สาว “เอ็ม บุษราคัม” ลูกของนักแสดงตลกชื่อดัง “หม่ำ จ๊กมก” ออกมาเล่าเรื่องราวที่เจ้าตัวเคยเจอพลังลบจากคำพูดของคนอื่น ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน และพลังลบเหล่านั้นบั่นทอนจิตใจแค่ไหน ตอนที่เจ้าตัวต้องเจอกับคำเหล่านั้นคือ ร้องไห้ เสียใจ บั่นทอน ไม่มั่นใจ จนกลายเป็นตอนนี้เข้าใจและไม่ใส่ใจอะไรอีกแล้ว
.
โดยเจ้าตัวเจอทั้งการบูลลี่ถึงรูปร่าง หน้าตา ไม่ว่าจะเป็น บ้านนอก, หน้าลาว, ลูกไอ้ลาว, ลูกไอ้หม่ำ, ลูกตลก,ไอ้ตัวตลก หรือถูกเรียกชื่อ ไอ้หม่ำ แทนชื่อของเราเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อน รุ่นน้อง รุ่นพี่เท่านั้น ครูอาจารย์บางท่านก็เรียก เมื่อเธอโตขึ้นแทนไม่ทันที่คำต่าง ๆ จะจางหายไป สาวเอ็มก็ถูกต่อว่า กระแ-ะ ดัดจริ- เพียงแค่สาวเอ็มอยากจะพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงที่ใช่ หลังจากนั้นพอเจ้าตัวไปเรียนเมืองนอกก็ยังไม่วายโดนต่อว่า ว่าผลาญเงินพ่อ ทำเป็นไฮโซอัปเกรดตัวเอง ซึ่งพอสาวเอ็มตัดสินใจทำศัลยกรรมก็ยังถูกบูลลี่ว่า ปลอม พลาสติก รวมถึงการที่บอกว่าเธอหน้าเหมือนพ่อ โดยที่เธอไม่เข้าใจเลยว่าการที่ตนเองหน้าเหมือนพ่อนั้นเป็นเรื่องที่หน้าอายตรงไหน
.
หลังจากแต่งงาน มีลูก เจ้าตัวก็ยังคงต้องอดทนกำคำพูดจาใจร้ายของคนอื่นทั้ง ลูกออกมา ผัวได้ขอหย่าแน่ , ลูกตัองหน้าหักแน่ ๆ ซึ่งสารพัดคำเหล่านี้ มันส่งผลให้กำลังใจของคนคนหนึ่งล้มเหลว โดยทุกวันนี้เจ้าตัวได้ก้าวข้าม เดินผ่านจุดนั้นมาได้และรู้สึกว่า สังคมเรามัน toxic หลายคนที่สงสัยว่าทำไมเธอถึงมีพลังบวกเยอะ “ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่มันเป็นเพราะเอ็มได้รับพลังลบมามากต่างหาก วันนี้เลยอยากถ่ายทอดพลังบวกให้กับทุกคน ทุกวันนี้สังคมเราติดลบทางความคิดมาก อย่าปล่อยให้พลังลบกลืนกินจิตใจเรา ถ้าเราคิดบวก ชีวิตเราก็บวก ไม่มีอะไรมาฉุดรั้งเราได้ นอกจากตัวของเราเองจริง ๆ “
.
ส่วนเรื่องที่เคยมีคนส่งมาถามว่า ทำไมเพจของเอ็มในเฟซบุ๊ก (kidznadoo, MBusarakum) ถึงใช้คำว่า Motivational Speaker เพราะเอ็มอยากถ่ายถอดพลังบวกให้ทุกคนที่กำลังต่อสู้กับคนที่มีจิตอคติ ความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ คำพูดที่ไม่สร้างคน อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเองและจงทำในสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จแบบที่ไม่ต้องแวะเตะปากหมาข้างทาง ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสาวเอ็ม เจ้าตัวก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอกับสิ่งเหล่านี้ พร้อมให้กำลังใจทุก ๆ คนว่า “ชีวิตเราคือของเรา อย่าให้ใครมาลิขิตชีวิตเราด้วยขี้ปากเหม็น ๆ อี๋ แอวะ พวกเขาไม่คู่ควรอะ” :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
