ฉีกคาแรกเตอร์ครั้งแรกสำหรับหนุ่ม “ตูมตาม ยุทธนา”ในภาพยนตร์ “ฮักเจ้าอีหลี” กับบทบาทหัวหน้าคณะหมอลำ ที่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนกฎกติกาจนทำให้เกิดความปั่นป่วน นอกจากนี้ในหนังยังถ่ายทอดเบื้องลึกเบื้องหลังการเตรียมพร้อมไปจนถึงการแสดงหน้าเวทีของหมอลำ โดยขนทัพนักแสดงมากมาย อาทิ “เต๋า ภูศิลป์,กวาง-จิรพรรณ, ท็อป-นรากร, ต้าวหยอง-ยุคลเดช, โบ๊ท-อนาคามี, มนต์ มิ่งขวัญ” เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้หนุ่ม “ตูมตาม” ยังยอมรับกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า มุมมองความรักเปลี่ยนไป หลังได้รู้จักกับคู่หมั้นสาว “อาหลี อัฐริญญา” เมื่อก่อนทำงานเพื่อเก็บเงิน ตอนนี้ทำงานเพื่อสร้างครอบครัว การมีอีกคนให้นึกถึงและพร้อมจะเดินไปด้วยกัน ทำให้รู้สึกว่ามีแรงจูงใจในการใช้ชีวิต การที่มีคนมาร่วมแชร์ร่วมใช้ในสิ่งที่เราพยายามสร้างทำให้ชีวิตมันสนุกมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้คิดไว้ว่า ความสุขในชีวิตมีไม่กี่อย่าง แค่อยากให้ครอบครัวและคนที่อยู่ด้วยได้อยู่อย่างสบาย กับ “อาหลี”เอง คบกันแบบแชร์กันได้ทุกเรื่อง เราเหมือนทีมเวิร์ก ทุกคนล้วนมีตัวตน สองฝ่ายช่วยผลักดันกันและกัน ไม่ทำให้ใครคนหนึ่งรู้สึกหนักกว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายสบายใจในการหาเงินด้วย แต่หากเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายอยากจะให้ของขวัญหรืออื่น ๆ เป็นน้ำใจก็ยินดีรับ ถือเป็นความเอื้อเฟื้อจากอีกคน อย่างการไปทานข้าวยอมรับว่าถ้าเรามีเราก็จ่าย หรือถ้าเขามีเขาก็จ่าย ที่ทำแบบนี้เพราะวันหนึ่งยังไงก็ต้องมีเงินก้อนตรงกลางของครอบครัวอยู่แล้ว เราจ่ายเขาจ่ายก็เหมือนกัน สิ่งที่ระวังที่สุดในการคบกัน คือความหวังดีของเรา กลัวจะไปก้าวก่ายชีวิตเขา เราต้องไม่ดูแลจนเขาไม่ภูมิใจในตัวเอง เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปวางแผนชีวิตเขา จนกว่าเขาจะขอความช่วยเหลือเราถึงยื่นมือเข้าไปช่วย ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เรารู้ว่าเราก้าวก่ายเขาเกินไป คือการวัดจากตัวเราเอง ให้คิดว่าถ้าเป็นเราอะไรบ้างที่เราไม่ภูมิใจถ้ามีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้แอบตั้งสเปกแฟนไว้สูง เพราะเราไม่อยากมีใคร เลยตั้งสเปกไว้ถึง 100 ข้อ คิดไว้ว่าหากไม่เจอคนที่ตรงสเปกทั้ง 100 ข้อก็จะไม่คบ แต่สุดท้ายก็ดันมาเจอ “อาหลี” แม้จะไม่ครบทั้ง 100 ข้อ แต่ก็ทำให้เรายอมที่จะเปิดใจเรื่องความรักดูอีกสักครั้ง เมื่อก่อนเวลาที่เรามีความรักแล้วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะ ๆ มักจะไม่ชอบ แต่สำหรับ “อาหลี” กลับรู้สึกไม่เป็นปัญหา รู้สึกสนุกที่จะเรียนรู้เพราะเรารักเขา และไม่เคยงอแงกันโดยที่ไม่มีเหตุผล เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งผู้ร้วมงาน ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม รู้สึกว่าสนุกดี การแต่งงานจริง ๆ ไม่ได้อยู่ในระบบความคิดสักเท่าไร่ แต่พอได้เจอกับคนที่ใช่รู้สึกการแต่งงานมันมีเหตุผล เคยรู้สึกว่ารักใครสักคน แล้วต้องให้บางอย่างกับเขา กลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเป็นหัวใจเป็นความรู้สึกที่ดีของเรา แต่ครั้งนี้กลับไม่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น เพราะเขาไม่เรียกร้อง ส่วนเรือนหอที่ จ.นครนายก บนพื้นที่ 3 ไร่ น้ำยังท่วม ยังทำอะไรไม่ได้ ยังอยู่ในช่วงออกแบบกับสถาปนิก การก่อสร้างยังอยู่ในแพลน ตั้งใจเป็นบ้านที่ไม่ใหญ่มากราคา 10 ล้าน อยู่แบบสบาย ๆ มีแค่คุณแม่คุณพ่อและอาหลี อยากให้เป็นบ้านที่เติมเต็มความสุข อบอุ่นในชีวิต หากเรือนหอแล้วเสร็จตั้งใจแต่งงานปี 2567 ตามแผนเดิมที่วางไว้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
