“แม่แตงโม” เข้าให้ปากคำ ตร.ไซเบอร์ 30 ประเด็น ยันเชื่อใจ “บังแจ็ค” 100%

ยังไม่จบง่าย ๆ กรณีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ที่แม้จะผ่านมานานกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่สามารถปิดคดีได้สิ้นสุด ล่าสุดวันนี้(7มิ.ย.2565) นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม พร้อมนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบพนักงานสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์  เพื่อให้ปากคำกรณีส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมให้บังแจ็คที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการเผยแพร่ภาพเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตและภาพส่วนตัวแตงโมในโซเชียล

เมื่อแม่แตงโมมาถึงได้ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า ไม่กังวลที่ต้องเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนวันนี้ และส่วนตัวยังเชื่อมั่นในตัวของบังแจ็ค 100 % เนื่องจากบังแจ็คเป็นบุคคลที่มีอัธยาศัยดีและมีเพื่อนฝูงอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวแม่เองยังพูดคุยกับบังแจ็คเป็นประจำ จากนั้นนายอัจฉริยะได้ประคองแขนแม่แตงโมขึ้นบันไดไปที่ห้องสอบสวนทันที

พลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญนางภนิดาแม่แตงโมมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ส่งให้บังแจ็ค จะมีการสอบถามใน 30 ประเด็น เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี เนื่องจากมีการนำภาพผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เป็นความผิดตาม ม.16 พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์
สำหรับ 30 ประเด็นที่จะสอบถาม อาทิ เหตุผล ที่แม่ส่งโทรศัพท์มือถือให้กับบังแจ็ค ซึ่งเป็นบุคคลที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่ในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย และที่สังคมสงสัยมีการโอนเงินให้กันหรือไม่ และตำรวจจะสอบถามว่าปัจจุบัน บังแจ็ค ส่งโทรศัพท์มือถือดังกล่าวคืนให้กับแม่แล้วหรือยัง ซึ่งตำรวจ สอท. สามารถขอเรียกโทรศัพท์ดังกล่าว มาตรวจสอบเพิ่มเติมได้ภายหลัง หากตำรวจมีข้อสงสัยที่เกี่ยวกับการสอบสวนมาตรวจสอบกรณีนี้

ส่วนกรณีบังแจ็คที่ตัวอยู่ต่างประเทศ มีกฎหมายอาญา มาตรา 20 ตำรวจ สอท. สามารถประสานกับอัยการสูงสุดออกหมายแดงติดตามตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย สำหรับเฟซบุ๊กในไทยที่บังแจ็คโพสต์ สอท.ได้ปิดไปแล้วเหลือเฟซบุ๊กที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งอยู่ระหว่างการประสาน โดยส่วนตัวมองว่า บังแจ็คเป็นคนเพ้อเจ้อ ไม่ใช่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแต่อย่างใด ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้ จะอนุญาตให้นางภนิดาและทนายความเข้าไปร่วมสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น จะไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมฟังการสอบปากคำเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้นำข้อมูลออกไปเปิดเผยสู่สาธารณชน


เข้าชม 247 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม