“แตงโม” รับศัลยกรรมทำพิษจนปากเบี้ยว เชื่อหมดยุคคนบูลลี่แล้ว

หายหน้าหายตาไปสักใหญ่ ก่อนที่จะมีข่าวว่าดาราสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” เจอศัลยพรรมทำพิษจนปากเบี้ยวเพราะเส้นประสาทถูกตัด หลังบินไปเกาหลีขูดฟิลเลอร์ที่คางออก ตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้ว ก่อนโควิด-19 แต่เพิ่งว่าเส้นประสาทถูกตัด ทำให้ปีนี้ไม่ได้รับงานได้ เพราะรูปปากขยับไม่ธรรมชาติ

ล่าสุดแตงโมได้เปิดใจสัมภาษณ์กับ ไนน์เอ็นเตอร์เทน แบบตัวจริงเสียงจริงยอมรับศัลยกรรมทำพิษหลังบินไปขูดฟิลเลอร์คางที่เกาหลีต้นปีที่แล้ว ส่งผลทำให้ปากเบี้ยว เพราะเส้นประสาทถูกตัด แจงตนเป็นคนที่มีพังผืดเยอะอยู่แล้ว คิดว่าน่าจะหายเองแต่กลับไม่หาย ซึ่งก็ไม่สามารถฟ้องร้องคลินิกศัลยกรรมที่เกาหลีได้ เนื่องจากมีการเซ็นต์ยินยอม รับการผ่าตัดและรับผลหลังผ่าตัดไปแล้ว ตอนนี้รักษาตัวอยู่ในไทยเพราะบินไปเกาหลีไม่ได้
โดยใช้วิธีการรักษาฝั่งเข็ม กระตุ้นด้วยไฟฟ้า รวมทั้งทานยาตามหมอสั่ง ตอนนี้ดีขึ้น 80% แล้ว


เมื่อถามว่าเข็ดกับการทำศัลกรรมไหม เจ้าตัวเผยว่าไม่เข็ดการทำศัลยกรรมและไม่ได้เสพติด ทำด้วย เพราะต้องรักษาและซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดตั้งแต่สมัยรถคว่ำเมื่อ 14 ปีที่แล้ว พร้อมฝากถึงคนคิดทำศัลยกรรมว่าค่านิยมเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงยุคนี้สวยแบบเป็นตัวของตัวเองดีกว่า
ตอนนี้หายจากงานไปปีกว่าเพราะอยากพักฟื้นตัวเองให้หายดีก่อน ยันไม่คิดออกจากวงการบันเทิง ยินดีรับหากผู้ใหญ่มอบงานให้ แต่ยังรับละครไม่ได้เพราะไม่อยากเป็นภาระของผู้จัด รู้ตัวดีใบหน้ายังไม่กลับมาเหมือนเดิมจะส่งผลต่อการแสดงอารมณ์ ไม่น้อยใจคนมองตกอับ ยอมรับว่ารายได้หายไป แต่ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว ตอนนี้นำเงินเก่าประทังชีวิต และขายรถตู้ทิ้งนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวและลูกน้อง ส่วนที่มีคนบูลลี่ตนเองนั้น ตนมองว่าตัวเองโชคดีที่อยู่ในยุคที่คนต่อต้านเรื่องนี้ จึงได้รับกำลังใจมาก .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 3,607 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม