ก่อนหน้านี้ทำเอาตกอกตกใจกันไปหมด เมื่อว่าที่คุณพ่อ “เป้ บดินทร์” โพสต์ภาพภรรยาสาว “กร ษิภูตา” ที่กำลังตั้งท้องลูกแฝด 8 เดือน นอนแอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาล
.
ล่าสุดหนุ่มเป้ได้เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่าภรรยาสาวที่กำลังตั้งท้องมีอาการปวดท้องและปวดหลังมากกว่าปกติช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 6 ส.ค. 64) จึงรีบโทรปรึกษาทางโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็บอกค่อนข้างอันตรายให้เข้ามาแอดมิท คืนนั้นเป็นเวลาตี 2 เลยรีบพากันไปโรงพยาบาล เช้ามาเช็กทุกอย่างพบภาวะบ่งชี้จะมีการคลอดก่อนกำหนด แพทย์จึงตัดสินใจเริ่มให้ยาระงับการคลอด และ “กร” ต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสิใจถูกที่รีบมาโรงพยาบาล เพราะหากมาช้ากว่านี้อีกนิดอาจจะต้องเตรียมคลอดเลย “จริง ๆ ก็เตรียมการกับคุณหมอเจ้าของครรภ์มานานพอสมควร เพราะเราทราบดีว่าน้องกรมีภาวะเรื่องปากมดลูกสั้นอยู่แล้ว แล้วเราก็เช็กอัพทุก ๆ อาทิตย์มาตลอด ก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์คุณหมอก็แจ้งเรื่องปากมดลูกสั้นลงเยอะมาก ก็รู้ว่ามันใกล้มากแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้”
.
นักร้องคนดังยังเผยว่าทั้งตนและภรรยาก็ค่อนข้างกังวล โดยเฉพาะสาวกรที่มีความเป็นคุณแม่ก็อยากจะให้ลูกเติบโตในครรภ์ได้นานที่สุด “ด้วยความที่ตัวน้องแฝดเองยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะคลอด จากที่คุณหมอตั้งไว้อยากให้ซัก 37 week หรือถ้าเป็นไปได้สัก 34 week แต่ตอนนี้น้องแค่ 32 week คุณหมอก็เลยต้องเตรียมไว้ก่อน ถ้าต้องคลอดตอนนี้จริง ๆ ก็ขอให้น้องแฝดได้น้ำหนักที่ดีหน่อย น้องกรก็เลยต้องทานอาหารเยอะขึ้น เช่น ทานไข่วันละ 9 ฟอง กล้วยประมาณวันละ 3 ลูก นม 3 กล่อง ต่อวัน หากน้องมีการคลอดก่อนกำหนดอย่างน้อยถ้าน้ำหนักดี คุณหมอก็จะช่วยเหลือได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสที่น้องแฝดจะแข็งแรง แม้จะต้องออกมาอยู่ในตู้อบ ก็ไม่ต้องอยู่ตู้อบนาน”
.
ถึงอย่างนั้นพ่อเป้ก็ออกปากยอมรับเป็นห่วงผลข้างเคียงจากการให้ยาระงับการคลอดก่อนกำหนด เพราะภรรยาสาวเป็นคนที่เซนซิทีฟต่อยาจำพวกนี้อยู่แล้ว จากปกติที่บ้านต้องทานยาพวกคลายมดลูก ก็จะมีอาการมึนศีรษะ เห็นภาพซ้อนอยากจะอาเจียน ยิ่งพอมาเจอยาระงับคลอดก็จะมีอาการใจสั่น แน่นหน้าอก มือไม้สั่น ขาไม่มีแรง และเริ่มต้องให้ออกซิเจน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (พุธ 11 ส.ค.) แพทย์จะทำการเช็กภาวะต่าง ๆ ในร่างกายของภรรยาสาวอีกรอบ แล้วจะตัดสินใจว่าจะให้ยาต่อ หรืออาจจะต้องคลอดก่อนกำหนด “จริง ๆ ผมมีคิดไว้และมีปรึกษากันเองแล้วว่าถ้าสมมุติว่าจะต้องให้ยาจนน้องกรมีภาวะอื่นแทรกซ้อน ผมคิดว่าผมคงไม่ทำ เพราะยาตัวนี้ถ้าให้มากเกินไปหรือนานมากเกินไป ตัวคุณแม่เองมีสิทธิ์ที่จะตกเลือดมีโอกาสที่จะน้ำท่วมปอดได้ อันนี้เป็นสิ่งที่คุณหมอบอกมา ซึ่งใจผมเองไม่อยากให้ไปถึงขนาดนั้น ถ้าดีที่สุดก็อาจจะให้น้องออกมาแล้วมาสู้กันข้างนอกอาจจะดีกว่า อย่างน้อยที่สุดเราก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าจะรอดทั้งคู่ ตอนนี้ก็เลยคิดกันว่าถ้าน้องกรรับยาได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็คงให้น้องออกมาช่วยสู้กับเราข้างนอกครับเพราะตอนนี้เราก็ทำเต็มที่แล้ว”
.
งานนี้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ยังเผยถึงชื่อลูกแฝดที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วว่า “Music & Lyrics” พ่อเป้ก็บอกว่าเป็นสิ่งที่บอกตัวตนของครอบครัวเราที่สุดแล้ว “เรารู้สึกว่าลูกของเราเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดชีวิตสิ่งหนึ่งในชีวิต มันเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ เราเลยรู้สึกว่าชื่อของเขามันควรจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตของเราเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีทุกอย่างในวันนี้ มันก็เลยรู้สึกว่าไม่มีอะไรมีค่ามากไปกว่าสองชื่อนี้ เราเป็นศิลปินเราเป็นนักแต่งเพลงเราดูแลเลี้ยงดูครอบครัวของเราได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ก็เลยเป็นชื่อนี้”:-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
