แม้ “คุณแม่ภนิดา” คุณแม่ของ “แตงโม ภัทรธิดา” จะร่อนจดหมายเขียนด้วยลายมือเบรก “ทนายตั้ม ษิทรา” ขออย่ามายุ่งเกี่ยวคดีของ “แตงโม” เพราะได้มอบหมายว่าจ้าง “ทนายกฤษณะ” ให้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวแล้ว เป็นเหตุให้ “ต่อย ดายศ” พี่ชายร่วมมารดาของ “แตงโม” ถอนตัวที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องสาวกับ “ทนายตั้ม” ด้วย แต่ “ทนายตั้ม” ย้ำชัดไม่หยุดเดินหน้าหาความเป็นธรรมให้ “แตงโม” แน่นอน ได้มีการร่วมมือกับเพื่อนทนายหลายคนพูดคุยปรึกษาแนวทางคดีต่อไป หาจุดพิรุธอื่น ๆ เพื่อเป็นหลักฐานใหม่ ๆ มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป โดยเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.2565) “ทนายตั้ม” ก็ได้เข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหลายอย่างไปมอบให้เพื่อเสริมหลักฐานประกอบคดี ให้สำนวนหลักฐานแน่นขึ้นไป จนอาจสามารถเพิ่มผู้ต้องหาได้ ลุ้นอยู่ว่าอีก 2-3 คนจะโดนข้อหาอะไรเพิ่มหรือเปล่า ถ้ามีการเพิ่มข้อหา ก็จะเป็นกระทำการโดยประมาทและทำลายหลักฐาน
“ทนายตั้ม” มองว่า ณ ตอนนี้ แนวโน้มของคดี 70% ไปทางอุบัติเหตุ เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่ามีการทำร้ายกัน ได้มีการสอบถามจากทางเจ้าหน้าแล้ว สำหรับรอยแผลที่ขา “แตงโม” ทนายคนดังก็ยังเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดของเรือ น่าจะเกิดจากฟิน ซึ่งหากเกิดจากฟินจริง ก็ไม่ใช่การตกจากหลังเรือ ส่วนที่ที่คุณแม่บอกอย่างยุ่ง ตนไม่ได้ถือเป็นสาระอะไรอยู่แล้ว แม้การถอนตัวไปของ “ต่อย ดายศ” พี่ชายแตงโม จะทำให้ตนรู้สึกผิดหวังก็ตาม แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้ว และจะเดินต่อเพื่อ “แตงโม” ขณะที่ญาติฝั่งทางพ่อของ “แตงโม” ได้ติดต่อมาทางตนขอให้ช่วยหาความจริงในการเสียชีวิตของหลานสาว พวกเขาเป็นกำลังใจให้ ขอให้ตนอย่าเพิ่งถอย ตนก็ยิ่งมีกำลังใจ แม้จากการออกหน้าของตนครั้งนี้ จะโดนตักเตือนมาจากเบื้องบนให้ตนเบา ๆ ลงหน่อย แต่มันก็ไม่มีอะไรมาทำลายปณิธานของเราได้
สำหรับประเด็น “แตงโม” รับงานเอนเตอร์เทน “ทนายตั้ม” ย้ำชัดไม่เป็นความจริง เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจน ทั้งการแชตคุยตั้งแต่วันที่ชวนกันไป เส้นทางเดินเรือก็ไม่มีไปในทางที่บอกว่าจะพาไปหาผู้ใหญ่ที่แรงแรมริมน้ำ ตัดประด็นนี้ไปได้เลย ส่วน “ทนายกฤษณะ” ทนายความของ “แม่ภนิดา” ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากตน แต่หากอีกฝ่ายขอให้ช่วย ตนก็ยินดี เพราะเข้าใจว่าทนายคุณแม่เพิ่งมาเป็นทนายความได้ 2 ปีเอง อาจจะยังไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ แต่ก็อยากให้เขามีความตั้งใจจริง ๆ ก่อนว่าอยากจะหาความจริงให้ “แตงโม” เนื่องจากหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า “ทนายกฤษณะ” เข้ามาทำคดีนี้เพราะอยากจะแจ้งเกิดหรือเปล่า
ในส่วนของประเด็นไม่พบสารเสพติดในร่างกายของคนบนเรือ 3 คน “ปอ-จ็อบ-โรเบิร์ต” นั้น “ทนายตั้ม” ตั้งข้อสังเกตว่าแล้วอีก 2 คนไม่ได้ตรวจเหรอ ทั้งยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสารเสพติดจะอยู่ในเส้นผมได้นาน ได้ 1-3 เดือน แล้วยังมีประเด็นการหวงเส้นผม แต่ก็จะบวช ตนก็รู้สึกว่าหวงยังไงเนี่ย ถ้าเกิดจะบวชอยู่แล้วก็ให้เขาไปเป็นมัด ๆ ยังได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น การขอเส้นผมไปตรวจก็ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว ซึ่งหากบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ก็ต้องยอมให้ตรวจ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน