ถือเป็นข่าวเศร้าของวงการตลกอีสาน หลังเฟซบุ๊กเพจ : บ้านหมอลํารัตนศิลป์ โพสต์แจ้งข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “ยายสำ ขำกลิ้ง” หรือ นายทองสา ปากสี หรือ นายทองภาวัฒน์ ปากศรี บรมครูตลกหมอลำอีสาน ซึ่งได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 69 ปี ด้วยภาวะไตวายระยะสุดท้าย ครอบครัวนำร่างตั้งบำเพ็ญกุศล ณ วัดป่าบุญทันตา ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น
โดยเพจดังกล่าวระบุว่า “#หมอลํารัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ พร้อมด้วยครอบครัวหาญสุริย์ ขอแสดงความไว้อาลัย กับการจากไปของบรมครูตลกที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง นายทองสา ปากสี “ยายสำขำกลิ้ง” ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยภาวะไตวายระยะสุดท้าย ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สรวงสวรรค์กำหนดการบำเพ็ญกุศล นายทองภาวัฒน์ ปากศรี “ยายสำขำกลิ้ง” ณ วัดป่าบุญทันตา ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น กำหนดการดังนี้วันนี้ 9 -11 มิถุนายน 2565 เวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรม และวันที่ 12 มิถุนายน 2565 เวลา 13.00 น. เคลื่อนร่างไปยังเมรุ จากนั้นในเวลา 15.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจ ขณะเดียวกัน “ปอยฝ้าย มาลัยพร” ลูกทุ่งหมอลำชื่อดังได้โพสต์ข้อความอาลัยต่อการจากไปของ “ยายสำขำกลิ้ง” ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว@poyfai_fai ระบุว่า “อาลัยยิ่ง บรมครูตลกอีสาน สู่สรวงสวรรค์เด้อครับคุณยาย”
สำหรับประวัติของ “ยายสำ ขำกลิ้ง” มีชื่อจริงว่า นายทองสา ปากสี ฉายาตลกที่รู้จักกันดีในบท “ยายสำ” จากคณะหมอลำรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2496 ที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นเป็นศิลปินตลกที่ชาวอีสานที่ยืนหยัดคู่วงการหมอลำมามากกว่า 50 ปี ในอดีตมีความรักและใฝ่เรียนรู้ศิลปะการแสดงหมอลำหมู่ โดยได้มาฝึกเรียนหมอลำกับพ่อครูหมอลำบุญถือ หาญสุริย์ แห่งคณะรัตนศิลปิ์อินตาไทยราษฎร์ บ้านสะอาด ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น ก่อนจะได้รับบทการแสดงตลกหน้าเวที และได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จากนั้นจึงได้ด้านการแสดงตลกซึ่งถือว่าเป็นพรสวรรค์ส่วนตัวที่ได้พัฒนาจนกลายเป็นจุดเด่น และเป็นจุดขายให้กับการแสดงของคณะหมอลำ จนมีผลงานตลกประกอบการแสดงหมอลำออกมาหลายชุดผลงานที่สร้างชื่อเสียง คือ ตลกชุด “ ยายสำขำกลิ้ง” ทั้งยังได้วางรากฐานในการสืบสานและอนุรักษ์ศิลปะการแสดงหมอลำและตลกหมอลำ ให้คงไว้กับคนรุ่นหลัง ด้วยการให้ความรู้ ฝึกสอนสำหรับผู้ที่สนใจ ต่อมาในปี พ.ศ.2550 นายทองสา ปากสี จึงได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (ตลกอีสาน) ประจำปีพุทธศักราช 2550 จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ที่มา : ฐานข้อมูลศิลปินมรดกอีสาน).-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
