“นุ๊ก สุทธิดา” ตัดสินใจขายบ้านปมปัญหา ฝันอยากสร้างบ้านใหม่ที่ลูกมาอยู่ด้วยกันทุกคน

เป็นเรื่องราวที่ทำให้นักร้อง-นักแสดงสาวอย่าง “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ต้องเครียดมาโดยตลอด หลังถูกผู้เช่าบ้านนำบ้านหรูของตัวเองที่ให้เช่า ไปเปิดเป็นโรงงานถุงมือเถื่อน จนบ้านได้รับความเสียหาย จนกลายเป็นเรื่องราวทำให้ต้องใช้กฎหมายมาจัดการ
ล่าสุด “นุ๊ก สุทธธิดา” เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนผ่านทางวิดีโอคอล ว่าก่อนหน้านี้ตนได้ใช้แฮทแท็กว่า #เคลียร์ขยะแล้วแต่ยังไม่ได้เคลียร์กับพวกขยะ ความคืบหน้ารวบรวมหลักฐานจากบริษัทสถาปนิกกว่า 300รูป ใช้เวลาสำรวจ 3 วันและทำเอกสารอีก 1 เดือน เพิ่งเสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดินหน้าให้ทนายส่งสำนวนยื่นฟ้องศาล ของจองล้างจองผลาญให้ถึงที่สุดจนกว่าจะหมดอายุความ เจอที่ไหนก็จะตามยึดทรัพย์สินเพราะทนายมั่นใจชนะคดีแน่นอน ซึ่งอีกฝ่ายไม่รับผิดชอบ ชดใช้หรือติดต่อมาเลยทั้งที่ในหน้าเฟสยังกินหรู อยู่สบายอวดรวยตลอด มั่นใจคงไม่จ่ายเงินตนแน่นอนก็ขอใช้กฎหมายดำเนินการว่าระหว่างคนไม่ยอมแพ้กับคนหน้าด้าน ใครจะชนะ
ส่วนเรื่องที่ตัดสินใจขายบ้านคฤหาสน์ ย่านลาดพร้าว 126 ที่เป็นปัญหานั้น ตั้งราคาไว้ที่ 69 ล้านบาท บอกตอนนี้อยู่ในช่วงรื้อถอนที่ถูกคู่กรณีต่อเติมจนบ้านพัง และต้องรีโนเวทปรับปรุงอีก ซึ่งเมื่อไม่กี่วันนี้พายุเข้ากลัวสังกะสีที่คู่กรณีต่อเติมไปสร้างอันตรายกับเพื่อนบ้านเลยต้องรีบจัดการ คาดลงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีคนสนใจติดต่อมาขอดูบ้านแล้วมากกว่า 10 ราย ส่วนหนึ่งตั้งใจหากขายได้ก็อยากจะไปสร้างบ้านใหม่หลังใหญ่ ทำเป็นสัดส่วนให้ลูกๆมาอยู่ใกล้ๆกัน เพราะไม่อยากให้ลูกๆโตขึ้นแล้วไปอยู่ไกลแม่ เพราะตนมีความฝันอยากตายในอ้อมแขนลูก




โดยนุ๊กยังเผยถึงเรื่องลูกชาย “น้องปาแปง” ที่ต้องกักตัวอยู่ลำพัง เนื่องจากคุณพ่อของลูกติดโควิด ว่าใกล้จะพ้นการกักตัว 14 วันแล้ว และเมื่อครบกำหนดจะจะไปตรวจSwab test ครั้งที่ 2 ซึ่งหลังจากที่มีการพูดคุย คาดว่าน่าจะปลอดภัยแล้วเพราะยังกวนแม่เหมือนเดิม ร่างกายแข็งแรงและเป็นเด็กดูแลสุขอนามัยตัวเองดี ตอนนี้น้องปาแปงกับคุณพ่อก็แยกกันอยู่คนละห้องที่คอนโดเพราะพ่อต้องกักตัวหลังออกจากโรงพยาบาลต่อตามแพทย์แนะนำ
นักแสดงสาวตัดพ้อว่าได้มีการพูดคุยอยากให้ลูกย้ายกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ลูกชายวัย 14 ปี ยังไม่ยอม รับเสียน้ำตาทุกวันเมื่อคิดถึงเรื่องลูกโต ยังทำใจไม่ได้ถ้าลูก ๆต้องออกไปมีชีวิตตัวเอง ด้วยความเป็นแม่คงจัดแจงมากไปจนลูกอึดอัดลืมคิดไปว่าลูกเป็นวัยรุ่นแล้ว ตัดพ้อต้องไปรับปรุงตัวเอง แต่จะตื้อให้ถึงที่สุดเพราะอยากเห็นลูก ๆ มาอยู่ด้วยกัน ส่วนตอนนี้สามี “อดัมย์” กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วแฮปปี้ เป็นคนสร้างรอยยิ้มทำให้ลืมเรื่องเครียด ๆ แต่เรื่องที่จะอยู่ถาวรไหมนั้น ต้องรอเรื่องวีซ่าจากทางการก่อน

ทั้งนี้นุ๊กยังอัปเดตชีวิตตอนนี้ว่าได้มีการนำรายได้จากการขายหน้ากากอนามัย + ครีมกันแดด ไปช่วยชุมชนสลัมใกล้ ๆ ที่พัก และชุมชนแออัดอย่างสะพานสูง เพราะเห็นคนหาเช้ากินค่ำออกไปหาเงินไม่ได้ และตนหารายได้เสริมในช่วงที่วงการบันเทิงยังทำงานไม่ได้ ด้วยเข้าครอสเรียนออนไลน์ เทรดหุ้น ลงทุน เพิ่งจบไป 1 ครอส เห็นเงินงอกเงย ตั้งเป้าเรียนเพิ่ม เพราะดีกว่าอยู่เฉย ๆ ไม่มีรายรับ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 6,916 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม