หลังนักแสดงสาว “แพรวา ณิชาภัทร” ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ตัดสินใจยุติสัมพันธ์รัก 2 ปีกับนักแสดงรุ่นพี่ “หน่อง ธนา” ว่าเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน ต่างฝ่ายต่างพยายามปรับจูนแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ไม่มีทางไปต่อได้ ฝ่ายหญิงจึงตัดสินใจเดินออกมา โดยยอมรับว่าการจบสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นการจบสัมพันธ์ที่ยากที่สุด เพราะต้องจบทั้งที่ยังรัก เป็นห่วงอยากจะทักก็ไม่กล้า เพราะยังตัวเองก็ยังไม่ไหวและกลัวว่า”หน่อง” เองก็จะไม่ไหวเหมือนกัน ได้แต่ถามผ่านคนอื่น ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีเรื่องของมือที่ 3 บอกที่ผ่านมาหนูรู้สึกเป็นช่วงเวลาที่ดี ถ้าย้อนกลับไปก็ไม่ได้นึกเสียใจ และหวังว่าจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ส่วนโอกาสรีเทิร์น ให้เป็นเรื่องอนาคต ถ้าเจอในไทม์มิ่งที่ใช่มันก็อาจจะใช่
ล่าสุด “หน่อง” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นกว่าช่วงแรก ๆ แต่ก็ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้ดูที่แพรวาออกมาให้สัมภาษณ์ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เพราะแต่ตั้งแต่จบกันไปก็ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันเลย เหตุผลที่ไปต่อไม่ได้ก็อย่างที่แพรวาบอก รวม ๆ คือเรื่องของการทำความเข้าใจกัน หลายเรื่องเราคุยกันแล้วไม่เข้าใจ ซึ่งก่อนจะตัดสินใจเลิกกัน เราปรับกันแล้ว ผ่านกระบวนการการประคับประคองแล้ว กระทั่งน้องเขาโทรมาบอกเลิกกันทางโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลย สัญญาณเตือนไม่มี แต่เราเห็นอยู่แล้วว่าหลายครั้งความคิดไม่ตรงกัน แต่ก็ปรับกันมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งที่มาคุยกันมาว่ามันอาจจะสุดได้แค่นี้ ตกใจเหมือนกันตอนที่เขาเอ่ยปากขอเลิก แต่มันก็เป็นเรื่องที่สุดท้ายเราตกลงกันแล้ว ถามว่าเฮิร์ตหนักไหม เป็นมนุษย์ก็มีเรื่องนี้เป็นธรรมดา อยู่ที่ว่าแต่ละคนฮีลตัวเองยังไง ผมฮีลตัวเองด้วยการอยู่กับเพื่อนไม่ก็อยู่กับวันใหม่ ส่วนการมูฟออนในเรื่องของการใช้ชีวิตถือว่าดีขึ้นในขั้นหนึ่ง แต่ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ครอบครัวก็ชวนให้ออกไปข้างนอก เราจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมจะออกไป ก่อนหน้านี้ก็มีเพื่อน ๆ รวมถึงพี่ ๆ สื่อส่งข้อความมาถาม แต่ผมได้แจ้งแล้วว่าขอพูดทีเดียว หลังจากที่น้องออกมาพูดแล้ว”
“เราจบสถานะแฟนกันแล้วและไม่ได้มีการติดต่อกัน แต่จะถามไถ่และส่งสารผ่านคนใกล้ตัวเขา หรือคนที่เราทั้งคู่รู้จักว่า”ฝากดูแลน้องด้วย ถ้าน้องไปหา” ตอนที่น้องให้สัมภาษณ์น้องบอกว่าหวังจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน อันนี้ผมโอเค อย่างที่บอกว่าเราคุยกัน ตกลงกันแล้ว ถ้าสุดท้ายเราไม่จบกันแค่นั้น เราอาจจะใช้คำว่ามองหน้ากันไม่ติดหรือเปล่า ผมอยากให้ให้วันหนึ่งเจอกันแล้วเรายิ้มให้กันได้ มันดีกว่าที่จะเป็นอย่างนั้น น้องบอกว่าเราเลิกกันทั้งที่ยังรักกันอยู่ ผมเองก็รู้สึกแหละครับ สาเหตุที่ทำให้เลิกกันมันไม่การทะเลาะกันในเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องเล็ก ๆ หลายเรื่อง เลิกกันทั้งที่ยังรักมีโอกาสกลับมารักกันอีกได้ไหม ผมเองตอบก็ไม่ได้ มีหลายคอมเมนต์บอกว่าเราเลิกกันเพราะรักกันไม่มากพอหรือเปล่า ความคิดเหล่านั้นไม่ผิด แต่ผมอยู่ในจุดที่มองเห็นทั้ง 2 ฝ่าย มองว่าเป็นเพราะเรารักกันมากพอ ที่จะไม่ทำร้ายกันมากกว่านี้ แฟนคลับตกใจ เพื่อน ๆ เองก็ถาม เราก็แค่บอกให้เขารับรู้ เขาก็รอให้เราดีขึ้นแล้วค่อยคุย ยืนยันว่าเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น ไม่มีคนอื่น ไม่มีมือที่สาม เรื่องที่น้องกลับไปหาแฟนเก่าอย่างที่น้องว่านั่นแหละ”
“ไลน์หรือข้อความเก่า ๆ ก็ไม่ได้เปิดอ่านแล้ว เพราะถ้าเราเปิดเราก็สามารถพิมพ์หาเขาได้ แต่ก็ไม่ได้บล็อกการติดต่อ สามารถที่จะเจอกันได้ ส่วนวันใหม่เขารู้เรื่องหมดแล้ว เห็นข่าวหมดแล้ว เราเองก็ตกใจที่เขารู้ แต่เขาก็ไม่ถาม วันใหม่โตมาก เขาน่าจะรู้ว่ายังไม่ควรถามตอนนี้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเราทั้งคู่ เชื่อว่าเวลาจะฮีลเราทั้ง 2 คนให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ ถามว่าพร้อมเปิดใจหรือยังตอนนี้ ผมไม่ได้เปิดและไม่ได้ปิด มุมมองความรักไม่ได้เปลี่ยนขนาดนั้น การได้คบกับเขาก็ ๆได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น รู้ว่าคบกับคนที่เด็กกว่าเรา คนวัยขนาดนี้เขามีความคิดยังไง มันดีที่ได้เรียนรู้กัน รักครั้งใหม่ต้องเป็นคนที่อายุเยอะไหม ผมว่ามันไม่เกี่ยว ถ้าจะใช่ก็คือใช่เองครับ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน