หลังจากที่เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.2564) ได้เข้าแจ้งความหมิ่นประมาทกับเพจและเกรียนคีย์บอร์ด ที่นำภาพและชื่อของเขาไปเกี่ยวโยงกับอดีตแฟนเก่า “เกรซ ชลิตา โสตถิวันวงศ์” รวมถึงอดีตแฟนอีกคนอย่าง “ดาว พิมพ์ทอง วชิราคม” ได้เข้าไปคอมเมนต์ในเพจดังกล่าว จนทำให้ถูกคนเข้าไปต่อว่า ด่าทอ ทำเสื่อมเสียงชื่อเสียง ซึ่งหลังจากที่เข้าไปแจ้งความแล้ว พอร์ชได้นำเอกสารการแจ้งความลงในไอจีพร้อมกับข้อความว่า
“สำหรับใครที่ชอบพูด ชอบปั่น หรือใส่ร้ายคนอื่นในทางเสียๆหายโดยที่ไม่ได้รับรู้หรือเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่..ทางผมไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ #ขอบคุณทุกกำลังใจครับ
😑😑😑ข่าวลือ มักถูกสร้าง…โดย “คนที่เกลียด” ส่งต่อ….โดย…”คนที่ไม่คิด”
และ…ถูกเชื่อ…โดย…”คนที่หูเบา 😑😑😑”
จากนั้นอดีตแฟนสาวอย่าง “เกรซ ชลิตา” ก็โพสต์ข้อความภาพที่มีใจความว่า
“นอกเหนือจากเรื่องนอกใจ เกรซต้องเจอเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลให้ทั้งทางใจและทางร่างกาย เคยโดนหนักจนเดินไม่ได้ เคยต้องสแกนสมองที่ โรงพยาบาล เนื่องจากหูและศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง เกรซมีรอยแผลเต็มตัวที่เกิดจากการกระทืบจนช้ำ ถีบอัดกำแพง กระชาก เหวี่ยง จิกหัวกระแทก ลากไปกับพื้น เขี่ยบุหรี่ใส่หัว ปาของแข็งใส่หน้าจนเขียวช้ำ บีบคอ ขังไว้ในห้องไม่ให้ออก และมีที่เลวร้ายและรุนแรงกว่านี้มาก มากเกินกว่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องเจอ
หลายครั้งเขาโทษว่า เป็นความผิดของเกรซคนเดียว และเกรชโทษตัวเองมาตลอด ไม่เคยมีใครรู้ว่าเขามีนิสัยแบบนี้ ในตอนนั้นเกรชพยายามใช้ความเข้าใจเพื่ออยู่ต่อ มันคือความโง่ของตัวเกรซเอง
เหตุการณ์ทั้งหลายกลายเป็นแผลเป็นทั้งบนร่างกายและในจิตใจ เหตุการณ์ทั้งหมดที่ได้เจอยังคงบั่นทอนจิตใจเกรชมาจนถึงทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง มีหลายครั้งที่รู้สึกเกลียดตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเหตุการณ์เหล่านั้นก็ยังหลอกหลอนอยู่ทุกครั้งที่เห็นเขาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ พูดจาให้ร้ายโดยที่ไม่สนใจการกระทำของตัวเอง
ที่ผ่านมาเกรชไม่เคยบอกใคร แม้แต่ครอบครัวก็ไม่รู้ มีเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้เรื่อง ที่ผ่านมาเกรซไม่พูด และพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ร้าย ๆ เหล่านี้อีกแล้ว แต่ก็มีคนนอกที่ไม่รู้เรื่องจริงมากล่าวหาใส่ความต่าง ๆ และเจ้าตัวก็ยังคงเอาเรื่องไปเล่าให้คนอื่นฟังแบบเสีย ๆ หาย ๆ เกรซจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องนี้
ถึงคุณจะเอาเรื่องไปเล่าแบบไหน แต่คุณย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ความจริงคืออะไร การที่ต่อหน้าคนอื่นพูดอย่างหนึ่ง แล้วลับหลังมาขอโทษ เกรชขอพูดตรงนี้ในพื้นที่ของเกรชว่า เกรซขอไม่รับคำขอโทษที่ไม่จริงใจ และไม่รับคำขอโทษลับหลังใด ๆ ทั้งสิ้นจากคุณค่ะ”
ด้าน “พอร์ช ศรัณย์” ก็ได้โพสต์รูปแผลเป็นที่ข้อมือ พร้อมกับข้อความว่า
“รอยแผลนี้ ความจริงเป็นยังไง ผมยังไม่เคยพูดเลย ผมลูกผู้ชายพอ ความรักจะจบลงแบบไหน ก็งดงามเสมอ คนเราเลิกคบกันแล้ว แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเหยียบย่ำกัน พูดลับหลังในทางที่ไม่ดี #ฟังหูไว้หู #เราจะเป็นคนแบบไหนขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนเล่า #ปั่นคนนั้นคนนี้ระวังกรรมตามสนอง #พูดลอยๆ #ความจริงเมื่อปีที่แล้ว😐😐😐”
ทำเอางานนี้หลายคนก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน