“ก้อย รัชวิน” เคลียร์ หลังทัวร์ลงปมค่าสมัครวิ่งการกุศล ทุกข์ใจข้อมูลถูกบิดเบือน-พาดพึงถึงลูก ฟ้องไปก็ไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้น

กลายเป็นดราม่าระอุโซเชียลทันที เมื่อคุณแม่สายสุขภาพ “ก้อย รัชวิน” ภรรยาคนสวยของนักร้องดัง “ตูน บอดี้สแลม” จัดงานการกุศล ชวนสายวิ่งมาออกกำลังกายพร้อมได้ทำบุญไปในตัว ซึ่งมีค่าสมัครและรายละเอียดชี้แจงชัดเจน แต่อยู่ ๆ มีเพจหนึ่งนำข้อความมาโพสต์ว่า “ก้อย ภรรยา ตูน ชวนผู้หญิงออกมาวิ่งค่าสมัคร 3,500 บาท แบ่งให้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ 100 บาท 10-11 ก.ย. นี้” สร้างความข้องใจให้ชาวเน็นถึงยอดเงินที่แบ่งบริจาค จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์แบบทัวร์ลงที่ “ก้อย” เต็ม ๆ และบางส่วนก็พาดพิงถึง “น้องทะเล” ลูกชายของเจ้าตัวด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ “ก้อย” ได้ชี้แจงผ่าน “Rachwin Journey” ระบุว่า “งานวิ่งครั้งนี้การสมัครวิ่งแบบปกติ มีแพ็กเกจให้นักวิ่งเลือกระยะทาง 5K , 10K และ 21K ราคาแต่ละระยะจะไม่เหมือนกัน และทุก 1 การสมัคร จะบริจาค 100 บาท ให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อสมทบทุน “โครงการผู้ป่วยยากไร้ มะเร็งเต้านม” และในส่วนของบัตรการกุศล ค่าสมัครทั้งหมด 3,599 บาท จะมอบให้แก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ “เต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น” โดยบัตรการกุศลจะได้รับของที่ระลึกพิเศษที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะในงานนี้เท่านั้น และนักวิ่งจะได้รับใบเสร็จลดหย่อนเพื่อนำไปหักภาษี 1 เท่า ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของงานในครั้งนี้ ก้อยไม่สบายใจที่มีการลงข้อมูลบิดเบือนความจริง และเกิดการแชร์ในโซเชียลจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเพจที่เป็น “สื่อ” เลยอยากขอรบกวนให้ทุกคนอ่านรายละเอียดให้ชัดเจนถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินอะไร


ล่าสุด “ก้อย” ออกอีเวนต์เจอสื่อและเปิดใจชี้แจงถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ระบุว่า “งานวิ่งสำหรับผู้หญิงครั้งนี้เหมือนงานปกติทั่วไปและมีการแข่งขัน ทางผู้จัดงานได้คุยและชวนให้เรามาเป็นผู้สนับสนันหลักและเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ซึ่งเราเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะงานจัดที่ จ.ภูเก็ต เราก็ย้ายไปอยู่ภูเก็ตพอดี และห่างจากงานวิ่งแบบนี้มานาน ทั้งนี้ผู้จัดงานมีเจตนาที่จะนำเงินรายได้ไปบริจาคมอบให้การกุศลเพื่อส่งต่อให้ผู้หญิงด้วย โดยการจัดงานครั้งนี้จะมีบัตรแชริตี้ที่จะนำเงินรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น มอบบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมด้วย แต่ตรงนี้ในโซเชียลอาจจะมีการเข้าใจผิด เนื่องจากมีการบิดเบือนข้อมูลว่าค่าสมัคร 3,599 บาท บริจาคแค่ 100 บาท ดราม่ามาลงที่เราเต็ม ๆ ยอมรับว่าเครียด แต่เรารู้ว่าความจริงคืออะไรก็ได้ชี้แจงข้อมูลที่เป็นความจริงออกไป หลังชี้แจงไปหลายคนก็เข้าใจ เพราะรายละเอียดต่าง ๆ ใส่ลงไปในข้อมูลทั้งหมด แต่บางคนเข้ามาอาจจะอ่านไม่ถี่ถ้วน แล้วนำไปโปรยในอีกแบบหนึ่ง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปในหลากหลายประเด็น ข้อความที่เขาเอาไปลงเราเห็นแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ มันก็ทุกข์แหละ แต่คนที่จะดับทุกข์ได้ก็คือตัวเรา เลือกที่จะจัดการความรู้สึกตัวเองและเอาเวลาไปโฟกัสกับการจัดงานให้ดีที่สุด สำหรับก้อยงานวิ่งการกุศลก็คือ 100 % เข้าองค์กรการกุศลทั้งหมดที่งานวิ่งนั้นสนับสนุน แต่สำหรับงานวิ่งครั้งนี้เป็นงานวิ่งปกติทั่วไป มีการแข่งขัน มีของรางวัล ของที่ระลึก แต่ทางผู้จัดงานมีเจตนาอยากจะส่งต่อให้กับผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมเลยได้ทำบัตรแชริตี้ขึ้นมา สำหรับนักวิ่งที่อยากจะบริจาค 100 % ซึ่งบัตรแชริตี้นี้ปิดรับสมัครไปตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา และมีแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เปิดรับสมัครตามความสมัครใจของนักวิ่งแต่ละคน”

ส่วนเพจที่ให้ข้อมูลผิดเจตนาเขาเข้าใจผิดจริง ๆ หรือต้องการบิดเบือน ก้อยไม่ทราบจริง ๆ และคงจะไม่หาเหตุผลด้วย ถามว่าจะฟ้องร้องไหม สำหรับก้อยการฟ้องร้องไม่ได้ทำก้อยรู้สึกดีกว่านี้ หรือรู้สึกสบายใจขึ้น ส่วนพี่ตูนก็ให้กำลังใจ บอกว่าเราได้พูดความจริงออกไปแล้ว ให้ไปโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเพื่อคนที่เขารักเราและอยากจะมาวิ่งกับเรา ทำงานของเราให้ดีที่สุด ให้คนที่เขามาวิ่งกับเรามีความสุข มีรอยยิ้มกลับบ้านและอยากจะกลับมาวิ่งกับเราอีก ถามว่าเสียกำลังใจไหม เอาจริง ๆ เราเจออะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างจะมีภูมิต้านทานแล้ว แต่ก็ไม่สบายใจที่มันจะถูกพาดพิงไปด้านอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานวิ่งของเรา หรือพาดพิงไปถึงลูกเรา ในฐานะคนเป็นแม่ไม่อยากให้ลูกโตมาในสังคมที่มีการบูลลี่แบบนี้ จำไม่ได้หรอกค่ะว่าคำไหนแรง เพราะมันมีเยอะ อยากจะข้ามเรื่องนี้ไปเลย ไม่อยากเอาพลังลบ ๆ มาใส่ตัว มาทำให้เราไม่มีแรงเดินหน้าต่อ เราอยากจะเดินหน้าต่ออย่างมีความสุข แต่ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นที่มันเกี่ยวข้องกับลูกเราในอนาคต ในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องปกป้องค่ะ เคยเห็นมาบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ที่พาดพิงถึงลูก ถามว่ามีน้ำตากับเรื่องนี้ไหม เป็นแม่ต้องเข็มแข็งค่ะ อยากจะพูดอะไรกับคนเหล่านั้นไหม ไม่ดีกว่าค่ะ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตําลึงทอง วันนี้ก้อยได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้ ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้เรื่องเปิดเข้ามาเจอข่าวแล้วไปอ่านคอมเมนตืแบบไม่รู้ที่มาที่ไป เราชี้แจงในส่วนที่เป็นประเด็นให้ตรงจุดแค่นั้นพอ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทำลายความตั้งใจในการที่จะทำดีต่อไป ต่อให้ในอนาคตเราทำดี แต่คนก็มองได้ 2 ด้านเสมอ ถ้าเรารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และมีความตั้งใจทีมดีก็จงทำต่อไป ก้อยไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ก้อยมายืนตรงนี้ในฐานะคนของประชาชน การที่วันนี้เรามาอยู่ตจรงนี้ได้ก็อยากจะคืนอะไรให้กับชุมชนบ้าง”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 157 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม