หลังอดีตภรรยา “กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์” หรือชื่อเดิม “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ออกมาไลฟ์สด ฉะเดือดถึงอดีตสามี “ศรราม เทพพิทักษ์” เหตุไม่ได้เจอลูกในวันที่นัดหมาย พร้อมท้าทายไม่เคยกลัว แม้อายุจะห่างกันถึง 10 ปี และตนรู้จุดอ่อน หากไม่อยากให้แฉ ก็ให้คิดใหม่และอนุญาตให้ตนได้เจอลูกตามที่ขอ ไม่เช่นนั้น อาจจะไม่ได้สิทธิเลี้ยงดูลูกอีกต่อไป พร้อมกับถามว่า เลี้ยงลูกเป็นจริง ๆ หรือเปล่า ที่ลูกพัฒนาการช้า เพราะขาดความอบอุ่นจากแม่ จวกตัวเองก็มีแม่ น่าจะเข้าใจ คนอื่นก็อยากเจอ อยากอุ้มหลานเหมือนกัน
ล่าสุดวันนี้ อดีตพระเอกดัง “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อีจัน ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยหนุ่มสวนกลับแบบหนังคนละม้วนว่า ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม ตนและติ๊ก (กุ้งพลอย) ได้พาลูกไปพบคุณหมอ เพื่ออัปเดตพัฒนาการ และต่างก็ทราบดีว่า ลูกสาว “น้องวีจิ” มีพัฒนาการทางร่างกายดีมากทั้งสามารถทำ กิ๊ฟมีไฟว์ และอื่น ๆ เพียงแต่ต้องเพิ่มพัฒนาการทางการพูดเพิ่มเติม และคุณหมอก็ได้แนะนำวิธีฝึกพัฒนาการมาแล้ว มีนัดอีกครั้ง วันที่ 22 พฤษภาคมนี้
ส่วนที่บอกว่า ใจดำ ไม่ให้เจอลูก “หนุ่ม ศรราม” ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เบื้องต้น ตนอนุญาตให้มาพบลูกได้ เดือนละ 2 ครั้ง ต่อมาปรับเป็น อาทิตย์ละ 1 ครั้ง คือเจอทุกวันเสาร์ หากใครติดธุระก็สามารถนัดเจอในวันอื่นได้ แต่ 1 อาทิตย์ต้องได้เจอ 1 ครั้ง ซึ่งทุกคนรับทราบกันดี ทั้ง ติ๊กและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
โดยหนุ่มเล่าว่า ในการเจอกัน ปกติจะนัดกันที่ร้านอาหาร แต่หลังจากนั้นพบว่าไม่สะดวกเนื่องจากที่ร้านมีการปรับปรุง ตนจึงเกรงใจ และคิดว่า ย้ายมาพบกันที่คอนโดของหนุ่มแทนจะดีกว่า และวันที่พาน้องวีจิไปหาหมอด้วยกัน ติ๊ก (กุ้งพลอย) ก็ได้ขออนุญาตตนพาลูกไปเที่ยวห้าง ซึ่งตนก็อนุญาต แต่หลังจากนั้น ก็ทราบว่า ติ๊กได้โทรไปยิมเงินเพื่อน และเพื่อนคนนั้นก็โทรมาทวงเงินที่ตน และตนก็ใช้หนี้แทนให้ไป
ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นสัปดาห์ถัดมา ตนจะพาลูกไปเที่ยวเขาใหญ่ เลยให้ทนายแจ้งไปที่ติ๊ก (กุ้งพลอย) ทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก และส่งข้อความมาหาในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม บอกว่า เขาไม่เอาลูกแล้ว เขายกลูกให้ผมดูแล และเขาก็ขอบล็อกทุกคน
ในวันเกิดของน้องวีจิ (8 เมษายน) ก็ไม่ให้เจอ วันเกิดตน (13 เมษายน) ก็ไม่ให้เจอ? “หนุ่ม ศรราม” ก็อธิบายว่า หลังจากที่เขาบอกว่าเขาไม่เอาลูก ตนก็ก้มหน้าก้มตาดูแลลูก และวันที่ 13 เมษายน พี่เลี้ยงของน้องวีจิ ลากลับบ้านที่ร้อยเอ็ด จะให้ตนไปขอร้องให้เขามาช่วยเลี้ยง ก็ใช่เรื่อง ก็เลยไม่ได้ติดต่อใด ๆ ไป
ส่วนเรื่องที่ติ๊ก ออกมาไลฟ์สด ต่อว่าและท้าทายตนนั้น หนุ่มบอกไม่ทราบ และไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่าตนต้องทำงาน และดูแลลูก และช่วงนี้โควิดระบาดหนักตนก็พยายามอยู่กับลูกให้มาก ๆ
และที่มาว่าเจ้าตัวติดเหล้า หนุ่มก็บอกว่า ตนอายุเยอะแล้ว เป็นพ่อคนแล้ว รู้ว่าอะไรดี ไม่ดี รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
ส่วนโอกาสที่จะให้ “ติ๊ก” (กุ้งพลอย) ได้กลับมาเลี้ยงลูกนั้น หนุ่มเผยว่า ในบันทึกใบหย่า สลักหลังชัดเจนว่าตน มีสิทธิ์ในการดูแลวีจิแต่เพียงผู้เดียว แต่สามารถอนุญาตให้อดีตภรรยามาเจอลูกได้ แต่คนเป็นแม่ ได้บอกความประสงค์ว่าไม่ต้องการลูก เขายกลูกให้ผม (ส่งข้อความมา 27 มีนาคม) ก็เลยต้องทำตามความประสงค์ของเขา และตนได้เก็บหลักฐานทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
สำหรับเรื่องการเลี้ยงลูก เจ้าตัวก็เผยว่า จะดูแลอย่างดีที่สุด ปรึกษาคุณหมอตลอด และที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องพี่เลี้ยง ตนก็อยากบอกว่า พี่เลี้ยงที่จ้างมา ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 15 ปี จากเนอสเซอรี่ของเพื่อน ที่คบกันมาตั้งแต่ ป.1 เป็นเพื่อนกันมาราว 40 ปีแล้ว พี่เลี้ยงเขามีหลักการทำงานของเขาที่ถูกต้อง ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนเรื่องพัฒนาการ ก็มีแต่เรื่องการพูดที่ต้องพัฒนาทักษะเพิ่มเติม
ด้านคอมเมนต์ในอินสตาแกรม หากตนอ่านแล้วรู้สึกว่า ไม่เป็นประโยชน์ และก่อให้เกิดสุขภาพจิตที่แย่ ก็จะลบและบล็อค พร้อมกับขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาด้วยความหวังดี .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน