ทนกับอาการปวดเมื่อยและชาที่แขนด้านขวามาพักใหญ่ ล่าสุด “แพท พาวเวอร์แพท” หรือ “แดดดี้แพท” เคลียร์คิวงาน เข้ารับการผ่าตัดใหย่ในชีวิต เพื่อรักษาโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท เนื่องจากระดูกคอเสื่อมจากการก้ม ๆ เงย ๆ ใช้คอผิดท่าเป็นเวลานาน คาดเป็นอาการเรื้อรังที่สะสมมาหลายปีจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา หากไม่ผ่าตัดรักษาเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เสียดายหลังผ่าตัดไม่สามารถวาดรูปใหญ่ ๆ ที่ใช้เวลานานและเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่รักได้เหมือนเดิม โชคดีไม่มีผลต่อการร้องเพลง-เล่นดนตรี แต่ต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพและใส่ใจตัวเองมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ “แดดดี้แพท” เปิดใจกับผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า ปลายปีที่แล้วมีอาการปวดเมื่อยแขนด้านขวา และมีอาการเหน็บชาที่แขนขวา ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะทำคอมพิวเตอร์ตัดต่อคลิปช่อง YouTube ของตัวเองหนักเกินไป หรือเกี่ยวกับการซ้อมกีตาร์ จึงซื้อยาแก้ปวด แผ่นแปะแขนคลายกล้ามเนื้อ และกินยาคลายกล้ามเนื้อต่าง ๆ แต่ก็ไม่หาย กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ปีที่แล้ว ขณะที่เล่นคอนเสิร์ตอยู่รู้สึกว่าอาการเริ่มรุนแรงขึ้น เวลาดีดกีตาร์จะเกิดอาการเหน็บชา พอกลับมากรุงเทพเลยตัดสินใจมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล จากการเอ็กซเรย์ได้เห็นภาพของคอที่กระดูกแต่ละข้อผิดรูปไป จะมีบางข้อที่หล่นลงมาชิดกัน จนทำให้เกิดการทับเส้นประสาทที่อยู่ในบริเวณข้อต่าง ๆ ข้อที่สาหัสอยู่ก็คือข้อที่ 5 และข้อที่ 6 จึงได้ส่งตัวไปทำ MRI เพื่อทำการวินิจฉัยให้เห็นภาพของกระดูกคอชัดเจนมากยิ่งขึ้น แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกระดูกคอบอกว่าอาการค่อนข้างหนักและน่าเป็นห่วงมาก ๆ และไม่ใช่แค่ข้อที่ 5 และข้อที่ 6 แต่ยังมีข้ออื่นที่เกิดอาการเสื่อมด้วย เนื่องจากหมอนรองกระดูกเสื่อม จากการใช้คอเป็นเวลานาน ๆ เป็นอาการเรื้อรังจากการก้มเป็นเวลา 10 ปี แพทย์ระบุว่าจริง ๆ อาการรุนแรงมาไม่น้อยกว่า 1-2 ปีแล้ว แต่ตนไม่รู้ตัว “แพท” เผยเพิ่มเติมว่า “ตอนที่ตรวจพบเบื้องต้นคุณหมอก็ให้ทานยาในการระงับอาการชา เพื่อให้สามารถทำงานได้ก่อนช่วงระยะเวลาที่รอผ่าตัด เพราะคุณหมอบอกว่ายังไงก็ต้องผ่าตัด เพราะมันจะอันตรายมากถ้าเราโดนกระแทก หรือล้ม หรือว่าเกิดอุบัติเหตุมีการผลัก การชน การกระแทกต่าง ๆ จะทำให้กระดูกที่มันทับอยู่ไปกดเส้นประสาทจนอาจส่งผลให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตครึ่งซีกได้ ซึ่งอาการหมอนรองกระดูกเสื่อม ทำให้กระดูกก็เลยหล่นมาทับเส้นประสาท ส้นประสาทจึงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เนื่องจากโดนทับโดนกดอยู่ แพทย์ทำการผ่าตัดกระดูกข้อที่หนักที่สุดโดยการส่องกล้อง เปลี่ยนเป็นหมอนรองกระดูกเทียม ซึ่งเป็นโลหะไทเทเนียมยึดน็อตดามกระดูกข้อที่ 5 และข้อที่ 6 ให้ยืดขยายขึ้น เส้นประสาทที่เคยถูกทับก็จะมีพื้นที่ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ คาดว่าอาการดังกล่าวมาจากการใช้ชีวิตตอนที่อยู่ในเรือนจำที่วาดรูปวันละ 6-7 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน ซึ่งในเรือนจำที่นั่งหรือโต๊ะอาจจะไม่ค่อยเพียงพอต่อจำนวนผู้ต้องขัง และไม่ได้สะดวกสบาย ก็เลยทำให้ลักษณะของการนั่งทำงานต่างๆ ในแต่ละวันอาจจะไม่ถูกลักษณะท่าทางที่ถูกต้อง เลยเกิดอาการสะสมไปเรื่อย ๆ ตลอด 16-17 ปีที่ผ่านมา ส่วนแขนซ้ายก็เริ่มมีปัญหา ไม่ถึงกับหมดแรง แต่มันจะรู้สึกชาและปวดตั้งแต่หัวไหล่ลามไปตรงฝ่ามือ รุนแรงตรงนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง มันค่อนข้างทรมาน แต่ไม่ถึงกับจับปิ๊กกีตาร์แล้วร่วงขนาดนั้น แค่จับแล้วแรงมันไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์”
“ยอมรับว่าตกใจ หลังแพทย์บอกว่าความเสี่ยงสูงสุดอาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้เลย หลังจากนี้ต้องบริหารชีวิตการทำงานของใหม่ ต้องระวังทุกอย่าง เวลานั่งต้องมีหมอนรองคอ เวลาไปทัวร์คอนเสิร์ตต้องบอกผู้จัดการวงคอยเซฟ ตามประกบ อย่าให้ใครมาชนเรา ระวังไม่ให้เกิดการล้มหรือกระแทก เบา ๆ เรื่องการโยกหัวขณะโชว์ ในอนาคตถ้าใช้ชีวิตไม่ระวังหรือไปทำอะไรแบบเดิมซ้ำ ๆ มันก็มีโอกาสเป็นได้ง่าย มีประมาณ 2 ข้อที่เริ่มเสื่อมแล้ว เพราะฉะนั้นงานวาดรูปชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องใช้เวลาทำนาน ๆ คงไม่สามารถที่จะวาดได้แล้ว แต่รูปเล็กๆ ที่ใช้เวลา 1-2 วัน ใช้เวลาสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วโมงอาจจะทำได้ แต่งานชิ้นใหญ่คิดว่าในชีวิตนี้ผมคงไม่สามารถเขียนได้อีกต่อไป จริง ๆ การวาดรูปคือสิ่งที่ผมรัก แต่หลังจากนี้ไม่สามารถทำในสิ่งที่รักได้เหมือนเดิมแล้วก็รู้สึกเสียดาย ผมเคยมีความฝันที่อยากจะทำงานศิลปะไปตลอดควบคู่กับการเล่นดนตรี แต่พอเป็นแบบนี้ก็คงไม่สามารถที่จะทำได้อีกต่อไป ใครที่ครอบครองงานศิลปะผมอยู่ก็คงมีเท่านี้แล้วครับ ส่วนเรื่องดีดกีตาร์เล่นดนตรีไม่มีปัญหาครับ อย่างการโยกหัวเราก็ไม่ได้ทำหนักหรือบ่อยขนาดนั้น สามารถระวังตัวเองได้ ผลกระทบหลังผ่าอาจจะส่งผลกระทบต่อเส้นเสียงในการเปล่งเสียงร้องเพลงจะไม่เหมือนเดิม “แพท” ยอมรับว่าค่อนข้างกังวล แต่มั่นใจในฝีมือหมอ จึงหายห่วงไปเยอะ คิดว่าน่าจะโชคดีไม่เป็นอะไรมาก แต่ยังมีอาการเจ็บคอเวลาทานอาหารและกลืนน้ำลาย เพราะต้องสอดท่อเพื่อนำเลือดที่คั่งอยู่ในคอออก ต้องใช้เวลาพักฟื้น คุณหมอบอกว่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น วันแรกหลังจากผ่าตัดก็จะมีการสอดท่อเพื่อนำเลือดที่คั่งอยู่ในคอให้ไหลออกมา พอวันที่ 2 คุณหมอก็เอาออก อยู่โรงพยาบาล 4 วัน แล้วก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อได้ กว่าจะกลับไปปกติเหมือนเดิมก็ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลายคนมองว่าเป็นมรสุม แต่ผมมองว่าไม่ได้หนักหนาขนาดนั้น เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของวัย เรื่องของร่างกายที่ย่อมมีการเสื่อมโทรมและไม่เหมือนเดิม รวมถึงเกิดจากการใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นที่ค่อนข้างหนักหน่วงมากกว่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกคนพบเจอได้ เราก็พยายามแก้ไขและป้องกันได้ ส่วนการทำงานก็ยังทำได้เต็มที่และรักษามาตรฐานคุณภาพงานเหมือนเดิม แต่ต้องเซฟตัวเองยังไงไม่ให้มีผลกระทบทั้งกับร่างกายและงานที่ทำ”
ล่าสุดทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนได้รับการเปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้แพทกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว คุณหมอให้ดูอาการต่อที่บ้าน 1-2 สัปดาห์ แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะวิธีการรักษาแพทต้องสอดกล้องเข้าทางลำคอ ทำให้มีผลข้างเคียง อยากให้แพทได้พักฟื้นก่อน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ให้สัมภาษณ์อัปเดตกับแฟน ๆ แน่นอน ผลกระทบกับการทำงานไม่มี เคลียร์ทุกอย่างก่อนเข้ารับการผ่าตัด แต่หลังจากพักฟื้นเสร็จ มีคิวงานรอแน่นมาก.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์