“มิลลิ” ทัวร์ลงคณะใหญ่ถูกรุมแหกผ่านโซเชียล เจ้าตัวทวิตรัว ขอโทษอาจารย์ แจงดราม่าใช้สิทธิพิเศษยื่นสอบล่าช้า

เหตุเกิดที่ทิวตเตอร์ก็ต้องให้จบที่ทวิตเตอร์ สำหรับสาว “มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล” เจ้าของ #Saveมิลลิ ที่ก่อนหน้านี้ มีเรื่องให้ต้อง Save เธอในหลายเรื่อง และที่ฮือฮาไปก่อนหน้านี้ คือการที่เธอโวยผ่านทวิตเตอร์ว่า เธอไม่มีคะแนนในการสอบมิดเทอม และอาจารย์แจ้งว่าเกิดจากระบบที่ผิดพลาด และก็ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ จนในเวลาต่อมา สาวมิลลิได้ออกมาขอโทษและยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเอง ที่ได้เข้ารหัสของเพื่อนที่ดรอปเรียนไปแล้ว
ต่อมาก็ได้มีดราม่าอีกครั้ง เพราะมิลลิเอง ถูกชาวเน็ตรุมแหก โดยกล่าวหาว่าเธอใช้สิทธิพิเศษในการสอบล่าช้า ทั้งที่ตามกฎของมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้
.
เรื่องนี้ร้อนถึงเจ้าตัว โดยสาวมิลลิ ที่ใช้ทิวตเตอร์ชื่อ “ไอนวยเอง” @millimdk ซึ่งเมื่อประมาณ 15 ชั่วโมงที่แล้ว เจ้าตัวก็รัวทวิตเตอร์ เกือบ 20 ทิวต เคลียร์ทุกดราม่า โดยเราจะมาไล่เรียง ทิวตของเธอสำหรับดราม่าครั้งนี้ จากทวิตแรก ไปจนถึงข้อความล่าสุด
.
โดยเริ่มจาก … ขออนุญาตทุกท่านชี้แจงประเด็นเรื่องคะแนนสอบ / late exam / อาจารย์ผู้สอนที่ถูกกล่าวถึง
จากโพสต์ทวิตเตอร์ของหนู เรื่องคะแนนสอบหายจนเกิดผลกระทบอย่างหนัก คือเรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ ขอเล่าเหตุการณ์นะคะ ยาวหน่อยนะคะ เพื่อความละเอียด #มิลลิ (0)
.
วันที่ 29 กค 64 คือวันที่น้องได้ทำการสอบกลางภาคในวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในการสอบครั้งนี้ ประกอบไปด้วยหลายส่วน เป็นทั้งพาร์ทข้อเขียนที่สอบในระบบ Microsoft Teams และพาร์ทข้อช้อยส์ที่สอบในเว็บไซต์ LMS ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องยืนยันว่าได้ทำไปครบทุกพาร์ท (1)
.
แต่ในวันประกาศคะแนนสอบ(10 สค.) อาจารย์บอกว่าหนูเนี่ยไม่มีคะแนน ก็ค่อนข้างเหวอเลยทีเดียว และด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาด+ใช้อารมณ์เป็นหลัก หนูจึงโพสต์พาดพิงอาจารย์ลงทวิตไปในทันที โดยที่ยังไม่ได้สืบหาข้อเท็จจริงก่อนเลยด้วยซ้ำ ทำให้อาจารย์ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและรู้สึกไม่ดี (2)
.
หนูต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ (3)
.
การยื่นขอ late exam หลังจากทราบเรื่องคะแนนหาย หนูเลยรีบไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา (ซึ่งเป็นคณบดีของคณะหนูเอง) ว่าจะสามารถตรวจสอบยังไงได้บ้าง อาจารย์เลยช่วยประสานกับทางพี่เจ้าหน้าที่คณะเพื่อสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อถามหาสาเหตุที่ไม่พบคะแนนในพาร์ทนั้น (4)
.
และเสนอว่าลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam มั้ย ซึ่งวันนั้นที่คุยกันเป็นวันที่สามารถยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ได้เป็นวันสุดท้ายพอดี หนูเลยตัดสินใจจะลองยื่นเรื่องไปก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเอง โดยอาจารย์ได้ให้คำปรึกษาในทุกๆ กระบวนการว่า (5)
.
ว่าจะต้องเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีให้เลือกหัวข้อสาเหตุในการยื่นเรื่อง โดยหนูเลือกหัวข้อที่ 4 “กรณีอื่นๆ” และได้แนบหลักฐานที่สามารถยืนยันว่าตัวเราเข้าสอบจริงๆ ประกอบไปด้วย 1.วิดีโอที่บันทึกภาพหนูขณะที่กำลังทำการสอบ (วีดิโอตัวนี้เราสามารถเข้าไปเซฟหรือ (6)
.
ดูย้อนหลังได้ใน Microsoft Teams ขึ้นอยู่กับว่ามีใครกด recordเอาไว้หรือไม่นะคะ) ซึ่งครั้งนี้อาจารย์คุมสอบได้ทำการบันทึกวีดิโอเอาไว้ใน Microsoft Teams และ 2.ส่งประวัติการใช้งานจากบราวเซอร์ Safari ที่แสดงถึงการเข้าไปทำข้อสอบผ่านทางเว็บไซต์ LMS ทั้งหมด 23 หน้าบนระบบในวันสอบนั้น (7)
.
โดยอาจารย์บอกเพิ่มเติมว่า การยื่นขอLate Examจะต้องมีการพิจารณาขึ้นอยู่กับหลักฐานของนศ.+การพิจารณาจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่รับประกันว่าจะได้หรือไม่ (เมื่อวันที่ 16 สค. รายชื่อผู้ได้รับlate examถูกประกาศผ่านเว็บไซต์แต่ตัวหนูเองไม่ได้เช็คให้ดีก่อนวันนี้หนูเลยทวิตบอกว่ายังไม่ได้ค่ะ)(8)
.
การหาข้อเท็จจริงและผลลัพธ์เรื่องคะแนนหาย บ่ายวันนั้นที่รู้เรื่องคะแนนหาย(10 สค.)หลังจากได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยผ่านทางอาจารย์ที่ปรึกษา เรื่องสาเหตุที่คะแนนหายไป เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยได้เช็คระบบอีกรอบแล้วว่า ไม่มีคะแนนสอบหนูในระบบจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยก็เลยถามเพิ่มว่า(9)
.
“หนูได้ไปใช้คอมของคนอื่นในการทำข้อสอบหรือเปล่า หรืออาจจะไปล็อคอินเป็นชื่อของคนอื่นมั้ย” แต่หนูยืนยันว่าใช้โน้ตบุ๊คของตัวเองอย่างแน่นอน เลยทำให้หนูเอะใจขึ้นมาเพราะนึกได้ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนของหนูเคยขอยืมโน้ตบุ๊คไปใช้ล็อคอินในเว็บไซต์ LMS เช่นเดียวกัน ก็อาจจะ (10)
.
เป็นไปได้ว่าบัญชีของเพื่อนถูกล็อคอินค้างไว้ในโน้ตบุ๊คของหนู เพราะหลังจากสอบพาร์ทแรกเสร็จ ก็เปลี่ยนมาเข้าลิงค์เพื่อทำข้อสอบใน LMS หนูล็อคอินเข้าเว็บไซต์โดยการสแกนนิ้วไปเลยด้วยความเคยชิน โดยไม่ได้เช็คให้รอบคอบก่อนว่าเป็น ID ของหนูหรือไม่ เพราะคิดว่ามันคือuserของเราที่เคยเซฟไว้ (11)
.
โน้ตบุ๊คหนูคือ MacBook Pro 13 ซึ่งมีระบบ Finger Scan ที่จดจำ username&password ที่เราเคยล็อคอินเอาไว้ก่อนหน้านี้ จริงๆหนูก็เคยล็อคอินuser หนูไว้แล้วและเซฟ password เพื่อที่จะscanนิ้วในรอบต่อไป แต่พอเพื่อนเอาไปใช้ เขาก็เซฟpasswordไว้เช่นเดียวกัน โน้ตบุ๊คก็เลยจำuserของเพื่อนแทน(12)
.
หนูจึงได้แจ้งชื่อและIDของเพื่อนที่หนูสงสัยให้กับทางมหาลัยวิทยาลัย เพื่อเอาไปตรวจสอบอีกรอบ ซึ่งปรากฎว่าคะแนนสอบพาร์ทช้อยส์ทั้งหมดได้ถูกทำบนบัญชีที่เป็นชื่อของเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนี้ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่คนละ section และเขาไม่ได้เข้าสอบในครั้งนี้ เพราะว่าเขา (13)
.
ใช้คะแนน IELTS ยื่นขอเทียบเกรดไปแล้ว และเพราะว่าไม่มีคนเข้าสอบ หนูเลยสามารถทำข้อสอบอันนี้ได้โดยทำในชื่อบัญชีของเพื่อน เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยจึงพบแต่คะแนนในพาร์ทช้อยส์ที่หนูทำ ส่วนพาร์ทอื่นๆของเพื่อนก็ว่างเปล่า เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าสอบอยู่แล้ว ทำให้คะแนนในส่วนนี้เป็นโมฆะไป (14)
.
ขอชี้แจงเพิ่มเติม จากที่หนูไลฟ์ไปเมื่อวันที่ 11 สค. คือตอนนั้นรู้แล้วว่าคะแนนหายไปได้ยังไง แต่ยังไม่ได้รับการตัดสินว่าจะได้ late exam นะคะ แต่ด้วยความใจร้อนของหนูตอนนั้นอีกนั่นแหละที่อยากอธิบาย เพราะอาจารย์โดนถล่มเยอะมาก เลยอยากออกมาบอกว่าเป็นความผิดของหนูเองค่ะ ไม่ใช่ใครเลย (15)
.
รวมถึงมีการพูดไปว่าได้ late exam แล้ว ซึ่งหนูพูดไม่เคลียร์เองค่ะ และตอนนั้นก็ถูกคนอื่นเข้าใจไปแล้วว่าได้สอบใหม่ ตรงนี้หนูผิดเองจริงๆค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ (16)
.
การโพสต์ข้อความโดยใช้อารมณ์และไม่ไตร่ตรอง จนทำให้อาจารย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดและได้รับข้อมูลทุกอย่าง รู้สึกว่าเรื่องที่ทำลงไปได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออาจารย์ ช่วงสัปดาห์ที่แล้วหนูเลยรีบติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอนัดพบอาจารย์ท่านนั้น (17)
.
เพื่อพูดคุยและขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งอาจารย์ท่านว่างและรับนัดเป็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และตอนสองทุ่มน้องคิดเอาไว้แต่แรกว่าหลังพบอาจารย์แล้ว ก็อยากจะคุยกับหลายท่านที่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่และต้องการรับฟังคำอธิบายจากน้อง เพราะว่าจะได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนค่ะ(จบ).-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 9,081 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม