เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เคยออกปากว่าอยากร้องไห้จากพิษโควิด-19 สำหรับพิธีกรหนุ่ม “เอ๊าะ กีรติ” ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจทัวร์ “Luxe Travel and Agency” ที่ได้รับผลกระทบนานเกือบ 2 ปี ทำให้รายได้เท่ากับศูนย์ ถูกยกเลิกจากลูกค้ามากถึง 11 เจ้า ตีเป็นเงินมากกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวได้หยุดรับเงินเดือนจากบริษัทเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายตั้งแต่เผชิญวิกฤตโควิด อีกทั้งพนักงานกว่า 10 ชีวิต ที่ผ่านมายังคงได้รับเงินเดือนแต่อาจมีการปรับลดลงมาตามความเหมาะสม และแม้เคยคิดปิดธุรกิจแต่ก็ยังมีลูกน้องที่คอยตั้งใจทำงานช่วยปรับตัวพยุงธุรกิจเลยทำให้ฮึดเดินหน้าอีกครั้ง รวมทั้งหวังว่าการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะช่วยฟื้นฟูในหลาย ๆ ธุรกิจ
โดยเอ๊าะเปิดใจผ่านไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยคิดอยากจะปิดธุรกิจเพราะทนกับค่าใช้จ่ายที่ยังคงมีอยู่ในทุกเดือน แต่ไม่มีรายรับเข้ามาเลย แต่เมื่อได้เห็นลูกน้องที่ยังคงตั้งใจทำงาน หาข้อมูลเพื่อช่วยปรับกลยุทธ์ธุรกิจ รวมถึงช่วยหาข้อมูลสำหรับร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ของแต่ละประเทศที่ยังสามารถให้บริการได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินหน้าธุรกิจในอนาคต ทำให้ผู้บริหารอย่างเอ๊าะ รู้สึกว่าต้องต่อสู้ต่อไป เป็นหัวหน้าไม่มีสิทธิ์ยอมแพ้ แม้จะอยากร้องไห้มากก็ตาม แม้ที่ผ่านมาถึงจะไม่รับเงินเดือนจากบริษัท ก็ยังมีการควักกระเป๋าเงินส่วนตัวเพิ่มอีก 8 ล้านบาทเพื่อมาช่วยพยุงธุรกิจ ซึ่งเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผิดเงื่อนไขการทำธุรกิจ แต่เพื่อแลกความสุขของลูกน้อง รวมถึงลูกค้าที่ยังรอใช้บริการก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า”
ส่วนที่มีการประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวบางประเทศสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ ในแง่ของนักธุรกิจที่ทำธุรกิจทัวร์อย่างหนุ่มเอ๊าะ เผยว่า “ได้จัดทำตัวอย่างและแผนการท่องเที่ยวไปให้กลุ่มลูกค้าในต่างประเทศหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย ซึ่งถือเป็นส่วนใหญ่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการทัวร์ เพื่อเป็นการชี้ช่องทางการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการย้ำว่าบริษัททัวร์ของเจ้าตัวยังอยู่ ซึ่งผลตอบรับจากนักท่องเที่ยวกลับไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากความกลัวของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางกับกลุ่มทัวร์ ซึ่งต้องเดินทางทีละหลายคน และเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 นั่นจึงทำให้ในแง่บริษัททัวร์มองว่าการเปิดประเทศอาจส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว แต่ยังไม่ตอบโจทย์กับธุรกิจบางประเภทอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งหลังจากนี้หากสามารถจัดทัวร์มีลูกค้าเข้ามาติดต่ออีกครั้ง อาจต้องมีการปรับรูปแบบใหม่ ให้สามารถเดินทางราว ๆ 20 คนเท่านั้น เพื่อรักษาระยะห่าง แม้กำไรของบริษัทจะลดลงก็ต้องยอม เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เพราะก่อนหน้านี้ รูปแบบการจัดทัวร์ของบริษัทเกือบทั้งหมดจะเป็นกรุ๊ปที่ค่อนข้างพรีเมียม เป็นทัวร์ปิด มีนักท่องเที่ยว 80 -1,500 คน”
และด้านคนไทยที่อยากเดินทางไปต่างประเทศเอ๊าะ เผยว่าที่ผ่านมามีลูกค้าติดต่อเข้ามาเยอะ ซึ่งทุกอย่างพร้อมทั้งหมด ทั้งร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงลูกค้า เพียงแต่ติดที่ไม่สามารถเดินทางได้เท่านั้น สุดท้ายเจ้าตัวยืนยันว่าบริษัทของเจ้าตัวที่เปิดมาเข้าปีที่ 9 ยังคงเปิดให้บริการอยู่ลูกค้ายังคงสามารถติดต่อมาสอบถามได้:-ไนน์เอ็นเตอร์เทน