กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลัง “ทนายเดชา” ทนายความของ “คุณแม่ภนิดา” คุณแม่ของนักแสดงสาวผู้ล่วงหลับ “แตงโม ภัทรธิดา” ไลฟ์เฟซบุ๊กแถลงว่า “คุณแม่ภนิดา” ยอมรับเป็นคนส่งมือถือ “แตงโม” ให้ “บังแจ็ค” ที่อเมริกา โดยส่งทางไปรษณีย์ เพื่อให้ “บังแจ็ค”กู้ข้อมูลในเครื่องของ “แตงโม” เนื่องจากต้องการค้นหาพยานหลักฐานว่าเป็นคดีแตงโมถูกมาตกรรมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาแม่ได้ไปที่ Apple Store ในไทย แต่ก็ไม่สามารถกู้ภาพขึ้นมาได้ จึงหลงเชื่อบังแจ็คว่าสามารถกู้ภาพได้และส่งโทรศัพท์ไปให้ เนื่องจากระยะหลังแม่และบังแจ็คพูดคุยกันบ่อยครั้ง จึงเชื่อใจ ยืนยันคุณแม่ไม่ได้บอกกล่าวกับตนก่อนจะส่งโทรศัพท์ไป คุณแม่มีเจตนาดี เชื่อว่า การโพสต์เฟซบุ๊ก ไอจี โทรไลน์ น่าจะเป็นฝีมือบังแจ็ค ส่วนการโอนเงินมาให้ ยังไม่มี ซึ่งอีก 2 วัน คุณแม่จะแถลงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยตัวเอง และปฏิเสธที่จะมาร่วมรายการ “ดราม่าวันนี้” ทางช่อง 9 Mcot HD หมายเลข 30 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตกปากรับคำเป็นอย่างดี โดยให้เหตุผลว่าคุณแม่รู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากโดนขู่ แต่ไม่ยอมบอกว่าใครขู่
ล่าสุด “บังแจ็ค” เปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านวิดีโอในรายการดราม่าวันนี้ว่า ก่อนหน้าที่ปฏิเสธว่าโทรศัพท์แตงโมไม่ได้อยู่ที่ผม เพื่อเก็บความลับไว้ เพื่อความปลอดภัย จริง ๆ ผมได้โทรศัพท์แตงโมมาเกือบ 1 สัปดาห์ หลังจากมีความเคลื่อนไหวในเพจของแตงโม โทรศัพท์มาถึงตอนนั้นคุณแม่ยังไม่รู้รหัส แต่บอกมาว่าเพื่อน ๆ แตงโมใช้รหัสเดียวกับรหัสเข้าบ้านแตงโม พอผมลองเอามาใช้ก็ปรากฏว่าใช้ได้ เปิดมาปุ๊บ ภาพ วิดีโอ ถูกลบจากเครื่องไป 2-3 พันภาพ icloud แจ้งเตือนมาแบบนี้ แต่ข้อมูลถูกลบจากเครื่อง ยังอยู่ในicloud ภาพที่โดนลบไปน่าจะเป็นคนถือเครื่องครั้งสุดท้ายก่อนแตงโมเสียชีวิตเป็นคนทำ เพราะคุณแม่แตงโมแค่แอดไลน์ยังทำไม่เป็นเลย กระติกอ้างว่าไม่รู้รหัสเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นรหัสเข้าบ้าน ผู้จัดการและเพื่อนรู้รหัสหมด มั่นใจว่ากระติกเป็นคนลบ ถามว่าทำไมคุณแม่ถึงส่งโทรศัพท์ให้ผม คือก่อนหน้านี้คุณแม่ได้รับจดหมายจากคนปริศนาว่าเป็นกระติกยอมรับสารภาพ คุณแม่อยากดูข้อมูลในเครื่อง แต่เปิดเครื่องทำไม่เป็น ผมบอกให้ไปที่ Apple Store ในไทย แต่คุณแม่ไม่ไว้ใจกลัวข้อมูลหลุด เลยส่งมาให้ผม ผมกับคุณแม่รู้จักกันประมาณ 2 เดือน หลังจากเกิดเรื่องกับแตงโม แต่คุณแม่ติดตามผลงานของผมมาสักพักแล้ว สนิทกันเพราะเข้าใจกัน เพราะหลังจากคุณแม่ไปออกรายการแล้วโดนด่าว่ารับเงิน 30 ล้าน ทั้งที่ต้องการให้แตงโมได้รับความยุติธรรม คุณแม่เครียด ต้องหาที่ปรึกษา หาคนรับฟัง เราก็ให้คำแนะนำคุณแม่ ครั้งแรกที่ติดต่อกันคือโทรคุยกัน ผมโทรไปหาคุณแม่ก่อน และคุยกันทุกวัน วันละกว่า 2 ชั่วโมง คุณแม่เป็นคนน่าสงสาร ทนายเดชาไม่เข้าข้างแม่ หลักฐานต่าง ๆ ที่ผมและสส.เต้ เอาไปให้เขาไม่เคยพูดว่าหลักฐานของฝั่งเราเป็นประโยชน์ ทนายกับคุณแม่ควรต้องเป็นทีมเดียวกัน แต่หลัง ๆ มันไม่ค่อยโอเคแล้ว ตำรวจก็ไม่ให้ความยุติธรรม หลัง ๆ คุณแม่ก็เลยเลือกที่จะมาปรึกษาผมแทน”
“ส่วนการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลของแตงโมเกิดขึ้นที่บอสตันและมีการโอนเงนจากบอสตันมาถึงไทยให้กับคนที่ใกล้ชิดที่แตงโมรักและเคารพ หลายคนตีความว่าผมเป็นคนโอนให้คุณแม่ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าตำรวจจะพูดเรื่องนี้ ให้เอาหลักฐานมา แค่การหาโทรศัพท์ของตำรวจยังไม่ตรงกับเมืองที่ผมอยู่ ตอนนี้ผมอยู่แคลิฟอร์เนีย ยืนยันว่าไม่เคยโอนเงินให้คุณแม่ มันไม่ใช่การซื้อขาย คุณแม่ให้โทรศัพท์มาเพื่อกู้ข้อมูล เสร็จจะส่งกลับไหมยังไงค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ผมเริ่มเคลื่อนไหวในเพจของแตงโมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้คดีเงียบ อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันยังมีอีกหลายอย่างในคดีมันผิดปกติ ผมเจอแอปพลิเคชัรอัดเสียงคนเวลาโทรเข้า-โทรออก โดนอัตโนมัติในโทรศัพท์ของแตงโม ซึ่งในนั้นมีข้อมูลที่จะเปลี่ยนแปลงรูปคดี เช่นคลิปเสียงที่ แตงโมพูดทำนองว่า “เขาก็ถูกทำร้ายจิตใจ เขาเป็นเพศแม่ ตัวเองเป็นเพศพ่อ…..” ผมยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวต่อ ข้อมูลไหนเปิดเผยได้ก็จะเปิดเผย ข้อมูลไหนเปิดเผยไม่ได้ก็ไม่เปิดเผย ก่อนจะเคลื่อนไหวอะไรก็บอกคุณแม่ให้รับทราบก่อน สำหรับกรณีที่ผมติดต่อไปหาคนสนิทของแตงโม เพราะอยากให้เขาชี้แจงว่าข้อมูลที่เราเจอในโทรศัพท์เป็นแบบนี้ไหม เพราะหากเป็นชื่อเราแอดไป เขาอาจจะไม่คุย เลยใช้ไลน์แตงโมคุย รวมถึงคุยกับ “โม อมีนา” ด้วย หลังจากที่ผมได้คุยกับกระติก ก่อนจะใช้ไลน์ส่วนตัวของตัวเองไลน์ไปคุยกับโม อมีนา เพื่อถามว่านิสัยแตงโมเป็นยังไง และเปิดกล้องให้โม อมีนา ดูภาพในโทรศัพท์ให้ดู ซึ่ง โม อมีนา บอกว่าแตงโมเป็นคนชอบแอดอัดคลิป หรือ อัดเสียง ทันทีที่เห็นความผิดปกติ ในอดีตแตงโมเคยถูกแบล็กเมล์ เลยติดต่อไปหาคุณวัน อยู่บำรุง เพื่อสอบถามเรื่องนี้ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด และ โม อมีนา ก็รู้ว่าการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในเพจแตงโม ผมเป็นคนทำ“
ส่วนเรื่องที่ติดต่อไปหากระติก แล้วเปิดภาพลับแตงโมขณะที่กระติกให้สัมภาษณ์ จริง ๆ มันคือการโทรวิดีโอคอลทางไลน์ ตอนแรกส่งข้อความไป กระติกตอบกลับมาแบบกวน ๆ เพราะคิดว่าผมกู้ข้อมูลไม่ได้ วันนั้นผมโทรไปหา ไม่ได้ส่งคลิปหรืออะไรให้ แต่ให้แพลนกล้องไปที่ไอแอดอีกเครื่องให้เขาดูว่าเรากู้ข้อมูลในมือถือของแตงโมได้ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเวลานั้นกระติกอยู่บ้านหรืออยู่ที่ไหน ในข่าวบอกว่าเป็นภาพส่วนตัวมาก ๆ ไม่ค่อยเหมาะสมที่จะเผยแพร่ ตั้งใจจะโชว์นั้นให้กระติกดู เพราะเหตุการณ์ในคลิปมันเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 ก.พ.2565 เขาเป็นเพื่อนกันมา 20 กว่า อาจจะเห็นอะไร ๆ มากกว่านั้น กิจกรรมนั้นเป็นคนอื่นถ่าย สีหน้าแตงโมเหมือนถูกบังคับอยู่ ซึ่งเวลา 3 ทุ่มกว่า ๆ ของวันเกิดเหตุ แตงโมน่าจะอยู่บนเรือ แต่ถ้าเหตจุการณ์เป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปแสดงว่าแตงโมไม่ได้อยู่บนเรือ เจตนาที่ผมโทรไปเพราะอยากให้กระติกพูดความจริง ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องพูดความจริง เขาคิดผิดแล้วว่าสิ่งที่ลบไปจะกู้คืนไม่ได้ เทคโนโลยีสมัยนี้มันกู้ได้ ซึ่งคลิปที่ถ่ายตอน 3 ทุ่มวันเกิดเหตุ คุณแม่ทราบแล้ว ก่อนจะโทรหาเพื่อนแตงโม ผมคุยกับคุณแม่ก่อน คุณแม่รับรู้และโอเคตามนี้ ก่อนหน้านี้โทรศัพท์เคยอยู่กับตำรวจ ถามว่าตำรวจไม่เห็นเหรอ ตำรวจเขาสามารถเปลี่ยนคดีได้ ทั้งที่ภาพในมือถือเห็นชัดว่าทุกคนถือแก้วไวน์ ถามว่าพอกู้ข้อมูลขึ้นมาแล้วสามรถระบุได้ไหมว่าข้อมูลที่ถูกลบ ลบวันไหน เมื่อไหร่ ในระบบแจ้งไว้หมดเลยครับว่าภาพที่ถูกลบ ลบวันไหน ลบเวลาไหน จากที่กู้ข้อมูลภาพโดนลบเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 25 ก.พ.2565 ซึ่งตอนนั้นยังไม่เจอร่างแตงโม และโทรศัพท์ยังไม่ได้อยู่กับตำรวจ ผมขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผมพูดความจริง ด้วยการส่งข้อมูลบางอย่างที่สามารถเปิดเผยได้ให้ทีมงานดู หลังจบรายการครับ“.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
