“อู๊ด เป็นต่อ”ยิ้มออกแล้ว บ้านหรูพังโครงการรับผิดชอบซ่อมใกล้เสร็จ ร้านชาบูทยอยกลับมาเปิดได้อีกครั้ง

หลังเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว นักแสดงอารมณ์ดี “อู๊ด เป็นต่อ” ต้องกุมขมับเพราะบ้านหรู ย่านรามอินทรา ที่ซื้อในราคา 12 ล้านบาท พื้นที่ 100 ตารางวา และเพิ่งเข้าอยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี เกิดปัญหาน้ำรั่วบริเวณกลางบ้านชั้น 3 และไหลซึมแทบจะทุกจุดของตัวบ้าน โดยที่ผ่านมามีการติดต่อไปทางโครงการ ซึ่งได้รับเพียงการส่งช่างเข้ามาช่วยวิเคราะห์จุดที่มีปัญหา ซึ่งไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ
แต่เพราะเจ้าตัวมีความตั้งใจไว้อยู่แล้ว ว่าอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป เพราถูกใจดีไซน์และความสะดวกสบายต่างๆ ทำให้ต้องพยายามที่จะหาทางออกกับทางโครงการให้ได้ จึงได้มีการโพสต์คลิปผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง เพื่อให้ทางโครงการเข้ามาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ก็ได้รับการติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบทันที

ล่าสุด “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” เทนบุกถึงบ้านของ “อู๊ด เป็นต่อ” เจ้าตัวเปิดใจว่า ช่างได้เข้ามาซ่อมแซมพื้นที่ทุกจุดของบ้านตั้งแต่วันจันทร์และจะแล้วเสร็จในวันศุกร์นี้ มีการซ่อมแซมฝ้าทั้งหมด รวมถึงวอลเปเปอร์ก็มีการนำเข้ามาติดให้ใหม่เกือบทั้งหลัง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่ารู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากโครงการ ถึงแม้เจ้าตัวจะต้องสูญเสียเวลาไปบ้างก็ตาม
เจ้าตัวมองว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ต้องการซื้อไว้เพื่อเป็นที่อยู่อาศับให้กับลูกสาวในอนาคต เป็นการวางแผนชีวิตล่วงหน้าไว้ให้ลูก จึงอยากได้สิ่งที่ดีและปลอดภัยที่สุด ยอมรับว่าตอนที่เห็นบ้านเกิดน้ำรั่วซึม รู้สึกโมโหมาก ซึ่งนอกจากบริเวณที่รั่วซึมทางโครงการจะช่วยตรวจสอบทั้งระบบน้ำ-ไฟ รวมถึงเครื่องปรับอากาศให้ด้วย ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ร้องขอสิทธิพิเศษใดๆ เพิ่มเติมกับทางโครงการเพื่อแลกกับค่าเสียเวลา
ส่วนตัวมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้น แม้เจ้าตัวจะไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง ทางโครงการก็คงออกมารับผิดชอบ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับบ้านของเจ้าตัวบ้านเดียว บ้านหลังอื่นๆ โดยรอบก็ได้รับความเสียหายมากน้อยแตกต่างกันไป เพียงแต่บ้านของเจ้าตัวเป็นบ้านที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็เท่านั้น

ส่วนร้านชาบู “อู๊ดเป็นต่อ” ที่เปิดมาได้กว่า 3 ปี ที่ผ่านมาเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้ สาขาทั่วประเทศที่มีกว่า 60 สาขา ต้องปิดตัวลงทั้งหมด ลูกน้องเกือบ 2,000 คนต้องอยู่ในสถานะว่างงาน เจ้าตัวเผยว่าถือเป็นเรื่องโชคดีที่ลูกน้องยินดีที่จะไม่รับค่าจ้าง ซึ่งทุกคนได้ให้กำลังใจเจ้าตัวในฐานะเจ้าของธุรกิจมาโดยตลอดเพราะต้องขาดทุนไปกว่า 10 ล้านบาท
จนถึงตอนนี้หลังสถาณการณ์เริ่มคลี่คลาย ได้เริ่มต้นกลับมาเปิดได้เพียง 22 สาขา ซึ่งมีการปรับกลยุทธ์การขายใหม่ โดยให้ลูกค้าสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์ที่มีอยู่ในร้าน รวมถึงระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ส่วนราคาอาหารในฐานะเจ้าของธุรกิจมองว่าอาจจะมีการวางแผนปรับราคาขึ้นในอาหารบางประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งอนาคตยังมีความหวังว่าร้านชาบู “อู๊ด เป็นต่อ” จะกลับมาเปิดครบ 60 สาขาเช่นเดิม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 467 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม