จากกรณีนักแสดงหนุ่ม “บีม ศรัณยู ประชากริช” อัดคลิปโชว์เคี้ยวใบกระท่อมสดขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งขับรถ ขับเรือ ไลฟ์สด ใช้ขาบังคับพวงมาลัยรถแทน พร้อมติดแฮชแท็ก #พลังใบ #บีมพลังใบ เกือบทุกคลิป และชาวเน็ตที่เห็นคลิปต่างห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก จนทางกรมเจ้าท่าเรียกริบใบขับขี่เรือพร้อมสั่งปรับตามที่เสนอข่าวไปก่อนแล้ว
ล่าสุดวันนี้(2 ก.พ. 65) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี บีม ศรัณยู ประชากริช กรณีไลฟ์เฟซบุ๊ก เคี้ยวใบกระท่อม ขับรถและขับเรือในลักษณะประมาทหวาดเสียว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ว่าจากการตรวจสอบ พบการกระทำความผิดใน 2 ท้องที่ คือ สน.บางยี่ขัน และ สน.บางพลัด โดยความผิดที่ สน.บางยี่ขัน กรณีขี่รถจักรยานยนต์ ดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัว บีม ศรัณยู มารับทราบข้อหา และให้เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาทแล้ว
ในส่วนของ สน.บางพลัด ก่อเหตุ 2 คดี คดีแรกคือ กรณีขับรถจิ๊ปดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัว บีม ศรัณยู มารับทราบข้อหา และให้เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาทแล้วเช่นกัน คดีที่ 2 คือ กรณีขับรถโกลคาร์ท ก็ได้ยึดรถ พร้อมกับดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน , ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น และนำรถที่ไม่ได้จดเลขทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ในทาง ซึ่งคดีนี้และมีการเปรียบเทียบปรับไป 1,000 บาท ในความผิดข้อหาขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน ส่วนอีก 2 ข้อหานัดส่งฟ้องศาลในที่ 3 ก.พ.2565
ขณะที่ล่าสุดวันเดียวกัน ผู้จัดการส่วนตัว “บีม ศรัณยู” ให้สัมภาษณ์กับไนน์เอ็นเตอร์เทน หลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี “บีม ศรัณยู” กรณีไลฟ์เฟซบุ๊ก เคี้ยวใบกระท่อม ขับรถและขับเรือในลักษณะประมาทหวาดเสียว โดยผู้จัดการส่วนตัวยืนยัน “บีม” สำนึกผิดและรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และพร้อมให้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน
โดยความผิดที่ สน.บางยี่ขัน 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ /สน.บางพลัด 2 คดี 5 ข้อหา ทั้งหมด “บีม” ได้เดินทางไปรับทราบข้อหาและเปรียบเทียบปรับแล้วบางส่วน มีคดีขับรถโกลคาร์ท ข้อหาก็ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น และนำรถที่ไม่ได้จดเลขทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ จะมีนัดส่งฟ้องศาลจังหวัดตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) โดยหนุ่ม “บีม” ก็จะเดินทางไปด้วยตัวเองด้วย
ผู้จัดการส่วนตัวยอมรับเหตุที่เกิดขึ้นกระทบกับงานของ “บีม” ที่ตอนนี้มีถ่ายละคร 3 เรื่อง และหนังอีก 1 เรื่อง ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกผิดต่อผู้จัดและเพื่อนร่วมงานมากๆ บางครั้งต้องเดินทางไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ไปกองถ่ายช้าบาง แต่โชคดีที่ผู้จัดและทีมงานเข้าใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น