สืบเนื่องจากกรณีของพิธีกรชื่อดัง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กใส่เครื่องออกซิเจนปล่อยโฮหนักขณะรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ว่ามีโทรศัพท์จากหมอท่านหนึ่ง โทรมาไล่ตนออกจากโรงพยาบาล ให้อยู่ได้อีก 24 ชั่วโมง ทั้งที่ยายังฉีดไม่ครบ และยังรักษาไม่หายดี จากนั้นมีคลิปเสียงหลุดออกมาจนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และมีข่าวว่าแพทย์คนดังกล่าวถูกไล่ออกแล้วนั้น
.
ล่าสุดวันนี้(23 ก.ค. 2564) นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท ร.พ. ปิยะเวท นำทีมผู้บริหาร ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีข้างต้น เผยว่า “กรณีเป็นกระแสทางโซเชียล การรักษา “คุณณวัฒน์” เข้ามารักษาตั้งแต่ 3 ก.ค. ที่ติดโควิด ทางรพ. รับตัวไว้รักษาตลอดเกือบ 20 วันที่ผ่านมา เนื่องจากบางช่วงอาการป่วยรุนแรง คณะแพทย์ พยาบาล ดูแลรักษาจนดีขึ้นตามลำดับ แต่ด้วยภาวะโรคระบาดภายนอก กทม. มีความรุนแรงขึ้น จำเป็นต้องใช้เตียงผู้ป่วยในรพ. เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากรอเข้ารับการรักษา โดยเฉพาะระยะหลัง เป็นผู้สูงอายุ คนตั้งครรภ์และเด็กเล็ก เชื่อว่าทุก รพ. ใน กทม. ประสบปัญหาเดียวกัน เลยขอความร่วมมือผู้ป่วยทุกท่านที่มีอาการดีขึ้น ไม่ได้เลือกปฎิบัติกับใคร รวมถึงตามโฮสพิเทล
.
แต่ด้วยการสื่อสารที่อาจจะทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย ทั้งรองผู้อำนวยการ กับ คนไข้ เลยเกิดเรื่องตามกระแสข่าว ตามที่ได้รับฟังกันไป อย่างไรอยากจะเรียนผู้สื่อข่าวและพี่น้องประชาชน หลังจากที่พูดคุยกัน รองผู้อำนวยการซึ่งดูแลการบริหารโรงพยาบาล เรายังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนคุณณวัฒน์รักษาในรพ. ปกติ แต่เมื่อคืน(22 ก.ค.)ประมาณ 22 นาฬิกา ได้รับโทรศัพท์จากคุณณวัฒน์ โทรเข้ามาคุยกับผม ว่าอยากจะไปพักที่บ้าน ด้วยความสมัครใจขอกลับบ้าน เราก็อนุญาต เพราะดูประวัติการรักษาต่าง ๆ โดยได้มอบหมายแพทย์ที่ดูแลประจำ ได้โทรและติดตามสุขภาพต่าง ๆ ภาวะของคุณณวัฒน์จากนี้ไป
.
สรุป คุณณวัฒน์ขออนุญาตกลับไปพักผ่อนที่บ้านเรียบร้อย และเดินทางออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้าตรู่วันนี้(23 ก.ค.) เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายได้ปรึกษาพูดคุย เข้าใจกันดีขึ้น ทางผู้บริหารและทุกคน ช่วงที่เกิดขึ้น เราเหนื่อยกับโควิดมาเป็นปี พอเจอเหตุการณ์ที่ไม่สบายใจ เลยขอพักร้อนไประยะหนึ่ง แล้วพอดีขึ้นคงจะกลับมาปฎิบัติหน้าที่เหมือนเดิม ขอชี้แจงได้เข้าใจว่าเรายังมีภารกิจต่อสู้กับโควิดไปอีกนานพอสมควร และมีอีกหลายเรื่องที่ต้องช่วยกัน เรื่องคุณณวัฒน์ก็ถือว่าเรียบร้อยสมบูรณ์ และได้กลับบ้านตามที่ร้องขอเป็นที่เรียบร้อย ไม่เรียกว่าหนีเพราะขอถูกต้อง ส่วนกรณีคลิปเสียงหลุด เราไม่รู้ว่าใครปล่อยคลิป แต่ทางรพ. ไม่ทำเรื่องเหล่านี้“
.
กรณีณวัฒน์ มีการใช้เครื่องช่วยหายใจจนวันสุดท้ายหรือมีการยกเลิกการใช้ไปก่อนหน้านี้ “ถ้าถึงขั้นใส่ท่อช่วยและมีเครื่องก็ไม่ถึงขั้นนั้น แต่เมื่ออาการแย่ลง ก็ใช้เครื่องให้ช่วยหายใจดีขึ้น ซึ่งเมื่อดีขึ้น คุณณวัฒน์บางครั้งก็ใส่หรือไม่ใส่ แล้วแต่คนไข้”
.
เรื่องเขาบอกยังกลับบ้านไม่ได้ ตรงนี้หมอประเมินยังไง “เรามีการวัดออกซิเจน ค่าความเข้มข้นสูงพอกลับไปพักฟื้นที่บานหรือโฮสพิเทลไหม แต่ไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนคนปกติ ส่วนที่เวลาพูดยังดูเหนื่อยหอบ ทำไมหมอถึงให้กลับบ้าน คือเครื่องครองที่ใส่คือธรรมดา ไม่ใช่เครื่องแบบคนไข้ icu ฉะนั้นสามารถใส่หรือถอดได้ ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ “
.
พอถามถึงที่ณวัฒน์ไลฟ์ ทำให้ รพ. เสียหายไหม “นโยบายรพ. คือดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เชื่อว่าคนไข้อาจจะหงุดหงิด ไม่พร้อมสื่อสารเต็มร้อย รพ. ไม่คิดดำเนินคดีหรือเรียกร้องใด ๆ ส่วนเรื่องการไลฟ์นั้น เราไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปทั่วไปตามรพ. แต่ในห้องส่วนตัวคนไข้ จะไลฟ์หรืออะไร รพ. ไม่เคยออกกฎโดยตรง แต่การพาดพิงบุคคลที่สาม พาดพิงองค์กร เจ้าตัวต้องรับผิดชอบในส่วนนั้น ทางรพ. พยายามหาทางให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี“
.
ข่าวว่าไล่แพทย์คนนั้นออกแล้ว “ไม่ได้ไล่ออก แต่เรื่องมีความขัดแย้งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง เราพยายามให้แพทย์หลีกเลี่ยงความไม่สบายใจ เมื่อเกิดขึ้นสมาธิการทำงานจะมีปัญหา เลยให้แพทย์พักผ่อน ซึ่งเราสอบหาข้อเท็จจริงภายในอยู่แล้ว เชื่อว่าหมอใช้น้ำเสียงขอความร่วมมือ ไม่ใช่ใช้อำนาจอะไร ความเห็นเราเขาทำหน้าที่แพทย์สมบูรณ์ ตอนนี้ไม่ติดใจอะไร แค่เป็นอุทาหรณ์ว่า การสื่อสารประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลาและให้เวลากับคนไข้ ถ้าจบด้วยดีเจ้าหน้าที่ก็มีกำลังใจทำงานต่อไป ส่วนต้องขอโทษไหมอันนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลเขา ทางรพ. ไม่ติดใจร้องขอ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
