หลังเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมาพักใหญ่ กับกรณีบ้านเช่าของดาราสาว “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ที่ปล่อยบ้านหรูย่านลาดพร้าวให้เช่า แต่กลับถูกผู้เช่าทำบ้านพังเละ อีกทั้งยังดัดแปลงสร้างโกดังเพื่อลักลอบทำถุงมือยางผิดกฎหมาย รวมถึงไม่จ่ายค่าเช่าบ้านตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2563 ผ่านที่มา และค้างค่าน้ำค่าไฟ รวม 80,000 บาท ซึ่งนุ๊กได้เผยว่าค่าเสียหายในการซ่อมบ้านราว ๆ 5 ล้านบาท ต่อมาแม่ของคู่กรณีได้ขอผ่อนจ่ายค่าเสียหาย แต่ปัจจุบันดาราสาวก็ยังไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว เมื่อโทรตามก็ถูกหาว่าตามจิก ทั้งยังถูกคู่กรณีโพสต์ด่าทางโซเชียลอีกด้วย ทำเจ้าตัวเครียดหนักจนต้องทายานอนหลับ พร้อมตัดพ้อว่ากำลังสู้กับคนที่ไม่ธรรมดา
.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 ดาราสาว “นุ๊ก สุทธิดา” พร้อมด้วยทนาย “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยนุ๊กด้วยตัวเอง ก็ได้เปิดบ้านหลังดังกล่าว พร้อมคู่กรณี และได้เปิดใจกับสื่อแบบพร้อมหน้า 3 คนว่า
.
คู่กรณี : ผมมาขอโทษพี่นุ๊กที่พูดจาไม่ดีกับพี่นุ๊กครับ และขอโทษเรื่องบ้านที่ทำเสียหาย ต้องขอโทษพี่นุ๊กด้วยครับ เรื่องถุงมือ ผมยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้จำหน่ายจริง ๆ เรื่องบ้าน ยินดีรับผิดชอบซ่อมให้ทั้งหมด ทั้งซ่อมบ้านและยินยอมทั้งหมด ตรงนี้ให้พี่นุ๊กกำหนดและเซ็นสัญญามาได้เลย ผมยินดีทุกกรณี ถ้าเป็นจำนวนเงิน ถ้ามันเยอะเกินไปผมขอเป็นซ่อมบ้านดีกว่าครับ เรื่องที่เปลี่ยนคำไปมา ผมกับคุณแม่อยู่คนละที่กันครับ แล้วคุณแม่คุยกับพี่นุ๊ก ก็ไม่ได้ติดต่อกัน เหมือนคำพูดไม่เข้าใจกัน อยากบอกว่าถึงแม้ผู้เช่าจะเป็นคุณแม่ แต่ให้ทั้งหมดลงที่ผมคนเดียว เพราะผมเป็นคนทำเสียหายไม่ใช่คุณแม่ ให้เป็นผมดีกว่าครับ
.
เรื่องคดีถุงมือ ยังอยู่ขั้นตอนการสอบสวน ว่าจำหน่ายจริงไหม หรือทำการทดลองอย่างเดียว ตอนนั้นที่ต่อเติมบ้าน ทำเป็นโมเดลโรงงานครับ ผมแจ้งพี่นุ๊กแต่ไม่ได้แจ้งว่าเยอะขนาดนี้ ผมแจ้งแค่ว่าจะต่อเติม ไลน์ไปหาพี่นุ๊กว่าจะต่อเติมครับ แต่ไม่ได้บอกว่าเยอะขนาดนี้ ผมผิดตรงที่ไม่ได้บอกพี่นุ๊กครับ
.
นุ๊ก : ไม่ได้มีขอต่อเติม มีถ่ายรูปมาให้ดูบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสภาพบ้านนี้ เป็นสภาพบ้านเดิม ในสัญญาเช่าระบุว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย ทำเป็นโฮมออฟฟิศ ไม่ได้แจ้งว่าจะทำเป็นโรงงาน หรือทำกิจการแบบนี้
.
คู่กรณี : ข้างบนที่ดัดแปลงคล้ายห้องปาร์ตี้ ทำให้มันมีคีย์การ์ดเป็นห้องนอนผมเอง และมีชั้นใต้ดินทำเป็นห้องละหมาดของศาสนาอิสลาม มุสลิม เรื่องที่มีการใช้ยาเสพติดในบ้าน ยอมรับเป็นข้อผิดพลาดของผมเอง มีการคุมประพฤติและใส่ข้อเท้าอีเอ็ม
.
เรื่องที่นุ๊กบอกว่ากลัวอิทธิพลมืด ผมยืนยันได้ว่าเป็นเด็กแค่อายุ 25 ปี ผมโดนโกงมาเยอะมาก จากคนที่โกงถุงมือ ถ้าผมมีอิทธิพลจริงผมคงไปตามหนี้เอาคืนแล้วครับ โดนโกงเป็น 10 ล้าน มีการยัดถุงมือเหลือง ถุงมือมือสอง แต่ผมเลือกที่จะไม่จำหน่ายต่อแต่เอามาทดลองเปลี่ยนสีไปครับ เรื่องที่นุ๊กจะดำเนินคดี ขอความกรุณาพี่นุ๊กแล้วกันครับ มาขอโทษจริง ๆ ครับ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีผู้ใหญ่แนะนำด้วย ด้วยอารมณ์ อยากเข้าบ้านมาเอาเสื้อผ้า ชีวิตมีอยู่เท่านี้ครับ
.
เรื่องแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูง พี่ ๆ ตำรวจท้องที่คือเหมือนคนข้างบ้านไปแจ้งว่าเสียงดัง ผมก็เข้ารับทราบ มีบ้างที่รู้จักแต่ไม่ได้สนิทขนาดนั้นครับ เรื่องเปิดบริษัทใหม่ทำถุงมือ ไม่ใช่ครับ ผมยังยืนยันเรื่องอาชีพเหมือนเดิม เครื่องมือแพทย์เปิดตั้งแต่ปี 61 แล้ว มีใบอนุญาตครับ
.
ทนาย : เรื่องดำเนินคดี ยืนยันได้ว่าหลายข้อหา รอรับกรรม ใครทำกรรมก็ต้องรับกรรม แล้วบอกนุ๊กแล้วว่าไม่ต้องคุยแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ผม ในเมื่อเขาเป็นมาเฟีย ที่นี่ต้องไม่มีมาเฟียมีแต่มาฟรี ทุกข้อหาที่ทำได้เราเอาหมด ทุกวันนี้ที่เขาโดนยังน้อยไป ที่เขาทำกับคนงาน กับนุ๊กว่าหนักแล้ว คนงานหนักกว่า คดีก็มีค้ามนุษย์ แล้วก็อะไรหลาย ๆ อย่าง เราเอาหมด คำว่าขอโทษมันสายไปแล้ว
.
นุ๊ก : ถ้าเกิดคู่กรณีอยากประสานงาน ให้ประสานทนายอัจฉริยะได้เลย เพราะเป็นตัวแทนของนุ๊กไปแล้ว ไม่ต้องติดต่อผ่านนุ๊กมาแล้ว ถึงเวลาเข้ารักษามะเร็งรอบที่ 2 แล้ว ก็คงไม่มีเวลาคุยกับน้องพอดีค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เจอคู่กรณี ใช่ค่ะ จริง ๆ ตั้งแต่เช่าบ้านก็ไม่ได้เจอน้องเขา มาเจอก็คือชวนมาทานข้าวแถวบ้านตอนเข้ามาอยู่ได้เดือนนึง ก็เป็นครั้งนั้นครั้งเดียวหลังจากนั้นเป็นวันนี้ มีอะไรอยากจะถามเขาไหม ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ถ้าคิดว่าบริสุทธิ์ใจหรืออยากไกล่เกลี่ย ให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยเร็ว เพราะตอนนี้ก็เนิ่นนาน ตั้งแต่น้องโดนจับไปคราวก่อน มันเป็นเดือนแล้วบ้านอยู่ในสภาพนี้ เราเสียประโยชน์ค่าเช่าบ้านเดือนละ 80,000 คือทุกเดือนยิ่งนานไป อย่าว่าแต่บ้านที่ยังไม่ได้เช่า ผลประโยชน์ที่เราจะให้คนอื่นเช่าต่อก็เสียผลประโยชน์ ถ้ามีความจริงใจจริง ๆ ดำเนินการติดต่อคุณอัจฉริยะมา ที่ผ่านมาก็เป็นคำนี้มาตลอดว่าจะซ่อมให้ แต่ว่าไม่รู้เมื่อสักที
.
คู่กรณี : ยินดียอมรับทุกข้อกล่าวหา ในเรื่องบ้านเสียหาย แต่คดีอื่นที่ทนายอัจฉริยะพูดมาผมขอสูัทุกคดี เรื่องมีทหารอากาศอยู่เบื้องหลัง พี่ ๆ เขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทำงานในราชการไม่มีอิทธิพลใด ๆ คดีค้ามนุษย์เข้าข่ายไหม ข้อเท็จจริงอยู่ที่พนักงานทุกคนครับ ผมเชื่อว่าผมทำความดีมากพอกับพนักงาน ให้พนักงานออกมาพูด เองดีกว่าครับ
.
ทนาย : หมายจับออก ผมก็จับ
.
คู่กรณี : ผมขอโอกาสแก้ตัว
.
ทนาย : ไม่มีครับ ผมไม่เคยปราณีใคร โดยเฉพาะมาเฟียแบบคุณมีทหารอากาศรายลอบ
.
คู่กรณี : ผมอายุ 25…
.
ทนาย : 25 เป็นมาเฟีย เอาภาพไหมล่ะ ผมมีหมด ถ้าบอกว่ามาเฟียมาเจอผมดีกว่า จะได้รู้ว่าของจริงหรืออะไร จะได้รู้ว่านรกมีจริง
สภาพบ้านก่อนเกิดเรื่อง
