จากสถานการณ์โควิดลากยาวมาเกือบ 2 ปี ธุรกิจในวงการบันเทิงที่โกยทรัพย์เป็นว่าเล่นอย่างการถ่ายทำละคร หรือคอนเสิร์ต ก็ต้องชะงักตามมาตรการไปโดยปริยาย วันนี้ไนน์เอ็นเตอร์เทน พาเปิดใจผู้บริหารค่ายบันเทิง “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” แห่งค่าย 411Entertainment (โฟร์วันวัน เอ็นเตอร์เทนเม้นต์) ที่ออกปากยอมรับว่าเจ็บตัวไม่น้อยกับโควิด
.
โดยบอสใหญ่ “กึ้ง เฉลิมชัย” ที่ยืนหนึ่งพาซุปตาร์แถวหน้าแดนกิมจิมาสบตาสาวไทยแบบใกล้ชิดตลอด 11 ปี ไม่ว่าจะเป็น ซงจุงกิ , พัคโบกอม , โซจีซบ , Blackpink , วินเนอร์ , Wanna One และอีกมากมาย ก็ไม่พ้นเจอพิษโควิด-19 ต้องพับโปรเจกต์นำเข้าคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้งศิลปินเกาหลีใต้ไปนับสิบงาน มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี สูญรายได้ไปหลายล้าน แต่ก็ต้องปรับตัวโดยเฉพาะการควบคุมรายจ่าย เพราะการลงทุนจัดแฟนมีตติ้งหรือคอนเสิร์ตออนไลน์สำหรับศิลปินต่างชาติก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายทีเดียว
.
โดย กึ้ง เผยว่า “แต่ก่อนเรามีการจัดคอนเสิร์ต นำศิลปินต่างประเทศเข้ามา แต่คือหายไปเลย รายได้ 100 เปอร์เซ็นต์จากตรั้งนั้นหายไปเลย เพราะเราไม่สามารถทำได้ ทำออนไลน์เราก็มีคุยกันไว้ แต่มูสแอนด์โทนของบรรยากาศโดยรวมตอนนี้ ทุกคนดีเลเรื่องงานไปหมด เราก็ต้องหารายได้ส่วนอื่นเข้ามา เช่นการทำคอนเทนต์ลงในโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่รายได้มันไม่สามารถเข้ามาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป”
.
ผิดกับค่ายเพลงน้องใหม่ในเครืออย่าง 411Music ที่แม้จะจุกเบา ๆ เพราะทันทีที่เปิดตัวศิลปินเบอร์แรก ลูกสาวแห่งชาติ “แอลลี่ อชิรญา” เมื่อต้นปี 2563 ได้เพียงเดือนเดียว โควิด -19 ก็ระบาดหนักในไทย ผ่านมาข้ามปี สถานการณ์เหมือนจะดีขึ้น ตัดสินใจเดบิวต์ลูกสาวทีมใหม่ 3 สาว “Arena (อารีน่า)” “เชอแตม พริม และ มินซอ” ก็ต้องมาสะดุดอีกครั้ง เพราะโควิดระลอกใหม่ แต่ก็ขอลุยต่อ แม้หลาย ๆ แผนงานที่ต้องปรับมาเป็นออนไลน์ ถึงจะเป็นการเรียนรู้ใหม่ แต่บอสกึ้งย้ำชัดว่าควบคุมมาตรฐานการปั้นศิลปินไว้เทียบเท่าแดนดิมจิ ให้สมกับความมุ่งมั่นและตั้งใจของเด็ก ๆ ที่ต้องฝึกหนักอยู่ในเกาหลีใต้นานเกือบ 2 ปีกว่าจะมีวันนี้
.
บอสหนุ่มไฟแรงยังกล่าวอีกว่า “ใช้วิธีการเทรนออนไลน์ ส่วนงานที่เราอยากไปถ่ายทำที่นู้นก็เลื่อนไปก่อน เขาพร้อมที่จะทำงานอย่างมีความสุข และให้ความสุขกับคนดู แต่พอเจอเหตุการณ์โควิด ทำให้ผลตอบรับอาจจะไม่ได้เต็มที่อย่างที่คาดไว้ แต่กำลังใจที่น้องอยากจะทำต่อ ก็สู้ต่อ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
