“แอ๊ด คาราบาว” ยกพานดอกไม้ขอขมาผู้ว่าฯ พร้อมร้อง “หนุ่มสุพรรณ” ให้ จ่อแต่งเพลงให้ทุกจังหวัด

คืบหน้ากรณีนักร้อง “แอ๊ด คาราบาว” หรือ นายยืนยง โอภากุล ด่ากราดผู้ว่าฯ จังหวัดสุพรรณบุรี บนเวที จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่เคยเสนอข่าวไป จนล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค. 2565 “แอ๊ด คาราบาว” เข้าพบนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมนำพาน ดอกไม้ ธูปเทียน ช่อดอกไม้ เข้าขอโทษผู้ว่าฯสุพรรณบุรี โดยมีทีมงานของแอ๊ดมาถ่ายทำคลิป โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ต่อมา “นายณัฐภัทร” ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี เผยว่า แอ๊ด ได้เข้ามาขอโทษว่าได้ทำผิดไปและขออภัย ตนได้ขอให้นายยืนยงไปดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจกับสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนได้รับทราบเป็นการที่มาขอโทษในวันนี้ด้วย ส่วนเรื่องคดีก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป และต้องดูว่านายยืนยงได้ทำตามที่ได้คุยกันไว้หรือไม่ หลังพูดคุยขอโทษกันแล้ว นายยืนยงได้ร้องเพลงหนุ่มสุพรรณ ให้ฟัง 1 ท่อน พร้อมกับมอบกีตาร์ให้ 1 ตัว แต่ตนไม่ได้รับมอบกีตาร์ไว้ เพราะเล่นไม่เป็น นายยืนยงยังรับปากจะสอนให้

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี กล่าวต่อว่า ยังพูดคุยกันว่าอยากให้ แอ๊ด ได้มาช่วยทางสุพรรณบุรี เพราะเป็นคนสุพรรณบุรี เรามีโครงการที่จะสมัครเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีของ ยูเนสโก อยากให้ทางแอ๊ด ได้มีโอกาสมาช่วยเพราะว่าสายธารดนตรีเรา 5 สายธาร และเพลงเพื่อชีวิตเป็นหนึ่งใน 5 สายธารดนตรีของสุพรรณบุรี ทางคุณแอ๊ดก็รับปากและยินดี ถ้าประสานไปก็จะรีบมาช่วยทันที “จริง ๆ แล้วส่วนตัว ตนให้อภัยอยู่แล้ว แต่เราติดตรงตำแหน่ง ผวจ.ฯต้องให้เขาแสดงขอโทษผวจ.ฯทั่วประเทศด้วย วันนี้คุณแอ๊ดก็พูดจะแต่งเพลงให้กับทุกจังหวัด เป็นลักษณะเพลงเล่าประวัติศาสตร์ ก็ต้องรอดูว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า”

ด้าน เรื่องคดีได้มอบหมายให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุพรรณบุรี และ ผกก.สภ.สองพี่น้อง ได้มีการรับคำร้องทุกข์ไว้เรียบร้อยและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกำนันพุกที่จัดงาน รวมทั้งที่เกิดเหตุทั้งหมด ซึ่งเรามีพยานหลักฐานเพียงพอที่ว่าทางคุณแอ๊ดคาราบาวได้กระทำผิดจริง และเราได้ออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง และวันนี้ทราบว่าคุณแอ๊ดจะเดินทางมาขอโทษ ยอมรับผิดที่กระทำผิดไป ในส่วนที่คุณแอ๊ดจะต้องทำต่อไปนั้นคุณแอ๊ดได้พูดคุยกับ ผวจ.สุพรรณบุรีไว้แล้วตามเงื่อนไข ถ้าทำตามเงื่อนไข ก็จะถอนคำร้องทุกข์ ส่วนการดำเนินคดีก็ต้องดำเนินการต่อไป และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ท่าย ผวจ.ฯอยู่ในตำแหน่งพ่อเมืองสุพรรณบุรี พ่อมเองทึกจังหวัดก็มีความรู้สึกได้ว่าการกระทำนี้ดูหมิ่นในองค์กร


เข้าชม 167 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม