จับมือกันฝ่าฟันอุปสรรครักกันมาพักใหญ่ ในที่สุดนางเอกหน้าหวาน “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” และแฟนหนุ่มนักธุรกิจ “เค วัฒนา” ก็เดินทางมาวันชื่นคืนสุขที่รอคอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทั้งคู่ถือฤกษ์ดี 10 ธ.ค.2564 จัดงานวิวาห์สุดชื่นมื่น ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ โดยมีครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนพ้องคนสนิทของทั้ง 2 ฝ่ายร่วม 200 ชีวิต เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานรักให้ทั้งคู่ด้วยความอิ่มเอมใจ ท่ามกลางมาตรความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 มีการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับแขกทุกคนที่เดินทางมาร่วมงาน
งานวิวาห์ของทั้งคู่ถูกจัดงานอย่างเรียบง่าย บรรยายภายในงานอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรัก พื้นที่จัดงานรายล้อมไปด้วยดอกไม้โทนสีขาว เปรียบดังความรักบริสุทธิ์ของทั้งคู่ แซมด้วยดอกไม้สีเขียวและชมพูให้ความสวยงาม สบายตา ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 08.05 น.ได้มีพิธีตักบาตร พระสงฆ์จากวัดปทุมวนารามทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ต่อมาเวลา 09.09 น. ได้แห่ขบวนขันหมากตามธรรมเนียมพิธีไทยแบบครบถ้วน โดยคุณพ่อศิริชัย เจริญศักดิ์วัฒนา พร้อมคุณพิชัย จิรังสรรพสุข เถ้าแก่ฝ่ายชาย นำขบวนญาติเจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทองประตูชัยเพื่อมาสู่ขอเจ้าสาว กับคุณแม่วนิดา สุวรรณศุข และ รศ.ดร.ประภาพรรณ เอี่ยมสุภาษิต ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นในเวลา 10.55 น. ได้มีพิธีสวมแหวนและพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งฤกษ์ดังกล่าวเป็นฤกษ์แห่งความมั่นคง ยืนยง ร่ำรวย โดยมีคุณพ่อและคุณแม่ของบ่าวสาวเป็นผู้เจิมและสวมมงคล ตามมาด้วยพิธีรับไหว้ และพิธีฉลองมงคลสมรสซึ่งถูกจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
หลังเสร็จสิ้นพิธีการต่าง ๆ บ่าว-สาว ป้ายแดง ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ โดย “จั๊กจั่น” มาในชุดเจ้าสาวชุดสีขาวจากแบรนด์ milin front row wedding ด้าน “เค” ปรากฏกายในชุดเจ้าบ่าวชุดสีแดงเบอร์กันดี ของแบรนด์ herringbone menswear เดินจับมือกันด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมาเผยถึงความรู้สึกของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวหมาด ๆ
โดย “จั๊กจั่น” เผยว่า “คู่เราเจอเรื่องราวอะไรไม่น่าเชื่อมาเยอะ ขอบคุณที่จับมือกันตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้แน่นไม่ปล่อย สิ่งที่เจอเป็นอุปสรรค์ เรื่องความรักที่เคยผิดหวังมาเป็นปัญหาใหญ่ที่จั่นค่อนข้างกังวล แต่ข่าวที่ออกมาไม่ใช่เรื่องจริง ทำให้จั่นมั่นใจในตัวเค คิดว่าเราต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ ความจริงก็คือความจริง ดีใจที่ผ่านมาได้ เขาก็อยู่เคียงข้างเราตลอด จริง ๆ สงสาร เพราะเขาไม่ใช่คนในสื่อแต่ต้องมาตอบคำถามเรื่องราวที่เป็นเรื่องส่วนตัวในอดีตของเราที่ผ่านมา 10 ปี เกรงใจเขาและครอบครัวมาก ขอบคุณที่จับมือกันและกันแน่น ไม่ปล่อย จนถึงตอนนี้ มันเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่เรา เราโตมาจากคนละครอบครัว ถูกเลี้ยงดูกันมาคนละแบบ ต่อจากนี้เราต้องจับมือกันโดยไปข้างหน้า อาศัยความรัก ความเข้าใจ สัญญาว่าจะดูแลกันและกันแบบนี้ตลอดไป มีอะไรก็จะพูดคุย ปรับความเข้าใจกัน”
“ถามว่าเริ่มคุ้นชินกับคำว่าสามีภรรยา เริ่มคุ้นแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เราจดทะเบียนเพื่อเอาฤกษ์กันไปแล้ว หลายคนก็เริ่มแซวว่าเหมือนแต่งแล้ว แต่เราเป็นผู้หญิงก็อยากจัดงานแต่งก่อน ส่วนนามสกุลจั่นไม่ได้เปลี่ยนค่ะ ใช้นามสกุลเดิม แพลนชีวิตคู่หลังจากนี้คิดว่าจะมีลูกเลย เพราะอายุสมควรที่จะมีแล้ว ใช้วิธีธรรมชาติสัก 1-2 ปีก่อน ถ้าไม่สำเร็จก็ค่อยว่ากันอีกที ลองคนหนึ่งก่อนว่าจะไหวไหม เพราะเราไม่เคยมีหลาน ไม่เคยมีน้อง ไม่เคยเลี้ยงลูก รอดูของจริงก่อนว่าจะไหวไหม”
“ส่วนความรู้สึกในวันนี้มีความสุขมาก ๆ ค่ะ เพราะมันไม่ใช่แค่วันของเรา 2 คน แต่ทุกคนที่เรารักมาร่วมแสดงความยินดีกับเรา ดีใจมากที่วันสำคัญของเรายังมีพวกเขาอยู่ จั่นประทับใจในทุกโมเมนต์ ตอนรดน้ำก็ร้องไห้ตลอด ซาบซึ้งกับคำอวยพรของทุกคน ถ้าจะพูดถึงความประทับใจในตัวเคก็คือเขาเข้าใจในงาน เข้าใจในอาชีพของเรา บางทีเราเครียดกับงานก็มีบ้างที่ไปลงกับเขา แต่เราก็ปรับจูนเข้าหากัน และอย่างที่บอกว่าเขารักครอบครัวของเขาและรักครอบครัวของจั่น รวมถึงลูก ๆ จั่นด้วย ที่สำคัญเขาบอกว่าถ้ามีลูกก็ไม่ต้องเลิกเลี้ยงหมาแมว อันนี้แฮปปี้มาก บ้านใหม่ก็จะสร้างห้องใหม่ให้หมาแมวด้วย อันนี้แฮปปี้อีก ขอบคุณที่รักจั่น รักครอบครัวจั่น รักลูก ๆ ของจั่น ขอบคุณที่เข้าใจในตัวจั่น ขอบคุณที่จับมือกันไว้ไม่ปล่อย รักนะคะ”
ด้าน “เค” กล่าวเสริมว่า “ช่วงขบวนแห่ขันหมากผมน้ำตาคลอตอนที่เราเล่นกั้นประตูเงินประตูทอง ซึ่งประตูนั้นเป็นประตูสุดท้าย คนที่กั้นคือคนที่สนิทกับจั่นมากที่สุด 2 คน เป็นประตูที่มีคำถามและคำพูดที่แสดงความจริงใจ เขาพูดประโยคกินใจเราว่าอยากเราให้คำมั่นสัญญาข้อหนึ่งกับเขาว่าเราว่าจะดูแล จะรักจั่น เหมือนที่เขาสองคนทำกันมาตลอด รู้สึกดีใจที่เขา 2 คนไว้ใจเชื่อใจเรา วันนี้เราก็จับมือกันเดินมาถึงจุดนี้แล้ว มีความสุข เป็นน้ำตาแห่งความปิติที่เราผ่านมาได้จริง ๆ ส่วนคำมั่นสัญญา ผมจะบอกเขาตลอดว่าตั้งแต่ตอนที่เขาเล่นละคร เขาอาจจะเครียดจากงาน แรก ๆ เราไม่เข้าใจ แต่สักพักก้เริ่มเรียนรู้และเข้าใจว่าเขาต้องการพื้นที่เงียบ ๆ เราก็แค่บอกเขาว่ามีอะไรก็คุยกับเรานะ เรารับฟัง เขาก็ระบายสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา แล้วค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนตัวเอง เรียนรู้กัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราใช้ความเข้าใจ ปรับทัศนคติเข้าหากัน”
“สำหรับเรื่องลูกผมอยากมีลูก 2 คน เพราะทั้งผมและจั่นต่างก็มีพี่น้อง เวลามีอะไรเราก็แชร์กัน ก็เลยอยากจะมีลูก 2 คน แต่ก็ต้องแล้วแต่เขา เพราะเขาเป็นคนอุ้มท้อง ส่วนความรู้สึกในวันนี้ผมมีความสุขมาก ทุกคนที่เรารักมาแสดงความยินดี เห็นรอยยิ้ม ได้ยินคำอวยพรจากพวกเขาแล้วมีความสุขมาก น้ำตาไหลตลอด ประทับใจทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคิด แขกทุกคนในงานมีความสุขเราก็มีความสุข ถามว่ารู้สึกยังไงที่ได้จั่นมาเป็นแม่ของลูก ต้องขอเรียนอย่างนี้ว่าปกติผมเป็นคนรักแม่ เวลาเราดูเขา สิ่งที่เขาทำให้เราโดยที่เราไม่ได้พูด คือการดูแลเอาใจใส่ทุกเรื่องในชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน รู้ว่าเราชอบอะไรก็หาเตรียมไว้ให้ เป็นการเซอร์ไพรส์ทุกวัน ที่สำคัญเขามีหมามีแมว บ่งชี้ได้ว่าเขาดูแลดีมาก ๆ ไม่ต้องมีคำถามเลยว่าถ้ามีลูกเขาจะเลี้ยงลูกได้ดีขนาดไหน เขามีความรัก ความเอาใจใส่ในรายละเอียดทุก ๆ เรื่อง เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เขาดูแลเราได้จริง ๆ นี่แหละคือพื้นฐานของความรัก ขอบคุณจั่นที่รักในความเป็นผม เรื่องราวที่ผ่านมาเขารับเอาไปคิดและเอามาคุยกันทุกครั้ง สุดท้ายมันก็มีกันแค่ 2 คน ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่รักผมนะครับ“.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน