เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 มี.ค.2565 “พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการ สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา เปิดเผยว่าวันนี้จะรายงานคณะกรรมาธิการฯถึงกรณีที่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรร่างของ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ซึ่งเห็นว่าแพทย์นิติเวชชุดแรกได้ทำการตรวจที่ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยมีกรณีเพิ่มเติมเรื่องน้ำในลูกตาที่พบว่ามีแอลกอฮอล์ 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และพยายามที่จะพิสูจน์ในประเด็นที่ว่ามีการปัสสาวะท้ายเรือตามคำให้การของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือไม่อย่างไร
ส่วนการตรวจหายูเรีย ไม่มีการแปรผล และแผลที่ขาขวาและรอยช้ำที่ต้นขาซ้าย รวมถึงบาดแผลที่มีรอยชัดขึ้นหรือบาดแผลที่มีลักษณะเฉพาะ โดยข้อมูลทั้งหมดนั้นได้แถลงข่าวเพื่อประสานไปยังพนักงานสอบสวนว่า หากได้บูรณาการร่วมกันกับแพทย์อาจจะหาคำตอบได้ว่าแตงโมตกกระทบกับอะไร รวมถึงบาดแผลฉีกขาดว่าเกิดจากอะไร ทั้งนี้จากการร่วมสังเกตการณ์นั้น สามารถได้คำตอบในสิ่งที่แม่แตงโมห่วงกังวลว่าแตงโมจะโดนทำร้าย ซึ่งได้คำตอบว่าไม่มีประเด็นนี้ ขณะเดียวกันกำลังหาคำตอบถึงต้นเหตุการตกน้ำคืออะไรและบาดแผลทั้งหมดเกิดจากอะไร เชื่อว่าเมื่อรายงานแล้ว กรรมาธิการสามารถนำข้อมูลมาค้นหาความจริงต่อได้
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ในคดีนี้ยังไม่สามารถที่จะสรุปชี้ชัดได้ว่าเป็นการฆาตกรรมตามที่มีการตั้งข้อสงสัยหรือไม่ แต่หลักฐานที่จะใช้ประกอบกันคือหลักฐานที่ร่างและหลักฐานที่เรือ รวมถึงคำให้การของบุคคลที่อยู่ในเรือทั้ง 5 คน และหลักฐานที่อยู่ในที่ต่างๆ คดีนี้แม้จะมีข้อมูลหลักฐานมาก แต่การสรุปคดีอยู่ที่การประมวลหลักฐาน ต้องติดตามว่าตำรวจจะสรุปคดีอย่างไร แต่ไม่อาจสรุปได้ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้น เกิดจากการไปปัสสาวะหรือโดนใบพัดอย่างเดียว ต้องทำหลายอย่างร่วมกัน ส่วนแผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิต จะมีการหารือพูดคุยในกรรมาธิการวันนี้ เนื่องจากแพทย์ไปยืนยันว่าเป็นแผลที่เกิดขึ้นก่อนกันเสียชีวิต โดยประเด็นที่จะต้องยืนยันคือ เกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือเกิดขึ้นหลังจากที่ตกน้ำไปแล้ว โดยปล่อยให้เป็นกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ
สำหรับกรณีที่มีทนายความคนหนึ่งโพสต์คลิปว่า “พบหยดเลือด หรือก้อนเลือดในแผล ที่อาจทำให้คดีพลิก” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ชี้แจงว่าไม่ได้กล่าวเช่นนั้น อาจเป็นเพราะการรับฟังข้อมูลที่ส่งต่อกันมาแล้วเกิดความคลาดเคลื่อน ซึ่งแพทย์ที่ได้พูดคุยกับทนายความได้ต่อสายมาขอโทษแล้ว และยอมรับว่าสิ่งที่ได้พูดต่อนั้นไม่ได้ทราบมาด้วยตัวเองแต่เป็นการฟังมาอีกทีหนึ่ง ส่วนกรณีที่ถูกพาดพิงโจมตีเรื่องของการรับผลประโยชน์จากการเข้าร่วมชันสูตรนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เผยว่าชินแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ไม่ได้สนใจ มั่นใจว่าอดีตที่ผ่านมาก็จะบ่งบอกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะไปเลือกทำงานนิติเวชทำไม ซึ่งไม่เคยได้อะไรพิเศษจากหน่วยงานไหนหรือเอกชนใด แต่จะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ความจริงปรากฏ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
