ตร.เรียกคนบนเรือ- “โบ TK”สอบเพิ่มนาน 9 ชม. เร่งคลี่คลายคดี “แตงโม” หลังพบหลักฐานเพิ่มเติมใกล้จุดเกิดเหตุ

ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจและเก่าะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีที่นักแสดงสาว “แตงโม ภัทรธิดา” พลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 6 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรภาคหนึ่ง เรียกแก๊งเพื่อน “แตงโม” 5 คน ที่อยู่บนเรือ รวมถึง “โบ TK” พยานในคดี มาให้ปากคำเพิ่มเติม นานกว่า 9 ชม. หลังเจ้าหน้าตำรวจพร้อมชุดประดาน้ำของตำรวจน้ำ ลงค้นหาวัตถุต้องสงสัยที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม พบถุงสีเทาภายในถุงเห็นลักษณะคล้ายขวดทรงสูง บรรจุไว้เป็นรูปร่างชัดเจน จึงนำขึ้นจากน้ำและได้ลงค้นหาอีกครั้ง ใกล้เคียงกับจุดเดิม และพบวัตถุขนาดกลางๆ ประมาณใหญ่กว่าฝ่ามือไม่มาก แต่ไม่ชัดเจนว่าคืออะไร และวัตถุทั้ง 2 ชิ้น ที่งมได้ก็ได้นำขึ้นมาส่งมอบให้พิสูจน์หลักฐานทันที


ด้านพลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยจะมีการกระชับวงการสืบสวนสอบสวนให้แคบลงในบางประเด็น เพื่อให้ได้คำตอบชัดเจน อธิบายข่อสงสัยได้ครบถ้วน โดยวันนี้ได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีหลายคนมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนประเด็นสอบสวนมีประเด็นใหม่กรณีที่มีพยานให้ปากคำอ้างว่า นายโรเบิร์ต โยนแก้วไวน์ หรือ แก้วแชมเปญแต่ยังไม่ชัดเจนว่า โยนก่อนหรือหลังเวลาเกิดเหตุที่”แตงโม”ตกเรือและโยนลงไปด้วยสาเหตุใด ซึ่งในประเด็นนี้ นอกจากการสอบปากคำ ตำรวจยังได้จัดส่งนักประดาน้ำ ดำน้ำค้นหาวัตถุพยานในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งพบแก้วต้องสงสัยในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่พบร่างของนางสาวนิดาหรือแตงโม นอกจากนี้ยังพบถุงบรรจุวัตถุสิ่งของไม่ทราบชนิดอยู่ใกล้กับแก้วต้องสงสัย จึงเก็บไว้เป็นวัตถุพยานและจะส่งตรวจหาตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของนายโรเบิร์ตและผู้อื่นที่อยู่บนเรือก่อนจะพิจารณาว่า เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของ”แตงโม”หรือไม่

ส่วนงานสืบสวนทราบว่า ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังมุ่งเน้นไปที่ประเด็น ลำดับช่วงเวลาการเกิดเหตุภายในเรือ ตั้งแต่ช่วงที่เรือเริ่มแล่นเข้ามาใกล้กับจุดเกิดเหตุ การจับเรือครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยมีการเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่สามารถหาได้เพิ่มเติม เป็นภาพวงจรปิดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสามารถระบุ ระยะห่างของการขับเรือแต่ละครั้งได้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวจะมีผลต่อการคำสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้ด้วย โดยกลุ่มเพื่อนแตงโมที่เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมวันนี้ได้แก่ “กระติก อิจศรินทร์” / “ปอ ตนุภัทร”/ “โรเบิร์ต ไพบูลย์” /”จ๊อบ นิทัศน์” และ “โบ สุรัตนาวี” โดย “กระติก” หลังให้ปากคำเสร็จในเวลา 20.50 น.ได้เดินคุยโทรศัพท์ออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินทางกลับ ด้าน “โบ TK” กลับออกมาตอน 23.00 น. ด้าน “จ๊อบ” กลับออกมาดเวลา 23.05 น. “โรเบิร์ต” กลับออกมา 23.15 น. ขณะที่ “แซน วิศาพัช” เลื่อนการเข้าให้ปากคำในวันนี้อ้างติดธุระส่วนตัว ด้านแฟน ๆ คนรัก “แตงโม” ก็ยังคงนำดอกไม้สีขาวไปวางเพื่อแสดงความอาลัยนักแสดงสาวที่ท่าเรือพิบูลสงครามกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนอินสตาแกรมส่วนตัวของ “แตงโม”พบว่ามีการไปกดติดตามเพื่อนเพิ่ม 1 คน ซึ่งคาดว่าเมื่อครั้งยังมีชีวิต “แตงโม” อาจจะกดส่งขอเป็นเพื่อนไว้กับใครสักคนไว้ และคนดังกล่าวเพิ่งกดรับเพื่อน ยอดกดติดตามจึงมีการเพิ่มจำนวนอย่างที่เห็น

ขณะที่โลกโซเชียลมีการเปิดเผยวงจรปิดท่าเรือเทเวศร์ ขณะมีเรือสปีดโบ๊ท เข้ามาใกล้กับสะพานพระราม 8 เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นภาพเหมือนมีคนบนเรือยืนกางแขนอยู่ด้านขวาของเรือ ใส่เสื้อผ้าสีสว่าง จากนั้นเห็นตกลงไปน้ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แตงโมพลัดตกน้ำ และเหมือนมีคนยืนมอง ขณะที่ชาวเน็ตบางคนมองเห็นเหมือนมีคนโดนผลักตกน้ำ โดนโยนออกจากเรือ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ภาพนั่งปัสสาวะ และไม่ใช่เรือกระชาก เพราะดีดออกจากเรือมาไกลมาก ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีแตงโมว่าได้สั่งให้ตรวจสอบทุกประเด็น ตอนนี้ยังรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งเรื่องวัตถุพยาน การผ่าพิสูจน์ศพผลตรวจบาดแผลที่เกิดขึ้นมาจากไหน เกิดขึ้นเมื่อไร เหล่านี้จะนำมาประกอบกับข้อมูลด้านอื่น ๆ ทั้งคำให้การ โทรศัพท์มือถือ จีพีเอสเรือ ข้อมูลพยานแวดล้อม ทั้งนี้ ทุกอย่างจะมีความชัดเจนขึ้นมากกว่าเดิมภายใน 2-3 วัน พร้อมระบุว่าในส่วนของสาเหตุนั้นดูจากพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากกว่าอุบัติเหต นอกจากนี้กู้ภัยให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ ก่อนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนที่ได้รับแจ้งจาก “แซน” ว่าเพื่อนตกน้ำ ให้มาช่วยค้นหา โดยแซนบอกกับกู้ภัยว่าเพื่อนตกน้ำเพราะไปยืนปัสสาวะ ตนคิดว่าถ้ายืนปัสสาวะต้องเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงนำมาซึ่งการเข้าใจผิดว่าคนที่ตกน้ำไม่ใช่แตงโม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ขอบคุณภาพ/ข่าว : สำนักข่าวไทย


เข้าชม 374 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม