สำหรับประเด็นที่หลายคนคาใจภายหลังเหตุการณ์ช็อก “แตงโม ภัทรธิดา” พลัดตกเรือ จมหายไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ “กระติก อิจศรินทร์” ซึ่งเป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัว และเพื่อนสนิทที่ “แตงโม” รักมากที่สุด กลับหายตัวไป ไม่โทรแจ้งคุณแม่ของแตงโม และไม่อยู่เผชิญเหตุการณ์ขณะที่คนกว่าร้อยชีวิตทุ่มสุดตัวเพื่อค้นหาแตงโมทั้งกลางวันกลางคืนตลอด 38 ชั่วโมง
“กระติก” เปิดใจในรายการ “โหนกระแส” ว่า หลังจาก “ปอ” ขับเรือตระเวนหาแตงโม กระทั่งตนรู้สึกปวดปัสสาวะ จึงขอให้เรือเทียบท่าเพื่อไปเข้าห้องน้ำ โดยมี “เบิร์ต” ไปเฝ้าตนขณะเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อออกจากห้องน้ำก็พบว่าปอออกเรือไปค้นหาแตงโมอีกครั้งหนึ่งแล้ว จึงโทรหา “โบ สุรัตนาวี” ซึ่งกระติกได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังเป็นระยะ ให้มารับที่ท่าเรือ NBC และรออยู่ตรงนั้นจนถึงตี 3 ตลอดเวลาที่อยู่ตรงนั้นอธิษฐานจิตตลอดขอให้โมปลอดภัย หลังจากนั้นก็กลับไปที่บ้านแตงโม เพราะยังหวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์ มีคนมาช่วยโม แล้วโมอาจจะกลับบ้าน แต่ติดต่อตนไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ของแตงโมอยู่กับตน เลยกลับไปดูที่บ้าน แล้วก็ไม่พบโม ตอนนั้นสติแตกไปแล้ว ช่วงเวลานั้นเห็นข่าวออกมาว่ามีคุณแม่อยู่ตรงนั้นแล้ว มีประเด็นว่าคุณแม่บอกทำไมกระติกไม่ไปหาแม่ เราก็ไม่กล้าไปสู้หน้าแม่ เราอยู่คนเดียว นั่งดูรูปดูคลิปในโทรศัพท์คิดถึงเพื่อน หนูไปไม่เป็น หนูไม่เคยเจอเหตุการณ์หนัก ๆ แบบนี้ หนูรู้สึกผิด แต่ไม่ได้แสดงออกมา มันอาจจะแข็งไปหน่อย มันเลยเป็นแบบนี้ เราเลือกที่จะมาเสียใจกับตัวเองมากเกินไป ทำไมเราไม่แสดงมันออกไป วันนี้เรามองเห็นข้อเสียของตัวเองว่ามันใหญ่หลวงมาก ผลลัพธ์มันใหญ่มาก เราโทษตัวเอง
โดยสาว “กระติก” ยังได้ยกมือไหว้ขอโทษคุณแม่แตงโม หลังจากคราวก่อนแถลงข่าวไปว่าสาเหตุที่ไม่ได้ติดต่อไปแจ้งข่าวให้คุณแม่ทราบ เพราะคุณไม่ใช่นักประดาน้ำ คงช่วยอะไรไม่ได้นั้นว่า ขอโทษคุณแม่มาก ๆ ที่สถานการณ์ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ขอโทษและเสียใจที่ใช้คำพูดแบบนั้น ยิ่งทำให้คุณแม่เสียใจ อ้างเป็นบุคลิกส่วนตัวว่าตนเป็นคนพูดไม่เพราะอยู่แล้ว ทั้งยังตกใจ คิดว่าโทรหาคุณแม่ คุณแม่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น ขอโทษจริง ๆ ขอโทษจากใจ ตอนนี้หนูไปตกตะกอนแล้วว่ามันไม่สมควรที่จะพูดแบบนั้นออกไปจริง ๆ ยืนยันคิดน้อยไปจึงโพล่งออกมาโดยไม่ได้กลั่นกรองให้ดีกว่านี้
และเนื่องจากการเปิดใจของสาว “กระติก” ครั้งนี้ บางขณะเหมือนเจ้าตัวจะร้องไห้ แต่ใน
วินาทีถัดมาก็กลับมาพูดเป็นปกติ จนพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย” ต้องถามว่าจริงใจหรือเปล่ากับสิ่งที่พูดออกมาเพราะเดี๋ยวร้องเดี๋ยวไม่ร้อง กระติกเผยว่า ไม่ชอบร้องไห้ต่อหน้าใคร ยืนยันว่า ขอโทษจากใจจริง ไม่กล้าเผชิญหน้าแม่เพราะกลัว เอาลูกเขามาเที่ยว แล้วเราไม่ดูแลให้ดี เราเองก็เป็นแม่คน หนูขอโทษที่หนีสถานการณ์ในตอนนั้น แทนที่จะเผชิญกับแม่ ซึ่งจริง ๆ เราต้องกล้าเผชิญ เพราะเราโตแล้ว
ส่วนประเด็นร้อน “แตงโมตาย รายได้เราก็หาย” สาวกระติกเผยว่า หนูกับโมเป็นเพื่อนกัน เที่ยวเล่นกันมาด้วยกัน แตงโมไม่ได้เป็นแค่เพื่อน เป็นทั้งคนที่เราทำงานให้ เป็นทุกอย่างในชีวิต ไม่มีเขาเราก็แย่ไปทุกเรื่อง ทั้งเสียเพื่อน ความเป็นโมคือทุกอย่าง ซึ่งประเด็นนี้พิธีกร “หนุ่ม กรรชัย” ถามต่อว่า แตงโมดูแลชีวิตคุณและลูก ถ้าไม่มีโมชีวิตคุณก็พัง ลูกคุณใครจะส่งเรียน แต่คุณสื่อออกมาเป็นอีกภาษาเลย กระติกก็เผยว่าอย่างที่หนูบอกว่านี่คือข้อเสียของหนู หนูจะพัฒนาตัวเอง พร้อมยืนยันว่าแตงโมยังไม่ได้มีการเซ็นเอกสารใด ๆ เพื่อมอบมรดกให้น้องอีสเตอร์ ลูกของกระติก ซึ่งแตงโมรับเป็นลูกบุญธรรม โดยบอกว่าโมกับกระติกช่วยกันเลี้ยง เราไม่ได้ผลักภาระให้โมทั้งหมด แต่โมเป็นเสาหลัก
และเมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” พูดว่า แตงโมบอกว่าเขารักคุณมาก ชีวิตเขาขาดคุณไม่ได้ “กระติก” ก็บอกว่า หนูก็รักโม ไม่ใช่ไม่รัก และจนถึงตอนนี้หนูก็คิดว่าโมส่งบททดสอบมาให้หนูว่าหนูต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่ไม่อยากออกมาพูดเพราะทำตัวไม่ถูก มันไม่เป็นธรรมชาติของตัวเอง หนูไม่รู้ว่าทุกคนหวังจะเห็นอะไรจากหนู หนูชอบอยู่คนเดียวแล้วร้องไห้กับตัวเอง และเมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ทิ้งท้ายว่า ตนมองว่าแตงโมรักกระติกมาก และเชื่อว่าสำหรับแตงโมนั้นหากเพื่อนตกน้ำไป แตงโมจะอยู่หาจนกว่าจะเจอ “กระติก” ก็ยกมือไหว้อีกครั้ง พร้อมบอกว่า หนูก็รู้สึกเสียใจ ขอโทษแม่ ขอโทษแฟนคลับ ขอโ?ษทุกคนที่หนูดูแลเขาไม่ดี ขอโทษจากใจจริง ไม่งั้นโมก็คงยังอยู่กับเรา ส่วนเรื่องแตงโมจากไปก็ยังไม่รู้ว่าจะบอกลูกสาว “น้องอีสเตอร์” ยังไง-.ไนน์เอ็นเตอร์เทน