“แม่แตงโม”รู้สึกมีความหวัง “แตงโม” จะได้รับความยุติธรรม หลังได้เจอ “ส.ส.เต้” เผยที่ผ่านมา “ทนายเดชา” มีแต่ห้าม ไม่เคยแนะนำ!!!

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ค.2565) ที่ รัฐสภา “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” คุณแม่ของนักแสดงสาวผู้ล่วงหลับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” เปิดใจ ภายหลังยื่นหนังสือขอหลักฐานต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภาว่า ตนรู้สึกมีความหวังมากขึ้น แต่ก็ต้องทำตามระเบียบราชการ และรู้สึกดีใจที่ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” ส.ว. ในฐานะกมธ. มาช่วย ทั้งนี้ตนได้กล่าวขอโทษพญ.คุณหญิงพรทิพย์ ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่มี “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” เป็นทนายความในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ตอนนั้นตนไม่ค่อยได้พูดและไม่กล้าขัดใจทนายเดชา ส่วนกรณีที่มีการส่งพัสดุมายังกมธ. แต่ไม่ได้จ่าหน้าซองพัสดุเป็นชื่อบังแจ็คนั้น ตนเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้ ที่ผ่านมาที่ตนไม่ได้คิดว่าคดีของแตงโมเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากไม่มีใครแนะนำ และทนายเดชาก็ไม่ได้แนะนำ โดยบอกตนแค่ว่าอย่าทำ เดี๋ยวหาทางลงไม่ได้ และย้ำอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งฟ้าเปิดและได้มาเจอนายมงคงกิตติ์ จึงได้ทำอะไรทุกอย่างที่จะเป็นความจริง และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตนได้บอกกับแตงโมทุกวันว่าจะหาความยุติธรรมให้กับแตงโมให้ได้ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยินดีทำให้ลูก


เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงทนายเดชาหรือไม่ คุณแม่ภนิดาหัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “เลิกคิดถึงคุณแม่ได้แล้ว คุณแม่จ่ายค่าข้าวไปแล้ว ทำไมต้องปล่อยให้เป็นข่าวหลายวัน คิดว่านายเดชาเป็นคนปล่อย หากทนายเดชาคิดถึงคุณแม่ก็ขอให้เงียบ ๆ คิดถึงในใจ ตอนนี้คุณแม่ไม่รักทนายเดชาแล้ว แต่ยังคิดถึงอยู่ สามารถคิดถึงกันได้”

ด้าน“นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ “ส.ส.เต้” กล่าวเสริมว่า คุณแม่ไม่ทราบเรื่องนี้และตนก็พึ่งทราบ เมื่อถามว่ากระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบไม่ปกติหรือมีปัญหาหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ฟ้าเปิดและเห็นคุณแม่บอกว่าจะไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยตนเอง เพื่อให้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งขณะนี้รอให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะคณะทำงานร่างหนังสือเสร็จ ทั้งนี้ ตนอยากฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญและส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย สามารถเรียกคดีนี้ว่า”แตงโมโมเดล” หากคดีนี้ประสบความสำเร็จก็ถือว่าประชาชนช่วยกัน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกฎหมาย เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

โดย “ส.ส.เต้” เปิดเผยว่า “ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะใส่ใจ เห็นใจประชาชนที่สนใจและต้องการให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ หากนายกรัฐมนตรีกำชับกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษอย่างเต็มที่ เชื่อว่าความศรัทธาจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและตัวนายกรับมนตรีเอง ทั้งนี้ผมมองว่าตำรวจได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง จึงไม่อยากไปตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวเหมือนมาถูกทางแล้วแต่ดูเหมือนว่านายมงคลกิตติ์อาจถูกฟ้องดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การเป็นผู้แทนประชาชน หากเราปล่อยให้ประชาชนไปเจ็บปวดด้วยตัวเขาเอง และไม่รู้จักเสียสละเอาตัวเข้ามาฝ่ากระสุนแทน เราจะเป็น ส.ส.ไปทำไม หากเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องปากท้องประชาชนจะทำได้อย่างไร ส่วนกรณีที่ทนายเดชาออกมาระบุว่าอาจจะส่อผิดจริยธรรมส.ส.นั้น ก็ไม่เป็นไร หลุดเก้าอี้ส.ส.ก็หลุดไป เขาเรียกว่า “ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ได้ตลอดไป“.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 118 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม