จากกรณีที่ใบพัดเรือสปีดโบ๊ทลำที่เกิดเหตุ “แตงโม ภัทรธิดา” พลัดตกและจมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 หลุดและจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเรือลำดังกล่าว ออกจากอู่จอดเรือลงสู่แม่น้ำเพื่อเตรียมจำลองเหตุการณ์ ทดลองขับไปในเส้นทางจริง เปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จาก GPS เรือ ทั้งเส้นทางเดินเรือ ความเร็วตามจุดต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ต้องนำใบพัดเรือสำรองมาเปลี่ยนเพื่อจำลองเหตุการณ์แทน ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันที่ 3 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทีมชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูได้งมหาใบพัดเรือที่จมหายจนเจอและนำขึ้นจากน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังนำอุปกรณ์ค้นหาลงจมหาใบพัดเรือห่างจากท่าเทียบเรือ สภ.เมืองนนทบุรี ประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเรือลำที่เกิดเหตุมาจอดเทียบท่าเพื่อเตรียมนำเรือจำลองเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ดำลึกลงไปประมาณ 8-10 เมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็สามารถจมใบพัดเรือดังกล่าวขึ้นมาบนตลิ่งในเวลาต่อมา ใบจักรมีขนาดประมาณพวงมาลัยรถยนต์ และมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม รวมถึงเป็นการจมในลักษณะดิ่ง ไม่ถูกกระแสน้ำพัดไปไกลกว่านี้
ทั้งนี้ “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความชื่อดังได้เดินทางมาดูเรือที่เกิดเหตุ เน้นบริเวณท้ายเรือที่อ้างว่าเป็นจุดที่ “แตงโม” ปัสสาวะ ก่อนจะเสียหลักตกลงไปจมน้ำเสียชีวิต และบริเวณใต้เครื่องยนต์ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งใบพัดเพื่อดูระยะห่างของตำแหน่งใบพัดกับจุดที่คาดว่า “แตงโม” มานั่งปัสสาวะ ตามคำให้การของพยาน เพื่อหาความเป็นไปได้เทียบกับบาดแผลบริเวณต้นขาของ “แตงโม” ที่ตนเองได้เห็นจากภาพถ่าย ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าสิ่งที่ตนมาดูวันนี้ไปเกี่ยวข้องกับการเป็นบุคคลสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน และมีการไปให้สัมภาณ์กับสื่อต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐาน ตนไม่ฟันธงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกหรือเปล่า แต่ถ้าถามตนใครมีโอกาสเป็นบุคคลที่ 3 มากที่สุด ตนคิดว่าคือ “แซน” ตนไม่ได้บอกว่า “แซน”ผิด แต่มีความเป็นไปที่ได้ที่จะถูกแจ้งข้อหา.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ขอบคุณภาพ / ข่าว จาก สำนักข่าวไทย
