คัมแบ็กพร้อมกับลุคส์ใหม่ที่ใครก็ต้องเหลียวหลังมอง นักร้องเสียงคุณภาพ “ซิลวี่ ภาวิดา” กับซิงเกิลล่าสุด “XL” โดยซิลวี่เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ลุคส์ปัจจุบันที่แฟน ๆ ได้เห็นคือความชอบส่วนตัว ซึ่งชอบมานานแล้ว แต่แค่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น จนวันนี้ได้เจอกับทีม “วอนเนอร์ มิวสิค เอเชีย ที่เจ้าตัวเซ็นสัญญาด้วย 2 ปี มั่นใจในสิ่งที่เราเป็น อย่างที่ผ่านมาการเป็นศิลปินมักจะมีกฎระเบียบ อย่างเรื่องรอยสักก็จะเป็นเรื่องใหญ่ จนค้นหาตัวเองและได้รู้ว่าเหมาะที่จะไปเส้นทางไหน ปรากฎว่าทุกอย่างก็ส่งผลให้เรามาถึงทุกวันนี้
.
การเปลี่ยนลุคส์เป็นในสิ่งที่เราชอบ นักร้องสาวมองว่าคนเราควรจะเป็นตัวของตัวเองมาก ๆ ไม่ควรโดนบีบบังคับ แต่สำหรับวงการบันเทิงไทยเอง ที่ผ่านมาตามความรู้สึกของซิลวี่ที่เคยถูกสั่งให้ลดน้ำหนัก โดนสั่งให้ห้ามสัก และโดนสั่งให้แสดงออกให้เป็นผู้หญิงมากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้เพราะเมื่อก่อนความหลากหลายยังมีไม่เยอะ
.
อย่างซิงเกิลล่าสุด “XL” เจ้าตัวมองว่าคอนเทนต์เกี่ยวกับรูปร่างค่อนข้างมีเยอะมากตามออนไลน์ เพียงแค่ยังไม่เปิดกว้างพอบนสื่อโทรทัศน์ เพราะทุกวันนี้การโฆษณาก็ยังเป็นผู้หญิงผอมขาวอยู่ดี สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันให้เราต้องเปลี่ยน เพราะรู้สึกว่ามันหยุดแค่นี้ไม่ได้ เพราะเราเก่ง เราทำของเรามาตั้งนาน ควรได้รับจุดยืนที่หนูอยากจะเป็น ที่ผ่านมาได้แต่คาดหวังไว้ว่าคนจะเข้าใจ ซึ่งผลออกมากระแสดีเกินคาด รู้สึกดีใจว่าเรามาถูกทางแล้ว เพลงนี้เป็นการนำเสนอในมุมของสิ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยอยากจะเป็น ทั้งรูปร่างและพลังงานที่ไม่ได้ถูกยอมรับจากสังคมว่าแบบนี้คือสวย จึงนำผู้หญิงเหล่านี้มาอยู่ด้วยกัน จนได้รับคำชื่นชมว่าทำไมอ้วนถึงเต้นเก่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันมีอยู่มานานแล้ว ทีมแดนเซอร์และทีมออกแบบ เป็นทีมที่ซิลวี่ติดต่อด้วยตัวเอง ต้องการหาสาว ๆ ที่อารมณ์เดียวกับเราที่ทั้งสับและมีความเชิ่ดในแบบของตัวเอง
.
ตนมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยกล้าที่จะพูดออกไปเพราะไม่มีใครเปิดรับแนวคิวของเรา อย่างตอนที่ซิงเกิลนี้ถูกปล่อยออกมาก็จะมีคนที่ไปขุดคลิปตอนอยู่เดอะสตาร์ พอเราได้ดูตัวเอง เราก็รู้สึกว่าตัวเองมาไกลมากนะ ตอนนั้นก็มีความซ่า ความมั่น แต่เรายังเด็กมาก และโดนกดดันมองว่าสิ่งที่เราเป็นมันไม่ดี “เราต้องผอม” คำนี้โหดมากสำหรับตนมันไม่ใช่คำด่าแต่เจ็บที่สุด หากคำพูดที่ว่า “คนไซซ์ XL คือคนที่ไม่ดูแลตัวเอง” อยากบอกว่า แล้วไง! คือถ้าพูดด้วยความเป็นห่วงก็เข้าใจได้ แต่ถ้ามาพูดในเชิงดูถูกก็ไม่ใช่ ถ้าเขามีความพอใจในตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนมาชอบในตัวเรา
.
ส่วนแฟนสาวอย่าง “มิ้น มิณฑิตา” ซิลวี่เผยว่าให้กำลังใจอย่างดี อยู่ข้าง ๆ ตลอด มิ้นคือคนแรก ๆ ที่ได้ฟังเพลงนี้ก่อนที่จะปล่อยออกมา อย่างตัวเอ็มวีสุดแซ่บมิ้นเองก็พาเดินทางไปถ่ายเอ็มวีด้วยกัน ได้เห็นทุกการกระทำ ดีใจที่เขายอมรับในตัวตนได้ เพราะนอกจากแม่ที่เข้าใจลูกมาก ๆ และผลักดันตลอดตอนแรกก็คิดว่าไม่ต้องการความรักจากใครแล้ว แต่พอมามีแฟน แฟนก็รับเราได้อีกมันก็เลยเป็นพลังมาก ๆ ที่ทำให้เราอยากเผยแพร่พลังงานบวกต่อไป เพราะสิ่งที่เราเป็นมันแปลก แปลกแต่มีคนรักมันเป็นไปได้นะ เพราะทุกคนก็แปลกกันหมด ไม่มีใครตัดสินว่านี่คือปกตินี่คือธรรมดา มันไม่มีอยู่จริง มันอยู่แค่ว่าเราอยู่ในสังคมแบบไหน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
