“เก้า จิรายุ” ชวดทหาร! ป่วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจเต้นผิดปกติ ขัดต่อการรับราชการ

เมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 9 เม.ย.2565 ที่ศาลาการเปรียญ วัดอยู่ดีบำรุงธรรม แขวงออเงิน เขตสายไหม ซึ่งใช้เป็นหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2565 นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม “เก้า จิรายุ” วัย 27 ปี เดินทางมาพร้อมคุณแม่ “ก้อย วรณัชชา” เพื่อเข้ารายงานตัวเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่เจ้าตัวเคยถูกตัดสิทธิ์จากการสมัครเข้ารับใช้ชาติไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากแพทย์ประจำหน่วยคัดเลือกตรวจพบว่าเจ้าตัวมีสภาวะคลื่นไฟฟ้าหัวใจเต้นผิดปกติ จึงให้กลับไปรักษาตัวและกลับมารายงานตัวใหม่ในปีถัดมา


ทั้งนี้ “เก้า” ได้นำใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อนำมายื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจเช็กประวัติการรักษาโรคต่าง ๆ ที่อาจจะส่งผลต่อการเข้ารับใช้ชาติ หลังจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินฯ ได้ตรวจเช็กเอกสารผลการตรวจร่างกายโดยละเอียดและตรวจสุขภาพซ้ำอีกครั้งในวันนี้ พบว่า “เก้า” มีสภาวะคลื่นไฟฟ้าหัวใจเต้นผิดปกติจริง จึงจัดให้อยู่ในกลุ่มคนจำพวกที่ 4 ได้แก่ คนพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคและสภาพสภาพจิตใจที่ขัดต่อการรับราชการ จึงไม่สามารถเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารได้

หลังเสร็จสิ้นการยื่นเอกสาร “เก้า” เผยความรู้สึกว่า “จริง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไรเลยปีนี้ ปีที่แล้วตั้งใจตอนแรกถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็สมัคร สมัครไปแล้วด้วย แต่มันก็ติดเรื่องร่างกายนิดหน่อยเป็นประเภทที่ 3 ครับ เพื่อที่จะไปเช็กอาการดูว่ามันจะดีขึ้นไหม วันนี้เขาผลตรวจสุขภาพมายื่นคุณหมอบอกว่าผลออกมาเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเขาก็บอกว่าให้เป็นประเภทที่ 4 ความจริงแล้วอาการมันเริ่มจากการที่ผมไปตรวจร่างกายตอนนั้นเข้าโรงพยาบาลปกติ พักผ่อนน้อย เขาก็ตรวจเช็กอัพทุกอย่างที่เกี่ยวกับหัวใจก็ถึงเจอ เพราะตรวจปกติไม่เจอ มันต้องตรวจเป็นคลื่นไฟฟ้าอะไรสักอย่าง หมอหัวใจโดยตรงเป็นคนตรวจ ที่ผ่านมาก็มีเรื่องของการวูบ หมอบอกว่าเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกัน ให้ระวังตัวเองไว้ก่อน เพราะมีความเสี่ยงที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวแบบเฉียบพลัน ต้องดูแลตัวเองด้วยการพยายามไม่ออกกำลังกายหนักและพักผ่อนให้เพียงพอ ไปติดตามอาการทุกปี แต่ปกติผมไม่ค่อยชอบตรวจสุขภาพ ไม่ชอบเข้าโรงพยาบาล ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่ไหวจริง ๆ ก็ไม่ไป แต่หลังจากนี้ต้องเช็กอัพเรื่อย ๆ

สำหรับผลการพิจารณาก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่ เพราะผมตั้งใจว่าจะไม่จับใบดำ-ใบแดงอยู่แล้ว มีแต่สมัครไปเลยถ้าผ่านเราก็สมัครเลยดีกว่า เพราะเราจะได้แพลนทุกอย่างได้ พอไม่ผ่านเราก็ไม่ต้องเป็นตามที่เขาบอก ทำตามระบบ ถ้าสมัครได้ก็จะสมัคร แต่สมัครไม่ได้ก็ไม่ได้อะไร เฉย ๆ กลาง ๆ เป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ทำตามกฎ ส่วนแพลนงานไม่มีอะไรให้ต้องเคลียร์ เพราะไม่ได้รับงานอะไรไว้ล่วงหน้าครับ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 2,065 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม