นับเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของวงการบันเทิง หลังอดีตพิธีกรดังยุค 90 “อิ๋งอ้อย-สิทธิวดี” ประกาศข่าวเศร้าผ่านเฟสบุ๊ก “Kattydoll Youn” ว่าพี่สาวอดีตพิธีกรคนดัง “อิ๋งอิ๋ง-สิทธิณี” จากไปอย่างสงบในวัย 57ปี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งมายาวนานกว่า 4 ปี
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 14.35 น. ครอบครัวได้เคลื่อนร่างของ “อิ๋งอิ๋ง” จากโรงพยาบาลรามาธิบดีมาถึงวัดเวลา เพื่อรดน้ำและสวดพระอภิธรรม ณ ศาลาบำเพ็ญกุศล(ศาลาใหญ่) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.00 น.
ซึ่งน้องสาวทั้ง 2 คน “อิ๋งอ้อย-สิทธิวดี” และ “อุ๊อู๋-สิทธิภาณี” เปิดใจว่า “เมื่อเวลา 06.13 น. ของวันที่ 2 ก.ค. พี่อิ๋งค่อย ๆ ดาวน์ลง เหมือนระบบร่างกายชัตดาวน์หยุดหายใจลงไปเอง พี่อิ๋งเข้า รพ.ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. เขาปิดไม่อยากให้น้องตกใจ พอเรารู้ก็ไปหาเขาที่ รพ.รามาฯ เขายังพูดได้ ทุกอย่างตอบรับ อาทิตย์ถัดมาคุณหมอบอกว่าอยากให้มาเซ็นเอกสารฉบับหนึ่งที่ รพ.ให้เซ็นว่าหนึ่งไม่ปั๊มหัวใจ และไม่ใส่ท่อไม่ทำอะไรเลย เรายังรู้สึกว่าพี่อิ๋งยังตอบรับได้ดีอยู่เลย พอเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ระบบร่างกายพี่อิ๋งเริ่มไม่ตอบรับ ถามอะไรก็เริ่มไม่ตอบรับถามพี่อิ๋งว่ารู้สึกไหมว่าระบบการตอบรับช้าลงแต่เค้าก็ยังตอบรับเราได้ แต่พอหลังจากวันที่ 20 ถามอะไรพี่อิ๋งไม่ตอบรับแล้ว เมื่อสองวันที่แล้วสงสารเขาที่สุดเพราะว่ามือเค้าไม่สามารถคอนโทนอะไรได้เลยมือคว้าสายออกซิเจนและกระชากออกบอกว่าไม่เอาแล้ว จากที่พูดไม่ได้ เขาก็กระชากออกสายออกซิเจนออกและพูดว่าไม่เอาแล้ว พี่อิ๋งเป็นคนที่ทำบุญเยอะมาก วันสุดท้ายก่อนที่พี่อิ๋งจะไม่รู้เรื่องมีพระที่พี่อิ๋งนับถือจากภูทับเบิกขึ้นมาทำฟันที่กรุงเทพเราก็โทรหาครูบาขอให้ท่านมาหาพี่อิ๋งซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เขาไม่รู้สึกตัวแล้ว ตอนที่ท่านมาก็บอกพี่อิ๋งว่าครูบามา พี่ก็ยกมือไหว้และบอกสาธุ” ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลพี่สาวได้สั่งเสียอะไรไว้บ้าง? “ตอนที่อยู่โรงพยาบาลก็ได้ถามว่าพี่อิ๋งอยากทำอะไรไหมถ้ามีอะไรให้บอกอ้อยได้เลยเดี๋ยวจะทำให้เขาบอกว่าเขาจะจัดการเองไม่เป็นไร” ก่อนหน้านี้เหมือนอิ๋งอิ๋งบอกว่าไม่อยากให้จัดงานศพเพราะไม่อยากให้ใครมาร้องไห้? “ใช่ค่ะ แต่ด้วยร่างกายของพี่อิ๋ง เชื้อมะเร็งเป็นไปหมดแล้วดังนั้นร่างกายไม่สามารถบริจาคให้ใครได้ตอนที่พี่เองยังนอนรักษาตัวอยู่ต้องเจาะน้ำออกจากปอดแต่ล่าสุดคุณหมอบอกว่าตอนนี้มะเร็งได้แทรกเข้าไปหมดแล้ว ร่างกายให้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ระยะในการรักษาโรคมะเร็งนั้นนานแค่ไหน? “เมื่อ 3 ปีที่แล้วหลังจากนั้นทำคีโม 24 ครั้ง เขาต่อสู้กับมะเร็งมาเกิน 3 ปีเพราะตอนที่เขารู้ว่าเขาเป็นมะเร็งคือระยะที่ 2 แล้ว จากนั้นเขาก็สู้มาโดยตลอด แต่ครั้งหลังเขาสู้ไม่ไหวเขาจะเข้ามาให้คีโมแต่เม็ดเลือดขาวต่ำมากและไม่สามารถทำคีโมได้ต้องให้เลือดเพิ่ม พอให้เลือดเพิ่มพี่อิ๋งก็ไม่สู้แล้ว” ได้บอกอะไรกับพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายบ้าง? “พี่อิ๋งถ้าเหนื่อยก็พัก พี่อิ๋งไม่สู้ก็ไม่เป็นไร ที่เหลืออ้อยกับน้องสาวจัดการให้เองไม่ว่าบริษัทหรือสิ่งต่าง ๆ ของพี่อิ๋งเราคุยกันไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมดอ้อยถามน้องสาวว่าเอาไหมอ้อยก็บอกว่าอ้อยไม่เอา เราทั้งสองคนเลยคุยกันว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมดหลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเราจะบริจาคทั้งหมด เราได้ถามพี่อิ๋งก่อนหน้านี้ว่าเอาวัดไหม เพราะว่าเงินของพี่หญิงทรัพย์สมบัติทั้งหมดสามารถสร้างวัดได้เลยสิ่งที่พี่อิ๋งห่วงที่สุดตอนนี้คือห่วงแมวทั้งสี่ตัว พี่อิ๋งเคยพูดว่าเค้าจะยกสมบัติทั้งหมดให้กับลูกอ้อยแต่อ้อยบอกว่าอ้อยไม่รับเนื่องจากเรามีมือมีเท้ามีสมองทำไมเราต้องจ้องที่จะเอาแต่สมบัติเขาและก็ไม่ภาคภูมิใจเลย”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาใครเป็นคนดูแลอิ๋งอิ๋ง ? “ทางครอบครัวเป็นคนซัพพอร์ต มีอยู่ช่วงหนึ่งพาพี่หญิงไปอยู่กับอ้อยที่บ้านแต่เขาก็หนีกลับบ้าน เขาบอกมีโลกส่วนตัวเขาบอกกับญาติว่าเขาคิดถึงแมวเขาเป็นผู้หญิงที่สตรองมากนาทีสุดท้ายเขาเจ็บ เขาก็ไม่ร้องเลย ไม่มี ร้องเจ็บโอดโอยเหมือนคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย” ก่อนหน้าเนี่ยเหมือนมีข่าวว่าพี่น้องทะเลาะกัน? “พี่อิ๋งเคยบอกว่าทะเลาะกับอ้อย ต้องบอกว่าอ้อยกับพี่อิ๋งเราเป็นพี่น้องคลานตามกันมาเวลาเราเห็นพี่เจ็บพี่ล้มทำไมเราจะไม่ซัพพอร์ต แม้กระทั่งวันที่เขามีปัญหา พี่อิ๋งจะกลับไปอยู่คนเดียวเราก็บอกว่าไม่ได้ ต้องดึงมาอยู่กับเราเขาก็มาได้แป๊บ ๆ ก็กลับไปอยู่คนเดียวแหละก็บอกกับญาติ ๆ ว่าสงสารแมวคิดถึงแมว” ทำไมตอนนั้นแกถึงออกมาพูดอย่างนั้น น้อยใจ? “แกน้อยใจ แกคุยกับเราแล้วเราก็บอกแกว่าพี่อิ๋งความสุขสุดท้ายของพี่อิ๋งคิดเลย เพราะนาทีนี้เวลาพี่อิ๋งเหลือน้อย ให้ไปคิดให้ดี ๆ อะไรที่มีความสุข อยากทำอะไรพี่ทำเลย ความสุขของพี่อยู่ตรงไหนไปตรงนั้น” เพิ่งออกรายการว่ากลับมาคืนดีกับสามี? “ก็ไม่ได้กลับมาดูแลนะคะ เหมือนเขาบอกว่าเขาคบกันเป็นกิ๊กเฉย ๆ กลับมาก็เจอกัน ออกไปทานข้าว พี่อิ๋งก็ดูแลตัวเอง เขาไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้าน นาทีสุดท้ายของพี่อิ๋งจนวันนี้ แต่งหน้าก็พี่น้องนี่แหละ ส่วนวันอื่น ๆ เขาจะมาไหมก็แล้วแต่เขา ตรงนี้เราทำให้พี่สาวเราอย่างดีที่สุด ส่งเขาให้มีความสุขที่สุด” เราก็ไม่ได้โกรธอดีตสามีพี่? “ไม่ได้โกรธ เขาโตแล้ว มันคือความสุขของเขา ทุกคนมีครอบครัวแยกกันไป เรารู้ความสุขของเราอยู่ที่ไหน ความสุขของพี่อิ๋งอยู่ตรงไหนพี่อิ๋งทำเลย” ตอนช่วงที่ป่วยก็ย้งทำงานเป็นพิธีกร? “ทำค่ะ อย่างลงเสียงพี่อิ๋งลงไม่ไหว เลยบอกว่าเสียงอ้อยคล้ายกับพี่เดี๋ยวอ้อยลงให้ เราก็ไปนั่งลงเสียงให้เขา การเป็นพิธีกรเป็นความสุขของเขาที่สุดเลย รายการโชคดีนาทีทองเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตเขา เขาเคยบอกว่าในช่วงชีวิตการเป็นพิธีกรของเขา รายการโชคดีนาทีทองเป็นช่วงแห่งความสุขของเขา เป็นสิ่งที่ทำให้วันนี้เขายังสู้อยู่ เขาบอกเลยว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเขาจะมาลงเสียงเอง เดี๋ยวเขาจะไปหาลูกค้าเอง” งานของพี่อิ๋งยังอะไรบ้าง? “มีรายการสั้นที่แกยังทำอยู่ เขาเป็นคนที่ทำนุบำรุงศาสนา บางครั้งในเนื้อรายการไม่ได้มีสปอนเซอร์ แต่แกก็ทำ เพื่อให้คนดูบริจาคมาช่วยเหลือวัด” มีอะไรที่แกอยากให้เราสานต่อบ้างไหม? “มีลูกค้าที่อยากจะให้ทำ เราก็ดูอยู่ว่าเราจะสานต่อได้ยังไงบ้าง เพราะตัวอ้อยเองก็ทำธุรกิจอยู่กับสามี แต่เราก็จะมาดูว่าอะไรที่เราทำได้เราก็จะช่วยทำ ในส่วนของบริษัทตอนนี้เราเบรกไป ด้วยสปอนเซอร์ค่อนข้างหายากมาก แต่เราพร้อมทำ พี่อิ๋งเป็นคนที่รักลูกน้องมาก แกมีลูกน้อง 10 คน ช่วงโควิดหลายบริษัทลดเงินเดือนแต่พี่อิ๋งไม่เคยลดเลย จ่ายเต็มอยู่เหมือนเดิม” สำหรับอัฐิจะตั้งใจไว้อย่างไรบ้าง? “จะเอาไปลอยที่คุณพ่อกับคุณแม่ พื้นเพแกเป็นคนจังหวัดกระบี่ เราก็จะเอาอัฐิไปลอยรวมกับคุณพ่อคุณแม่ที่กระบี่” มีฝันถึง? “ไม่มี ก่อนที่พี่อิ๋งจะเสียพวกเราก็ไปนั่งเฝ้าแกที่โรงพยาบาล พยาบาลก็บอกว่ากลับไปก่อนค่ะเพราะตอนนี้ความดันพี่อิ๋งยังดีอยู่ คงยังไม่ตกวูบไปเลย เดี๋ยวถ้าค่อย ๆ เขยิบลงจะโทรเรียก ก็ซ้อมมาหลายรอบตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว พอโรงพยาบาลสั่งมาเลยค่ะเราก็ไป แต่พี่อิ๋งก็โอเคกลับมาดีขึ้น พอเมื่อวานโรงพยาบาลบอกกลับเลยค่ะ เดี๋ยวตอนเช้ามาใหม่ พอ 06.06 น. พยาบาลโทรเข้ามา บอกว่าให้รีบมาเดี๋ยวนี้ แล้วพี่อิ๋งก็ไปเลย พวกเราไปไม่ทัน แค่ไม่ถึง 7 นาทีที่โทรหาเราพี่อิ๋งก็สวิตช์ก็ดับไปเลย เราก็ถามหมอว่าถ้าปั้มขึ้นมาพี่อิ๋งสามารถมีชีวิตอยู่ได้ไหม หมอก็บอกว่าไม่ได้แล้ว ก็เป็นวาระสุดท้ายของเขาจริง ๆ ระบบมันค่อย ๆ พังไปทีละระบบ ปัสสาวะก็ไม่ถ่ายแล้ว น้ำในปอดก็ไม่ออกแล้ว แต่เขาก็ไม่ร้อยนะคะ” เรื่องวัดที่ตั้งใจจะทำกุศลให้พี่สาวมันจะเป็นไปได้? “เป็นไปได้ค่ะ หลังจากนี้เราจะตั้งพี่อิ๋งเป็นมูลนิธิขึ้นมาก่อน แล้วก็จะใช้เงินส่วนนี้ในการทำนุบำรุงศาสนา เพราะพี่อิ๋งเขาย้ำมาเลย เราถามพี่อิ๋งเอาวัดไหม เขาพยักหน้า เขาเอา แต่จะเป็นตรงไหนก็แล้วแต่บุญวาสนาเขาพาไปเลยนะ ถ้าเรามีเงินก้อนนี้ของพี่อิ๋งขึ้นมาปุ๊บ เขาต้องได้”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน