ตลอดระยะเวลาปี 2564 จนถึงวันนี้ ( 31 ธ.ค.2564 ) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีแล้ว ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ถึงเราจะเจอกับความยากลำบากและวิกฤติต่างๆมากมาย ทั้งโรคระบาด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมถึงภัยของธรรมชาติหลายครั้ง แต่คำว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ยังอยู่กับเราในทุกยุค และยิ่งคนบันเทิงที่มีกำลังในการช่วยเหลือที่มากกว่า ก็ได้ส่งต่อน้ำใจ ทั้งการช่วยเหลือผ่านช่องทางโซเชียลของตนเอง หรือแม้แต่รีบรุดลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนกลายเป็นภาพที่เราเห็นจนชินตา วันนี้ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” จึงขอสดุดีน้ำใจของบุคคลที่ทำความดีเพื่อสังคมมารวมไว้เป็นเรื่องราวดีๆส่งท้ายปีกัน
เริ่มต้นที่คู่แฝดรุ่นใหญ่อย่าง “บิณฑ์ – เอกพันธุ์ บรรลือฤทธิ์” ที่ทั้งคู่ทำความดี ไม่ใช่แค่ปี 2564 แต่ยังทำมานานและยังคงทำต่อเนื่องจนกลายเป็นโลโก้ของคนบันเทิงจิตอาสาไปแล้ว หากในสถานการณ์ปกติ ทั้งคู่ก็จะเปิดรับเรื่องร้องทุกและให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้อยู่แล้ว และยิ้งในสถานการณ์การระบาดของโควิด หรือเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา คู่แฝด “ท็อป-ไทด์” ก็อุทิศตนลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนแบบเร่งด่วนเช่นเคย
ถัดมากับอีกคู่แฝดใจบุญอย่าง “ฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร” สำหรับคู่แฝด “เล็ก-ใหญ่” ที่มีหัวใจเสียสละมาโดยตลอด ก็เป็นอีกคนบันเทิง ที่ทำความดีและเป็นจิตอาสามาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2564 นี้ ทั้งคู่ก็ยังคงเดินหน้า ให้ความช่วยเหลือสังคมและผู้เดือดร้อนให้หลายรูปแบบ ทั้งน้ำท่วมใหญ่ หรือแม้แต่เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว เรียกว่ามีเหตุด่วนเหตุร้ายที่ไหน เจอแฝดเล็ก-ใหญ่ เข้าไปให้ความช่วยเหลือที่นั่น
อีกคนที่เหมาะเหลือเกินกับคำว่านางงามน้ำดี นั่นก็คือ “บุ๋ม ปนัดดา” ที่เธอเองก็กลายเป็นโลโก้ของผู้เสียสละไปแล้วเช่นกัน โดย “องค์กรทำดี” มีเครือข่ายขยายออกไปมาก และได้ให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบ อย่างในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา เธอก็ทั้งลงพื้นที่แจกของ รวมถึงบัญชาการเครือข่ายองค์กรทำดี กระจายกันให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงเหตุการณ์วิกฤติเรื่องของเตียงผู้ป่วยโควิด แม่บุ๋มเอง ก็ได้ร่วมกับรายการ “ตกมันส์บันเทิง” จัดทำโครงการ “ตกมันส์ปันน้ำใจ” เปิดรับเรื่องร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือและประสานงานเรื่องเตียงและการรักษา ให้ผู้ป่วยโควิดอีกด้วย
ถัดมากับอีกสางสาวที่ก็ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด กับเพจ “เราต้องรอด” อย่างสาว “ได๋ ไดอาน่า” และสาว “จ๊ะ นงผณี มหาดไทย” ที่ทั้งคู่เปิดรับเคส ให้ความช่วยเหลือ ประสานงานเรื่องเตียงและการรักษาผู้ป่วยโควิด ตลอดจนการแจกจ่ายยา และให้ความดูแลรักษาเบื้องต้น อุทิศตนหนักถึงขั้นสาวได๋เอง รับเคสจนไม่มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอตลอดระยะเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่สาวจ๊ะเอง ก็เกิดอาการเคลียดหนัก เพราะรับเรื่องราวความยากลำบากของคนที่ติดต่อเข้ามาแล้วเกิดความกดดัน
นอกจากร่วมกับพี่สาวคนสนิทรับเคสผ่านเพจเราต้องรอดแล้ว สาวจ๊ะยังได้ให้ความช่วยเหลือคนบ้านเดียวกัน กับการทำโครงการ คนอ่างทอง ป่วยไม่มีเตียงรักษาให้กลับมาบ้านเรา โดยเธอใช้สื่อโซเชียลของตัวเองในการเปิดรับเรื่องราวร้องทุก และเป็นธุระจัดการประสานเตียง รวมถึงรถขนส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด และการทำความดีย่อมเป็นผล เพราะล่าสุด เธอเพิ่งฌพสต์ข่าวที่น่ายินดี ว่าเจ้าตัวได้เข้ารับรางวัล “ผู้ปิดทองหลังพระ” ซึ่งเกิดจากการอุทิศตนช่วยเหลือสังคมของเธอนั่นเอง
ปิดท้ายที่คู่รักจิตอาสา “บอย อนุวัฒน์-เจี๊ยบ พิจิตตรา” เจ้าของรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” จากโครงการรถพุ่มพวง ที่ตั้งใจจะทำเพียงไม่นาน เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านทำได้รับความลำบากจากสถานการณ์โควิด แต่เพราะเมื่อได้ให้และได้เห็นคนที่ได้รับความช่วยเหลือมีชีวิตที่ไปต่อได้ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะทำต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด ซึ่งถึงปัจจุบัน ทั้งคู่ได้ช่วยเหลือไปแล้วหลายร้อยชุมชน และใช้เงินเก็บของตนเองไปแล้วหลายล้านบาท ซึ่งความช่วยเหลือของทั้งคู่ก็สร้างความประทับใจให้กับสังคมได้รับรู้ถึงน้ำใจและการเสียสละเพื่อช่วยเหลือสังคม
ทำให้ทั้งคู่ได้รับรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำความดีต่อสังคมต่อไป
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำความดีเท่านั้น เพราะยังมีคนบันเทิงอีกหลายคนและหลายเหตุการณ์ที่เขาเหล่านั้น ได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ และความเสียสละเหล่านั้น ก็ทำให้เราได้เห็นแง่งามของเพื่อนมนุษย์ ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือต้องเผชิญกันเรื่องร้ายแรงเรื่องใด ย่อมได้เห็นคนไทยออกมาช่วยเหลือกันแน่นอน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน