“ได๋” เห็นด้วยให้โควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น อยากให้อาสากลับมาช่วย ห่วงการแพร่ระบาดช่วงสงกรานต์

เปิดเพจทำโครงการ “เราต้องรอด” มาตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2564 แต่พิธีกรมากความสามารถ “ได๋ ไดอาน่า” ยังยืนยันที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ต่อไปแบบไม่เลือกหน้าใคร แม้ช่วงนี้จะต้องยอมรับว่า หลายคนเริ่มไม่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยเท่าแต่ก่อนแล้ว ซึ่งได๋ในฐานะจิตอาสาเผยว่าไม่อยากให้ทุกคนชิลมากจนเกินไป การฉีควัคซีนแล้วไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อแล้ว ซึ่งต้องดูแลตัวเองอย่างเต็มที่และรัดกุม ทุกคนชอบคิดว่าติด ๆ ไปเถอะ แต่ต้องคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตในระยะยาวด้วย มันไม่ใช่แฟชัน และที่สำคัญติดแล้วก็ติดอีกได้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในช่วงนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้

ส่วนการประกาศไฟเขียวเตรียมให้โรคโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกรฎาคมนี้ ได๋เผยว่า รู้สึกเห็นสมควร แต่ขณะเดียวกันสายพันธุ์โอมิครอนที่หลายคนบอกว่าไม่รุนแรง ยังคงมีการกลายพันธุ์ของเชื้ออยู่เรื่อย ๆ สิ่งเหล่านี้คือการที่เราต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น นอกจากนี้ยังมีความกังวลการแพร่ระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ด้วย

ด้านอาสาสมัครโครงการ “เราต้องรอด” ที่ก่อนหน้านี้มีจำนวนหลายพันคน แต่ ณ วันนี้เหลือกันเพียงหลักสิบคนเท่านั้น โดยเป็นผลมาจากความต้องการที่จะไปใช้ชีวิต ทำมาหากินของตัวเอง รวมไปถึงการถูกผู้ป่วยด่าเยอะ แล้วทนไม่ไหว คำพูดที่เจอบ่อยคือ “ติดต่อไปแล้วทำไมเพิ่งโทรกลับมา” ในฐานะอาสาสมัครก็ได้แต่บอกตัวเองว่า เอาเท่าที่ไหว ไม่น้อยใจ แต่เข้าใจ เพราะถ้าเราเป็นเขา เราก็คงเป็นเหมือนกัน แต่ยังคงอยากให้อาสาสมัครกลับมาทำงานด้วยกัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวกับสถานการณ์ข้างหน้า ตอนนี้ส่วนตัวควักเงินจนไม่มีอะไรจะควักแล้ว ซึ่งได้ทำงานร่วมกับภาครัฐด้วย ตอนนี้หากใครที่สนใจบริจาคยาหรือติดต่อเพื่อขอสมัครเป็นอาสาช่วยเหลือการส่งยาหรือดูแลผู้ป่วย สามารถติดต่อไปที่เพจเราต้องรอดได้เสมอ


เข้าชม 178 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม