เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(22 ก.ย.2565)นักแสดงสาว “อาย วราไพรินทร์” 1 ในผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุน Forex-3D พร้อมด้วย “นายปิยณัฐ สุกยัง” เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าพบสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เนื่องจากมีผู้เสียหายที่แจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ไปแล้วแต่ยังไม่ได้ลงชื่อเฉลี่ยทรัพย์กับ ปปง.อีกจำนวนมาก และจะสอบถามความคืบหน้าในการยึดอายัดทรัพย์สินจากแม่ข่ายแชร์ forex3Dด้วย
โดย “อาย วราไพรินทร์” กล่าวว่า คดีนี้ตนเองเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยเมื่อ 3 ปีก่อนหลังจากที่ได้เข้าแจ้งความพร้อมยื่นเอกสารหลักฐานกับทางดีเอสไอ แต่ยังไม่ได้มาลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์สินคืนกับ ปปง. จนกระทั่งปีนี้มีการจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนหลายคนและ ปปง.เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายมาลงชื่อ จึงเกรงว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นที่ตกหล่นและไม่ได้ลงชื่อกับทาง ปปง.จึงขอเป็นตัวแทนเพื่อมาติดตามและขอทราบขั้นตอนต่าง ๆ ส่วนตัวยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ทราบขั้นตอนและไม่รู้ว่าต้องมาลงทะเบียนด้วยตนเอง ก่อนที่ต่อมาตรวจเช็กข้อมูลเองจึงจะทราบ ประกอบกับขั้นตอนของหน่วยงานราชการซับซ้อนและไม่มีการสื่อสารกับประชาชนจึงเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ตกหล่นอยู่ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและไม่ได้รับการประกันตัวก็รู้สึกเห็นใจและสงสารโดยเฉพาะ “พิ้งกี้ สาวิกา” เพราะเคยร่วมงานกัน แต่ตนเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ๆ ที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ส่วน “ดีเจแมน พัฒนพล” และ “ใบเตย สุธีวัน” ไม่ได้รู้จักสนิทสนมเป็นการส่วนตัวเพราะไม่เคยร่วมงานด้วย
ขณะที่ “นายปิยณัฐ สุกยัง” เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายจำนวนหลายสิบราย ติดต่อมาสอบถามเกี่ยวกับการลงทะเบียนขอเฉลี่ยทรัพย์สินคืน เนื่องจากหลังไปแจ้งความกับดีเอสไอแล้ว ผู้เสียหายส่วนใหญ่คิดว่าจบขั้นตอน จึงไม่ทราบเรื่องการลงทะเบียนเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์สินคืนกับทาง ปปง. ที่ต้องมาลงทะเบียนด้วยตนเอง 3-4 ครั้งที่ผ่านมา และปิดรับลงทะเบียนไปแล้ว ซึ่งอายก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปกว่า 2 ล้านบาท และยังไม่ได้ลงทะเบียน จึงเกรงว่าอาจเสียโอกาสในการได้รับเงินคืน ดังนั้นวันนี้จึงจะมาสอบถามรายละเอียดกับทาง ปปง. ว่าจะมีการเปิดรับลงทะเบียนอีกหรือไม่ และหากผู้เสียหายลงทะเบียนไม่ทัน สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะมีผู้เสียหายหลายรายที่มีชื่อตกหล่นจำนวนมาก นอกจากนี้จะไปสอบถามรายละเอียดทรัพย์สินที่ยึดอายัดมาได้ด้วย เนื่องจากตอนแรกที่เป็นข่าวมีการระบุว่ายึดอายัดทรัพย์สินได้เป็นพันล้าน แต่ล่าสุดทราบว่ายอดลดลงเหลือเพียงหลักร้อยล้านเท่านั้น จึงต้องการความชัดเจน โดยคาดว่าคดีอาญาจะมีการพิจารณาแล้วเสร็จไม่เกิน 2-3 ปี จากนั้นทางคดีแพ่งก็จะเฉลี่ยทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายได้ ส่วนความคืบหน้าทางคดี หลังจากที่ได้แจ้งความกับ ดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับ “กระทิง” ดารานักแสดงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทราบว่าทางดีเอสไอ กำลังรวบรวมหลักฐานและจะออกหมายเรียกพยานและออกหมายเรียกดารารายดังกล่าวเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ นายปิยณัฐ เปิดเผยเพิ่มเติมหลังพูดคุยกับทาง ปปง.ว่า คดีนี้มีผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 9,000 คน เปิดลงทะเบียนไปแล้ว 3 รอบ รอบแรกที่ยึดทรัพย์ได้ 90 ล้านบาท ปิดลงทะเบียนไปแล้ว มีผู้เสียหายลงทะเบียนกว่า 7,000 คน ซึ่งผู้เสียหายที่ตกหล่นรอบนี้ไม่สามารถลงทะเบียนได้แล้ว รอบที่ 2 ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท มีผู้ลงทะเบียนขอเฉลี่ยทรัพย์แล้วกว่า 5,000 คน และขณะนี้ ปปง.อยู่ระหว่างเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติม ดังนั้นผู้เสียหายที่ตกหล่นสามารถยื่นหลักฐานแจ้งความของดีเอสไอ สลิปการโอนเงิน และ Statement ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของ ปปง. ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนรอบที่ 3 ยึดทรัพย์อีก 200 ล้าน มีผู้ลงทะเบียนกว่า 7,000 คน และปิดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ ปปง. เตรียมยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติมในเดือนตุลาคมนี้ หากศาลมีคำสั่งแล้ว ผู้เสียหายที่ตกหล่นจึงจะสามารถลงทะเบียนได้ พร้อมย้ำว่าผู้เสียหายจำเป็นต้องลงทะเบียนขอเฉลี่ยในทุกรอบการยึดทรัพย์ หากลงไม่ครบ ก็จะขาดโอกาสรับเงินคืนเพิ่มเติม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน