แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะทำการแถลงสรุปสำนวนการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม ภัทรธิดา”และส่งสำนวนให้อัยการ จ.นนทบุรี ดำเนินการต่อแล้ว แต่อัยการมีความเห็นให้สอบสวนสอบเพิ่มอีกกว่า 20 ประเด็น เพื่อให้ความสงสัยและข้อสงสัยต่าง ๆ ที่สังคมยังคาใจอยู่เกิดความกระจ่าง เนื่องจากเห็นว่าสำนวนที่ส่งมายังไม่สมบูรณ์ ไม่รัดกุมเพียงพอที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ พนักงานสอบสวนจะมีการประชุมหารือเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นตามที่อัยการแนะนำ
ล่าสุดวันนี้ก็มีประเด็นใหม่เกี่ยวเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อ”นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดแถลงเปิดหลักฐานใหม่คดีแตงโม โดยได้เปิดคลิปประกอบการแถลงข่าว ซึ่งมีทั้งคลิปเสียงการสนทนากัน การสนทนากับเพื่อนของปอ และคลิปการนำใบพัดเรือมาทดสอบกับร่างของแตงโม เพื่อให้การจำลองเข้ากับคำให้การของ “แซน วิศาพัช” ซึ่งมี พล.ต.ต. อักษรย่อ “ว”เป็นผู้วางแผนทั้งหมด และไม่ได้แจ้งให้แม่แตงโมและทนายความทราบ โดยนายอัจฉริยะอ้างเชื่อว่าบาดแผลแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือเกิดจากการฆาตกรรม
ต่อมา “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ทนายความความคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ถึงเรื่องนี้ว่า “ที่เขาบอกว่าหลักฐานใหม่ อันนี้ไม่เห็นมีหลักฐานใหม่นะ ส่วนใหญ่ก็เอาคลิปของรายการโหนกระแสมา ซึ่งวันนั้นผมก็อยู่ในรายการด้วย ที่มีผู้เชี่ยวชาญเอา GPS มา เพราะฉะนั้นไม่ใช่หลักฐานใหม่ เป็นหลักฐานที่เคยออกทางสถานีโทรทัศน์แล้ว และที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ อันนั้นก็วิจารณ์เองตามความเข้าใจ ตัวเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร นอกนั้นก็เป็นเรื่องคลิปนิติเวช ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่ก็น่าเป็นห่วง เขาอาจจะถูกดำเนินคดีหรือเปล่า เรื่องการนำความลับทางราชการมาเปิดเผย อันที่สองเอาภาพร่างแตงโมมาแถลงข่าวเนี่ย ขออนุญาตคุณแม่หรือยัง ถ้ายังไม่ขอ คุณแม่เขาได้รับความเสียหายนะ เขาอาจจะมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทศพ และอื่น ๆ ถ้ามี ผมก็ได้คุยกับคุณแม่บางส่วนไปแล้ว และภาพจากนิติเวชต่าง ๆ ที่เป็นภาพนำร่างมาทดลองบาดแผล เป็นภาพตัดต่อหรือไม่อย่างไร อันนี้ก็ต้องพิสูจน์”
“ช่วงบ่ายวันนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 น่าจะแถลงข่าว น่าจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะคนที่ได้รับผลกระทบมันเยอะ ทั้งหมอตำรวจ ตำรวจ ผู้การ ว. ซึ่งพี่น้องประชาชนก็น่าจะรู้ว่าหมายถึงใคร ส่วนแชทไลน์ใครทำขึ้นเองก็ได้ ถ้าจะพิสูจน์ก็ต้องส่ง ปอท. ว่าแชทไลน์มาจากโทรศัพท์หมายเลขอะไรยังไง ถ้าแชทปลอมคนที่แถลงข่าวก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าแชทจริง เป็นเจ้าพนักงานเอาความลับในการสอบสวนมาเปิดเผย ก็ มาตรา 157 งานนี้ต้องมีคนถูกดำเนินคดีอาญา จะเป็นใครเดี๋ยวดูต่อไป สำหรับคลิปเสียงของนายตี๋คุยกับบุคคลภายนอก ทำนองว่ามีการโกหกเกี่ยวกับเรื่องฉี่ท้ายเรือ อันนี้ก็เป็นเรื่องของบุคคลภายนอกคุยกัน ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อรูปคดี ผมเชื่อว่าตรวจต้องเรียกนายตี๋มาสอบ นายตี๋คือคนที่เคยมีคดีเรื่องรถปอร์เช่สีเหลือง ที่มีการยิงกันแถวหลักสอง ตอนนี้ตำรวจรู้แล้วว่านายตี๋คือใคร นายตี๋คือเพื่อนรักนายอัจฉริยะด้วย ก็ไม่แปลกที่นายอัจฉริยะเอาคลิปของนายตี๋มาพูด ถ้านายตี๋พูดเรื่องจริง นายปอก็อาจโดนข้อหาเพิ่ม ถ้าสมมติมีการโกหกเรื่องฉี่ท้ายเรือจริง แล้วอ้างถึงนายปอ นายปอก็ต้องมีคดีเพิ่ม เท่าที่ผมทราบล่าสุดมา พนักงานสอบสวนได้สอบเพิ่มเติมตามคำสั่งอัยการ 20 ประเด็นกำลังจะจบแล้ว การสอบสวนเสร็จสิ้น พนักงานอัยการก็ส่งฟ้องเลย สิ่งที่อัจริยะกำลังทำไม่มีผลกับรูปคดีเลย“.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน