ทำเอาแฟน ๆ และเพื่อนดาราตกใจกันไปตามๆ กัน หลังนักแสดงที่หลายคนต่างคุ้นเคยกันในละครพื้นบ้านอย่าง “หนึ่ง มาฬิศร์” โพสต์ขณะภาพตัวเองขณะนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล พร้อมกับมีสายระโยงระยางเต็มใบหน้าและลำตัว ซึ่งเจ้าตัวเขียนแคปชันระบุว่า “หลังจากทำ Sleep test แล้วสรุปว่าเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นตามคาดจริง ๆ”
ล่าสุด “หนึ่ง มาฬิศร์” เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ก่อนหน้านี้กว่า 20 ปีเป็นคนที่มีอาการนอนกรนอยู่แล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่ จึงปล่อยผ่านมานาน กระทั่งช่วงนี้อายุเข้าสู่วัย 51 ปี อาการกรนเริ่มรุนแรงขึ้น อีกทั้งขณะทำงานในกองถ่ายยังรู้สึกง่วงนอนเป็นบางช่วง หากได้พักสายตาก็จะหลับลึกไปเลย ในเรื่องของการอ่านบทละครก็รู้สึกว่าสมองเริ่มลืมง่าย จำบทไม่ได้ จากปกติดูบทในตอนเช้าแล้วสามารถแสดงได้เลย ปัจจุบันก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เช่นเดียวกับการวัดระดับค่าการเต้นของหัวใจยังถี่ขึ้น หัวใจเต้นแรงและเร็ว เหมือนคนออกกำลังกายตลอดเวลา แต่ไม่รู้สึกเหนื่อย
นักแสดงคนดังเผยว่าตนเองมีโรคประจำตัวคือ เป็นภูมิแพ้อากาศ ซึ่งคิดว่าไม่น่าส่งผลต่ออาการที่เป็นอยู่ อีกทั้งการดื่มกาแฟก็เพิ่งทานได้ประมาณ 10 ปี และวันละ 1 แก้วเท่านั้น ไม่ได้ติดกาแฟ อีกทั้งพฤติกรรมการนอนหลับในช่วงที่ออกกองละคร ยังใช้เวลานอนในแต่ละวันประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนวันว่างก็พักผ่อนไม่ถึง 8 ชั่วโมงด้วย ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ รอบตัวมากกว่า 100 คนก็มีอาการเช่นเดียวกัน จึงแนะนำให้ตนไป Sleep Test เพื่อเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ หลังจากชั่งใจอยู่นานหลายปีจึงตัดสินใจเดินทางไปหาคุณหมอ พร้อมกับเล่าอาการรวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันให้คุณหมอฟัง คุณหมอให้ทดลอง Sleep Test ทันทีเป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยมีการวัดการกลอกตา วัดคลื่นไฟฟ้าสมอง การเต้นของหัวใจ จังหวะขึ้นลงของหน้าท้อง คลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อใต้คาง วัดระดับออกซิเจนในเลือด การเซ็นเซอร์ที่หน้าแข้งเพื่อวัดระดับการเตะต่อย อยู่ระดับปานกลางไม่ถึงกับรุนแรง การหยุดหายใจอยู่ที่ราว 15 – 29 ครั้ง/ชม แต่พอทดสอบการนอนหลับแล้วปรากฎว่าหยุดหายใจสูงถึง 80 ครั้งใน 2 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าความรุนแรงมาก
เจ้าตัวยังเล่าต่อว่าอาการนอนหลับลึกและง่วงนอนบ่อยในตอนกลางวัน ยังเสี่ยงต่อการใช้ชีวิต อาจเกิดอาการหลับในขณะขับรถ หรือถ้าอันตรายสูงสุดคือภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ สำหรับแนวทางการรักษาตัวหลังจากนี้แพทย์สั่งให้ต้องใช้หน้ากากที่ต่อกับอุปกรณ์แรงดันบวก CPAP เพื่อหาแรงดันที่เหมาะสมขณะนอนหลับ และต้องใช้สวมใส่ทุกคืนตลอดชีวิต ช่วงแรกรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่บริเวณใบหน้า ลำบากตอนตอนตะแคง แต่สักพักก็ปรับตัวได้ อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ตอนนี้ปลอดภัยและไม่ถึงขั้นถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะขับรถมาด้วยตัวเอง หลังจากนี้ก็จะดูแลตัวเองมากขึ้น นักแสดงคนดังกล่าวปิดท้าย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน