ตร. ชี้”คดีแตงโม” ส่อไปในทางประมาท-พยานเตี๊ยมคำให้การ “แซน” รู้สึกเป็นจำเลยสังคม

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 8 มี.ค.2565 พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะโฆษก บช.ภ.1 แถลงข่าวความคืบหน้าคดี “แตงโม ภัทรธิดา” กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่าวันนี้มีการสอบพยานเพิ่มเติม 12 ปาก รวมถึงตรวจสอบหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ กล้องวงจรปิด และทบทวนประเด็น ตรวจสอบแล้ว ผลเป็นที่น่าพอใจ เมื่อวานไปค้นบ้าน จ๊อบ พบพยานหลักฐานส่วนหนึ่งก็คือสุราที่ใช้ดื่มกินในเรือในวันเกิดเหตุ มีทั้งเหล้า ไวน์ แชมเปญ และแก้วไวน์ ซึ่งได้ยึดมาให้ตรวจสอบแล้ว ณ ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม พยานหลักฐาน ณ ตอนนี้ยังไม่ปรากฏการใช้สารเสพติดทั้งจากการตรวจคนบนเรือและ “แตงโม” แต่พยานทั้ง 5 คนยอมรับว่ามีการดื่มแอลกอฮอลบนเรือแต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าเป็นชนิดไหน ปริมาณไม่มาก 1-2 ขวด


ส่วนการตรวจทางนิติเวช มีการนำเนื้อเยื่อย้อมสีและส่งไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่จุฬาและรามา เพื่อให้ยืนยันผลว่าแผลเกิดก่อนเสียชีวิตหรือหลังเสียชีวิต ซึ่งต้องกระทำโดยละเอียดเพราะมีผลต่อคดีว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม ซึ่งผลจะออกมาอีก 1 อาทิตย์ ส่วนการสอบพยานหมดทั้งพนักงานร้านอาหาร หรือ บุคคลเจ้าของคลิป ต้องเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบ ล่าสุดมีคนนำเสนอว่ามีการโยนคนลงจากเรือที่ท่าน้ำเทเวศน์ ประเด็นนี้เราก็ไม่ได้ทิ้ง เพราะเป็นประเด็นที่สังคมสงสัย แต่ถ้าเรียกมาแล้วไม่เกี่ยวข้องเราจะตัดทิ้งทันที เรามีพยานหลักฐานที่สอดคล้องกับรูปคดีที่ตั้งไว้ คลิปทุกคลิปที่ส่งมาทั้งมีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ สำหรับคลิปที่ไม่เป็นประโยชน์เป็นการบ่อนทำลายขอความกรุณาอย่าส่งมา เพราะบางคนหากินกับการเสียชีวิตของ”แตงโม” พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ทำงานมีหลายคนและระดมความคิดในหลายมิติ อย่างที่หลายคนเตือนว่าตำรวจอย่าจับแพะเราถอดบทเรียนและมีบทเรียนพอสมควร อะไรที่เข้ารูปเข้ารอย ขมวดได้เข้ารอยก็อยากให้ช่วยกัน มันจะได้จบสักที ถามว่าคลิปที่ท่าเรือเทเวศน์มีความเป็นไปได้แค่ไหนว่าสอดคล้องกับคดี เวลาที่ท่าเรือเทเวศน์คือ 21.40 น. แต่เวลาที่เราคำนวณจาก GPS ของเรือว่า “แตงโม” จะตกน้ำคือ 22.32-22.34 ก่อนท่าเรือพระราม 8 คือท่าเรือเทเวศน์ แต่เวลา 21.40 น. “แตงโม” ยังไม่ถึงท่าเรือพระราม 8 ฉะนั้นจับโยนหรือทิ้งเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เชื่อว่าคดีนี้ต้องมีการโต้แย้งในอนาคต ข้อเท็จจริงที่จะถูกบันทึกและโต้แย้งในชั้นศาลเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนเสียชีวิตไม่มีโอกาสได้พูด การรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์การ “แตงโม” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ฆาตรกรรม หรือมีเจตนา เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน

โดยในระหว่างที่ “แตงโม” ตกเรือ “โรเบิร์ต” เป็นคนขับ “ปอ” อยู่ข้าง ๆ คอยแนะนำ แจ้งข้อหาเบื้องต้นคือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ถ้าคดีเป็นการกระทำโดยประมาท ถ้าพฤติการของคนในเรือกระทำด้วยการดื่มสุรา ความเมาเป็นเหตุให้ความประมาทเพิ่มขึ้นไหม เราต้องพิจารณาว่าเพิ่มโทษได้หรือไม่ ตอนนี้พยานหลักฐานยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่าเมาหรือทำลายพยานหลักฐานด้วยการทิ้งหรือเอากลับบ้าน มีแก้วไวน์ แก้วแชมเปญที่เก็บได้จากเหลือ ส่งไปที่กอง พฐ ใช้เวลาในการตรวจดีเอ็นเอ มีแก้วบางส่วนได้จากท่าเรือ แก้วและเหล้าบางส่วนได้จากบ้าน “จ๊อบ” ทุกคนคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความเมา เรือวิ่งไปด้วยความสนุกสนาน แล้วเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ซึ่งต้องมีคนรับผิดชอบ ผู้ก่อเหตุอาจจะคิดว่าเหล้าเป็นต้นเหตุของความเมาจนควบคุมสติไม่ได้และต้องทิ้งเหล้า ถ้าสิ่งที่เขาคิดและทิ้งไปเป็นหลักฐานสำคัญ เราก็ต้องงม แต่เราก็ต้องนำมาประติประต่อว่าสิ่งที่เขาคิดและทำเพียงพอที่จะแจ้งข้อหาหรือยัง เรือความเร็ว 8 น็อต กับเรือลักษณะแบบนี้ถือว่าเป็นความเร็วและมีความกระเด้ง จากที่ดูในคลิปจะเห็นว่า “ปอ” ดันหลัง “แตงโม” อยู่ตลอดเวลา เพราะเรือมีการกระเด้งอยู่ตลอดเวลา ส่วนเรื่องฉี่หลังเรือมีพยานบางคนพูดว่ามีจุดหนึ่งทีเรือกระชาก จุดที่นั่งซ้ายมือกับกาบเรือมีความเป็นไปที่จะเด้งหล่นจากเรือ แต่จะเข้าไปโดเนใบพัดหรือไม่ก็มีสื่อจำลองและวิเคราะห์แล้วส่วนหนึ่ง เส้นผมกำลังตรวจที่เจอเก็บมาจากบนเรือ กาบซ้ายของเรือคือด้านข้างและด้านใต้ทางขึ้นตรงที่แตงโมนั่ง ซึ่งจะมีการจำลองเหตุการณ์ภายใน 1-2 วัน ส่วนประเด็นเรื่องการรับงานเอน เท่าที่ตรวจสอบไม่มีว่าเขาตกค้างงานเอน และก่อนหน้านั้นก็ไม่มี จากการตรวจสอบ”แตงโม”ไม่ได้ยืนยันรับงานเอนกับใคร ไม่ได้ติดค้างหรือจะไปงานเอนใด ๆ ทั้งสิ้น เชื่อว่าตั้งแต่เกิดเรื่องทุกคนได้รับผลการกระทำ แม้กระทั่งล่าสุดได้คุยกับ “แซน” เขาก็รู้สึกว่าตกเป็นผู้ต้องหาและเป็นจำเลยสังคม

ตนเชื่อว่าตอนนี้สังคมกำลังมองว่าใครจะเป็นผู้ต้องหาคนที่ 3 คนที่ 4 อย่างที่จ๊อบเอาหลักฐานกลับบ้านต้องการจะหลบเลี่ยงหรือเปล่าเราก็ต้องดูว่าเขามีความต้องการอย่างนั้นหรือไม่ เราพิจารณาทุกวันและมีผู้ชานาญการอีกคนที่คอยแนะนำว่ากระบวนการที่ทำไม่เสียหายและชอบธรรม ไม่มีแพะ เมื่อตอนประชุมมีการต่อสายหา”แซน” กลางที่ประชุม “แซน” บอกว่ารู้สึกว่า”แตงโม” มานั่งฉี่ จังหวะ “แตงโม” ลุก รู้สึกว่าเรือกระตุก มีการเอียงตัว หลุดและตกจากขาไป ซึ่งเกิดขึ้นเร็วมาก ยืนยันว่า “แตงโม” มาท้ายเรือและฉี่ ซึ่ง “จ๊อบ”เห็น ตอนที่อยู่หน้าเรือ “โรเบิร์ต” เป็นคนขับ “ปอ” ดันหลัง”แตงโม” และ “แตงโม” บอกว่าปวดฉี่ “จ๊อบ” อยู่ข้างหลัง “โรเบิร์ต” ส่วน”แซน”นั่งอยู่ท้ายเรือ การฉี่บนเรือเป็นเทคนิคและวิธีการเกร็งการทรงตัว บางทีก็เป็นการสนุกโดยที่ไม่ได้ดูว่าความเร็วเรือกับการทรงตัวของตัวเองไปในทิศทางเดียวกันไหม เพราะเรือไปด้วยความเร็ว การที่ต้องสอบพยานหลายครั้ง เพราะระยะเวลาที่อยู่บนเรือไม่ใช่แค่ 5 นาที แต่หลายชั่วโมง เพราะฉะนั้นเขาอาจจะไม่สามารถจำทุกวินาทีได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้มาทบทวนถึงจำได้ว่าเกิดเหตุการอะไรขึ้น แล้วจึงนึกออกว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ซึ่งทุกคนบนเรือดื่มกันจำนวนหนึ่ง ถามพนักงานที่ร้านอาหาร บอกว่าที่ร้าน “แตงโม”ไม่ได้ฉี่ พออยู่บนเรือหลายชั่วโมง มีความเป็นไปได้ว่าจะปวดฉี่ เมื่อสถานการณ์มันสอดคล้องกัน ถามว่าเตี๊ยมไหมเชื่อว่าเตี๊ยม เพราะก่อนหน้านี้เขาไปสถานที่ต่าง ๆ เพราะในภาวะตกใจ การเตี๊ยมพวกนี้เกิดขึ้นแน่นนอน แต่วันหนึ่งคำให้การไม่เหมือนกัน ถ้าใครให้การที่เป็นประโยชน์ก็รอดพ้นไป ใครให้การไม่เป็นประโยชน์ก็ต้อวงรับกรรมในอนาคต คำอ้างที่บอกว่าไม่ควรบอกว่าฉี่ อย่างที่บอกว่าให้หาคนแถว 1 ให้เจอ เพราะมีคำว่า”โมตกน้ำ” “โมตกน้ำ” แต่ยังไม่มีเวิร์ดดิ้งว่าที่ตกน้ำ เพราะอะไร เพราะไปฉี่หรืออะไร ไปสอบดูว่าใครรู้บ้างว่า”แตงโม”ตกไปท้ายเรือยังไง คนแรกก็คือกู้ภัยคนแรกที่ “แซน”แจ้ง คนที่ 2 คือ มายด์ แฟนของ”แซน”ต้องดูว่าได้คุยไหมว่า”แตงโม”ตกน้ำเพราะอะไร ต้องดูว่าคนที่คุณแจ้งไปได้พูดถึงสาเหตุที่”แตงโม”ตกน้ำไหม ตอนนี้มีบางส่วนที่ยังไม่ครบประเด็น ต้องมีให้มากที่สุด เพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม การที่มีคนบอกว่าอย่าพูดว่า “แตงโม” ฉี่ท้ายเรือ เราต้องดูภาพลักษณ์และให้พยานยืนยันให้ได้ว่าเพราะอะไร เพราะทุกอย่างจะอยู่ในประวัติศาสตร์อีกนาน เมื่อถึงเวลาเราต้องตัดสินใจว่าสิ่งที่คุณจะพูดเพียงพอหรือไม่ต่อนาคตหรือยัง คำให้การวันนี้กับวันนั้นมีความแตกต่างกัน จึงต้องมีการสอบปากคำมากกว่า 3-4 ครั้ง มีอะไรเพิ่มเติมหรือขัดแย้งก็ต้องสอบ เพื่อกลับมาทบทวน ซึ่งก็มีบางประเด็นตกค้างอยู่

ด้าน พลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวเสริมว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนสอบพยานและรวบรวมหลักฐาน ตอนนี้รอผลการตรวจพิสูจน์จากนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐานที่กำลังเร่งรัดเวลาอยู่ แต่หลายอย่างเร่งรัดไม่ได้ เรากำลังเอาตรงนี้มาประกอบคำให้การกับหลักฐานอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสิ่งที่จะสรุปพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์จริง ๆ ไม่ได้ด่วนสรุปโดยไม่มีพยานหลักฐานมารองรับ พยานหลักฐานในตอนนี้บ่งชี้ว่าเป็นการกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ยังไม่มีการบ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม ทุกวิธีการที่เป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบทั้งหมดและนำไปวิเคราะห์หลายส่วน ซึ่งทำการตรวจหลักฐาน ตรวจแก้วไวน์ ถังใส่ไวน์ DNA ตรวจคราบเลือด ยูเรีย เส้นผม ลายนิ้วมือแผงและรายละเอียดอื่น ๆ ปลีกย่อย ทุกอย่างที่เป็นพยานหลักฐานคือตรวจหมด สำหรับ “โรเบิร์ต” คำให้การบางส่วนบอกว่าขับเรือไม่เป็นแต่อยากลอง ในส่วนของบุคคลที่กล่างอ้าวว่ามีการคุยโทรศัพท์มีความเกี่ยวข้องกับการหลบหลีกเหตุการณ์บนเรือ การเมาหรือไม่ เราเรียกมาสอบทั้งหมด ถ้าเห็นว่าเป็นความผิดก็ต้องเรียกมาดำเนินการตามกรอบของกฏหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการ

ส่วนเรื่องที่ “ปอ” และ “โรเบิร์ต” จะบวชในวันที่ 16 มี.ค.2565 นี้ ทั้งคู่จะบวชได้ไม่ได้ต้องถามพระอุปชา ถ้าอยู่ในระหว่างประกันตัว หากไม่หลบหนีก็สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ต้องดูที่กระบวนการของสงฆ์ว่าจะให้บวชหรือไม่ เป็นกิจของสงฆ์ แต่ถ้าเรียกมาสอบปากคำไม่ว่าจะเป็นพระหรือไม่เป็นพระก็ต้องมา สำหรับการปิดหรือไม่ปิดคดี ขึ้นอยู่กับรายงานสรุปการตรวจทางวิทยาศาตร์อย่างเป็นทางการยังไม่ออก การสรุปคดีคงต้องรอ เราไม่รีบร้อนสรุปโดยที่พยานหลักฐานทั้งหมดยังไม่ครบถ้วน ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดยืนยันว่าบนเรือไม่มีกล้องวงจรปิด แต่เราดูกล้องในสภาพแวดล้อมทั้งหมดมาประกอบกัน ตอนนี้มา 60 ตัว แต่ถ้าใครมีที่เป็นประโยชน์อีกก็ยินดีที่จะเอามาประกอบสำนวน ส่วนที่ก่อนหน้านี้เราพูดว่าเราจะอัปเดตความคืบหน้าคดีทุกวัน ตอนนี้ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์หลักฐานยังไม่ออก การอัปเดตก็คงไม่มีอะไรเพิ่มเติม เอาเป็นว่าหลังจากนี้หากมีอะไรเพิ่มเติม ค่อยจะเรียนเชิญสื่อมวลชนมาอิปเดตกันอีกทีดีกว่า.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 245 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม