นักแสดงและพิธีกร “มอร์ริส เค” เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทน ก่อนที่ค่ำคืนนี้(16มี.ค.)จะเดินทางสู่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อพบหน้าคุณพ่อแท้ ๆ ชาวอเมริกันเป็นครั้งแรก หลังใช้ทั้งชีวิตตามหามานานถึง 57 ปี “มอร์ริส เค” เปิดใจว่าก่อนหน้านี้ได้พยายามตามหาคุณพ่อแท้ ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ ก่อนที่อายุ 34 ปี เจ้าตัวจะมีโอกาสได้เจอกับคุณแม่แท้ ๆ ซึ่งได้มีการสอบถามข้อมูลของคุณพ่อ ซึ่งได้คำตอบมาเพียง “คุณพ่อมีหน้าตาหล่อเหลากว่า มอร์ริสเค” เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวที่มีอยู่
ก่อนที่คำถามเกี่ยวกับพ่อจะเกิดขึ้นตลอดชีวิตของ “มอร์ริสเค” ว่าพ่อแท้ ๆ เป็นใคร เจ้าตัวได้จินตนาการชื่อของคุณพ่อขึ้นมาเล่น ๆ ว่า “โรเบิร์ต” เพื่อเอาไว้ใช้ตอบคำถามคนรอบข้าง ยอมรับว่าก่อนหน้านี้รู้สึกอยากตามหาพ่อเพราะรังเกียจ ต้องการแก้แค้น รู้สึกว่าทำไมพ่อต้องทิ้งพวกเราไป กว่า 57 ปีที่เจ้าตัวไม่เคยได้พบหน้าพ่อ เจ้าตัวเชื่อในพระเจ้าว่าคงจะต้องการให้เวลาในการจัดการความโกรธของตัวเองที่มีต่อพ่อ ซึ่งก็ได้ผล เพราะล่าสุดเจ้าตัวได้หายโกรธ ไม่มีอีกแล้วความคิดแก้แค้น มีแต่ความรู้สึกขอบคุณที่มอบชีวิตให้ ที่ผ่านมายอมรับว่าโหยหาอ้อมกอดของคนที่เป็นพ่อมาก ย้อนกลับไปราว 3 ปีก่อน เจ้าตัวได้รู้จักนวัตกรรมหนึ่งที่คนในหลายประเทศมักใช้เป็นเครื่องมือในการตามหาตัวทหารชาวอเมริกันที่เคยไปตั้งฐานทัพในประเทศต่างๆ อย่างเครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องตรวจ DNA ที่พกพา ซึ่งราคาเกือบ 2,000 บาท โดยจะมีการนำ DNA ไปตรวจเช็กกับธนาคาร DNA ซึ่งใช้เวลาราว 1 เดือนเจ้าตัวก็ได้ทราบผ่านทางอีเมลว่าตรวจพบบุคคลที่มีเชื้อ DNA ที่ตรงกัน ก่อนจะสืบต่อจนได้พบกับ “Isaiah Roberts” ชายชาวอเมริกัน วัย 80 ปีในขณะนั้น ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา จึงได้ทำการติดต่อไป และพบว่านั่นคือพ่อแท้ ๆ ที่รอคอย
มอร์ริสเค เผยต่อว่าโชคดีมากที่ได้เจอพ่อ ซึ่งโอกาสที่มีอยู่คือ 50/50 แต่สิ่งที่อยากขอบคุณพ่อมากกว่าคือการที่พ่อยอมรับว่าเราเป็นลูก หลายคนบอกกับคุณพ่อว่าให้ DNA ไปตรวจเช็กอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ แต่คุณพ่อกลับพูดว่าไม่ต้องไปตรวจแล้ว เพราะ DNA ทุกอย่างปรากฎอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่แล้ว เพราะพ่อ-ลูกมีใบหน้าที่คล้ายกันมาก คืนนี้ตั้งใจจะเดินทางไปคนเดียวที่อเมริกา จัดกระเป๋าและนอนไม่หลับอยู่หลายวัน รู้สึกตื่นเต้นมาก หากไปถึงที่อเมริกาจะไปทำการกักตัวเองเป็นเวลา 7 วัน เพื่อจัดการตัวเองให้แข็งแรงปลอดภัย เพื่อที่จะไม่นำโรคภัยไปติดคุณพ่อ ซึ่งวันแรกที่ได้เจอคุณพ่อตั้งใจจะนำพวงมาลัยไปกราบและพูดขอบคุณ ซึ่งได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้คุณพ่อหลายชุด และตั้งใจจะไปทำข้าวผัดให้คุณพ่อทานเพราะพ่ออยากรับประทานมาก ส่วนวันรุ่งขึ้นคุณพ่อก็จะพาไปเปิดตัวกับญาติ ๆ ซึ่งทุกคนต่างเฝ้ารอมานาน ที่ผ่านมามีการตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊กเพื่อไว้พูดคุยกันว่าซึ่งญาติๆ ได้พยายามเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อเตรียมพร้อมไว้ต้อนรับการเดินทางไปพบหน้ากันครั้งแรกของ “มอร์ริส เค” โดยจะใช้เวลาเดินทางไปอยู่ร่วมกับคุณพ่อเป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจะมีการเดินทางไปท่องเที่ยวกันในหลาย ๆ เมือง ก่อนจะเดินทางกลับมาทำงานเพื่อเตรียมเดินทางไปพบหน้ากันอีกครั้งในช่วงคริสต์มาส ส่วนแผนที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อที่สหรัฐอเมริกาแบบถาวร ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ยอมรับว่าการที่ชีวิตได้พบเจอกับคุณแม่-คุณพ่อ ทำให้รู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะชีวิตต้องมีคุณค่าเพื่อมอบให้คนที่รัก รู้สึกดีใจที่ชีวิตนี้เกิดมามีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณของทั้งคุณพ่อและคุณแม่.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
