“ทนายษิทรา” เฟลหนัก หลังถูก “พี่ชายแตงโม” เท มุ่งหาความจริงต่อไป ยินดีหากทนาย”แม่ภนิดา”ต้องการคำปรึกษา

หลังจากที่ “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” เปิดตัวว่า “ต่อย ดายศ” พี่ชายของ “แตงโม ภัทรธิดา” จะร่วมไขปมการเสียชีวิตของ “แตงโม” และจะนำหลักฐานที่มีในมือรวมถึงข้อสงสัยในใจเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สภ.เมืองนนทบุรี ในเวลา 9.00 น. วันที่ 8 มี.ค.2565 ก่อนจะได้รับจดหมายซึ่งเขียนด้วยลายมือจาก “คุณแม่ภนิดา” ซึ่งเป็นคุณแม่ของ “แตงโม” และ “ต่อย ดายศ” ระบุว่าอย่ายุ่งกับเรื่องนี้ เนื่องจากคุณแม่ไม่ได้ว่าจ้าง “ทนายษิทรา”ทำคดีของ “แตงโม” จากนั้นในช่วงค่ำวันเดียวกันพี่ชายของแตงโมก็เททนายคนดังกลางคัน ทำให้เข้าใจแล้วว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (8 มี.ค.2565) “ทนายษิทรา” เปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านรายการโหนกระแสว่าตนประกาศตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะเข้ามาช่วยคดีของแตงโม ตนได้ลงพื้นที่ไปดูเรอที่เกิดเหตุ เพื่อวิเคราะห์ว่าบาดแผลไม่น่าจะเกิดจากใบพัดเรือ น่าจะเป็นฟินหรือหางเสือใต้ท้องเรือมากกว่า มีข้อมูลหลายอย่างที่น่าสงสัยในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นจุดตก หรือการที่ผู้ต้องหาหลายคนให้การ ส่วนเรื่องนายพล น. เอาสำนวนคดีไปเปิดเผย ต้องเรียนอย่างนี้ว่านิสัยส่วนตัวของนายพล “น” ชอบเอาข้อมูลไปขายคนภายนอก ซึ่งคนที่ซื้อไปก็เอาไปต่อรองผลประโยชน์กับผู้ต้องหา ไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว แต่เกิดบ่อยที่ข้อมูลที่ไม่ควรจะไปถึงสื่อกลับหลุดออกมา ถ้าตนพูดไม่ใช่เรื่องจริง นายพล”น” ออกมาฟ้องตนได้เลย มันไม่ใช่การเล่าสู่กันฟัง แต่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเดี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นทนายให้ “ปอ” เพราะอีกฝั่งมีทนายอยู่แล้ว แต่วันที่ 25 ก.พ.2565 ที่ผ่านมาตนไปเจอกับปอจริง ปอมาขอความเห็นของตนว่าหากเรื่องราวเป็นเช่นนี้จะมีใครถูกดำเนิคดีบ้าง เขาก็เล่าข้อเท็จจริงให้ตนฟัง ซึ่งตนก็เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าตำรวจแล้วเอาข้อมูลตรงนี้ไปเล่าให้ตำรวจฟัง ส่วนเรื่องการดื่มแอลกอฮอล เมาหรือไม่เมาตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้คุยกันนาน


ส่วนเรื่องใบพัดเรือ ที่ตนพูดว่าบาดแผลแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ น่าจะเกิดจากฟินมากกว่า แต่สักพักก็มีข่าวออกมาจากตำรวจว่าบาดแผลเกิดของแตงโมจากใบพัดเรือ ขณะที่ ไทด์ เอกพันธ์ ที่ทำงานมูลนิธิกู้ภัยบอกว่าจากประสบการณ์แล้วบาดแผลของแตงโมไม่ใช่ใบพัดเรือ ซึ่งหากโดนฟิน จุดตกก็ต้องไม่ใช้ท้ายเรือ แต่ต้องเป็นด้านข้างของเรือ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระแสสังคมสนใจมาก ใครออกมาพูดอะไรเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เอาไปวิเคราะห์และเรียกไปสอบ ตนไม่มีข้อมูลเชิงลึกแต่ดูตามสภาพเรือ ส่วนที่นักการเมืองคนดัง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” ออกมาวิเคราะห์ถึงนักการเมือง อักษรย่อ “ผ” กับ “ช” ที่ “ปอ” โทรปรึกษาหลังเกิดเรื่อง เท่าที่ตนทราบว่าหลังเกิดเหตุมีการปรึกษา “ช” ซึ่ง”หนุ่ม กรรชัย” เคลียร์ชัดว่าไม่ใช่ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ที่ให้ “ปอ” เช่าโชว์รูม เพราะ “หนุ่ม กรรชัย” ได้โทรศัพท์ไปสอบถามแล้ว “เอ๋” เปิดใจกับ “หนุ่ม กรรชัย” ว่า ตนไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ ตนให้เช่าเขาสถานที่ แต่เวลาเจอไม่เคยคุย ในฐานะคนเล่นเรือกรณีที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะมีคนคนหนึ่งเดินไปฉี่หลังเรือ ยืนยันว่า ช. ที่ว่าไม่ใช่ตน”จากนั้น “ทนายษิทรา” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เกิดเหตุ “ปอ” น่าจะโทรหา “ช” อีกท่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะสอบปากคำเขาแล้ว

ส่วนเรื่องที่ตนเปิดตัวละครสำคัญที่จะมาร่วมไขคดี “แตงโม” ว่าคือ “ต่อย ดายศ” พี่ชายของ “แตงโม” เนื่องจากอีกฝ่ายโทรเข้ามาหาตนบอกว่าต้องการจะเจอตัว จึงนัดให้ไปเจอที่ร้านอาหารที่ตนรับประทานอาหารกับผู้ใหญ่อยู่ “พี่ชายแตงโม”บอกอยากจะตามหาความจริงเรื่องนี้ ส่วนตัวแล้วเขาสนิทกับแม่ส่วนหนึ่ง และให้ความมั่นใจกับตนว่าคงจะไม่เป็นอะไร ถ้าจะมาร่วมกับตนหาความจริงเรื่องนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับคุณแม่ เพราะเจ้าตัวได้ยืนยันกับตนว่าไม่ได้ต้องการเรื่องเงินหรือทรัพย์สินของ “แตงโม” แต่อยากรู้ว่าอยากจะรู้ว่าน้องเสียชีวิตได้ยังไง ตนก็บอกไปว่าไม่ได้เป็นทนายนะ แต่ถ้าจะมาร่วมหาความจริงด้วยกันมาได้ จนกระทั่งเปิดตัว ตนก็ลุยเต็มที่ จากนั้นคุณแม่เขาก็ตอบโต้กับตน ตอนนั้นก็คิดว่าแล้วว่าพี่ชายแตงโมเขาอาจจะไม่สบายใจหรือเปล่า เพราะทัวร์ลงแม่เยอะมาก จดหมายดังกล่าวตนได้รับจดหมายจากนักข่าว จึงโพสต์ลงไป เพราะคิดว่ามีการเปิดจดหมายไปแล้ว ไม่คิดว่าตนจะเป็นคนเปิดเป็นคนแรก และกลายเป็นว่าทัวร์ลงคุณแม่หนักกว่าเดิม

ภายหลัง “ต่อย ดายศ” แจ้งกับตนว่าขอถอนตัว เพราะพอคุณแม่ทราบว่าเขาจะมาร่วมมือกับตน คุณแม่เป็นลม 3 ครั้ง เขาเกรงว่าคุณแม่จะเป็นอะไรไป คุณแม่เชื่อมั่นในตำรวจมาก ตำรวจพูดอะไรคุณแม่ก็เชื่อ แม่ลูกเกิดการกระทบกระทั่งกัน ญาติ ๆโทรหาพี่ชายแตงโม บอกว่าอย่าทะเลาะกัน ให้รักใคร่กลมเกลียวกัน ตนจึงได้โพสต์ข้อความไปว่าเลือดข้นกว่าน้ำ “ต่อย ดายศ” บอกผ่านภรรยาเขาว่าเสียใจ ส่วนตัวตนมองว่าหากตนเดินหน้าหาความจริงกับ “ต่อย ดายศ” ส่วนคุณแม่เดินหน้าหาความจริงร่วมกับทนายของคุณแม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า สามารถทำขนานกันไปได้ แต่คุณแม่ก็บอกตนว่าอย่ามายุ่ง อาจจะเป็นเพราะกลัวความจริง จากนั้น “หนุ่ม กรรชัย” ได้เปิดคลิปเสียงสัมภาษณ์ของคุณแม่ที่ระบุว่าอยากจะให้ “พญ.คุณหญิง พรทิพย์” มาช่วยชันสูตร คุณแม่ไม่ได้ต้องการให้ผ่าชันสูตรรูปสอง แต่ให้ดูรูปและสรุปผล เพราะร่างของ “แตงโม” มีการซีลและฉีดฟอร์มาลีนแล้ว ไม่สามารถแกะห่อออกมาได้ แกะออกมาไม่ได้ แม่ไม่ยอม คุณแม่อยากทนายคนนี้เป็นทนายคนเดียวจะได้ไม่สบสน ตำรวจให้เกียรติ คุณแม่ไม่เข้าไปยุ่ง ไม่วุ่นวายอะไร

ส่วนที่คุณแม่บอกมาให้ข้อมูลว่าการที่จะไปยื่นเรื่องเพื่อทำให้ข้อสงสัยเกิดความกระจ่างและสืบหาความจริง คุณแม่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการแต่งตั้งทนาย แต่คนเปิดกว้างที่จะให้ทนายคนอื่นเข้ามาทำคดีในฐานะที่ปรึกษา ไม่ได้มีการปิดกั้น คดีจะได้มีความชัดเจนมากขึ้น “ทนายษิทรา” บอกยินดีหากความรู้ความสามารถของตนจะช่วยได้ ถ้าทนายแม่จะมาปรึกษาตนก็ยินดี ขอให้ตามหาความจริงด้วยใจจริง ตนเองก็จะตามเรื่องนี้ต่อ ยอมรับรู้สึกเฟลที่โดนเท อยากมีเวลาทบทวนว่าจะทำยังไงต่อ แม้ครอบครัวจะไม่เอาต่อแล้ว แต่ถ้าจะเดินต่อก็อีกคนหนึ่งที่สามารถจะเดินต่อได้ ซึ่งคนที่พูดเขาโทรมาให้กำลังใจ ไม่อยากให้ตนถอดใจเรื่องนี้ สุดท้ายคดีตำรวจคงต้องแถลงบ่อยเพื่อไม่ให้มั่นไขว้เขวไปกว่านี้ขอให้ทุกคนช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไป ช่วยกันตรวจสอบเพื่อให้ความจริงเรื่องนี้ปรากฏ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ขอบคุณภาพ/ข่าว : รายการโหนกระแส

เข้าชม 338 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม