธีขอถ่ายรูปเสมือนแฟนคลับทั่วไป ซึ่งทำให้คนบันเทิงเองหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะไม่รู้ว่าใครคือแฟนคลับ และใครเข้าหาเพื่อหวังทำลายชื่อเสียง อย่างกรณีของ “มะตูม” พิธีกรตัวแม่ออกปากชื่นชม มองว่า “มะตูม” ทำถูกต้อง เพราะถ้าเป็นตัวเองก็จะออกมาช่วยเหลือเหยื่ออย่างเต็มที่ เพราะเราเป็นคนของประชาชนที่จำเป็นต้องปกป้องประชาชน การออกมาช่วยเป็นกระบอกเสียงเชื่อว่าจะช่วยลดความเสียหายของเหยื่อได้
พิธีกรคนดังยังขอใช้พื้นที่เตือนผู้ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะในการเดินทางในชีวิตประจำวัน หลังจากเช้าวันนี้ (17 มกราคม) หลานสาวของ “บุ๋ม ปนัดดา” ถูกโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงบนรถไฟฟ้า ซึ่งเหยื่อไม่ทราบในขณะโรคจิตกำลังก่อเหตุ แต่ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้า ทำให้ทันทีที่ลงจากขบวนรถ มีเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ประสานให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในทันที ก่อนจะแจ้งให้หลานสาวของพิธีกรคนดังทราบในเวลาต่อมา ผู้ก่อเหตุที่คล้ายประกอบอาชีพพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ใช้วิธีซ่อนกล้องไว้ในอุปกรณ์คล้ายรีโมตรถ ใส่ในกระเป๋าผ้า ก่อนจะถือต่ำเพื่อให้มองเห็นใต้กระโปรงของเหยื่อ ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าตั้งใจนำภาพไปขายต่อ ซึ่งบุ๋มเผยว่าสภาพจิตใจของหลานสาวยังคงน่าเป็นห่วง ซึ่งในฐานะผู้ปกครองยืนยันว่าไม่ยอมเด็ดขาด หากเจอตัวจะกระทืบแน่นอน ยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย 500 บาท.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน