ตั้งแต่ที่นักร้องลูกทุ่งสาว “จ๊ะ นงผณี มหาดไทย” ปล่อยเพลง “สิบสอง” ที่ตั้งใจทำออกมาให้แฟน ๆ คลายเครียดกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่กลับโดนดราม่าตามมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเจ้าตัวต้องออกมานั่งไลฟ์สดระบายความในใจถึงปัญหาต่าง ๆ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก JAH BRAND อีจ๊ะ ซึ่งใช้เวลาไลฟ์ยาวเกือบ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว
.
โดย “จ๊ะ” เริ่มด้วยการกล่าวขอบคุณกระแสตอบรับเพลง สิบสอง ว่า “ขอบคุณทุกคนที่สนใจ และใส่ใจในเพลงนี้ เพลงนี้ทำมาเพราะว่าจ๊ะมีช่องยูทูบ เราเป็นนักร้องแต่ตอนนี้งานคอนเสิร์ตเราเป็นศูนย์ แล้วช่องยูทูบเรามีอยู่เลยก็คิดช่วง มิตรไมค์ ให้ทีมงานเพลงของเราได้เลือกว่าจะทำเพลงอะไรคัฟเวอร์ ซึ่งมีคนเสนอมาในกลุ่มไลน์ของนักดนตรี จะคัฟเวอร์เพลง ชิงชัง ของพี่ดาว มยุรี แต่มันสองแง่สองง่าม แต่พอพี่สาวไปเจอเพลงนี้จากยูทูป ชื่อเพลง นาฏศิลป์อินเดีย ก็อยากให้คัฟเวอร์ทั้งเพลง คุยสรุปคือเอาช่วง มกรา-กุมภา และไม่เอาดนตรีเดิม เพราะว่าดนเตรีเดิมเขาเป็นอินเดียจ๋า เราเลยทำดนตรีใหม่ ยังคงมีเมโลดี้เดิมอยู่บ้าง ใส่ความเป็นอีสานเข้าไป ทีมนักดนตรีจ๊ะทำดนตรีเสร็จ เขาก็มาให้ฟัง เราชอบแล้วก็ไปลงเสียง ไม่ได้คิดอะไรเลย”
.
“ส่วนท่อนที่ร้องว่า กะดักกะดา เราตั้งใจ จริง ๆ แล้วต้องร้องว่า กะ รัก กะ ดา(กรกฎา) เพราะว่าตอนแรกเราร้องเพราะ พอเอามาฟังแล้วมันไม่ใช่ ด้วยโจทย์ที่เราเพลงนี้ อยากให้มันออกมาสนุก เลยขออัดใหม่ รอบเดียวไม่ได้คิดอะไร พอฟังเราก็ขำกัน แต่มันกลายเป็นดราม่า ของวงการลูกทุ่ง ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ เราไม่ได้คิดที่จะทำจริงจัง ดูจากคลิปที่ออกมาได้ หน้ายังมันอยู่ เราไม่ได้คิดว่ามันจะฟีเวอร์ พอฟีเวอร์เริ่มมีดราม่า เหมือนกับโพสต์ประชดประชัน คนในวงการนี้แหละที่โพสต์ประมาณ ‘ทุกวันนี้ไม่ต้องร้องดี ไม่ต้องทำอะไร ก็ดังแล้ว แค่ร้องเพี้ยน ๆ นักดนตรีก็แค่เล่นสนุกแค่นั้นก็ดังแล้ว’ คือจ๊ะรับคำติชมทุกอย่าง เราไม่คิดว่ามันจะเป็นสื่อการสอน ถ้าเรารู้เราจะร้องให้ชัดเจน แต่มันกลายเป็นว่าตอนนี้คนในวงการแค่คนเดียวดราม่า แต่ว่าเป็นผู้ใหญ่ ออกมาโพสต์ว่า ไม่ต้องร้องดี ร้องเพี้ยน ดนตรีก็เล่นแค่สนุก ไม่มีอะไรเลยก็ดังแล้ว ต่างกับงานที่ทำคุณภาพแต่ไม่ดัง คือจริง ๆ ช่องเราก็มีงานคุณภาพนะ เพิ่งลงไปเลยชื่อ เพลง โธ่…น้องกลอย”
.
“ไม่ได้อยากให้กลายเป็นดราม่า งงจะดราม่าทำไม สาบานเลยว่าไม่มีจุดประสงค์ที่จะทำลายความเป็นลูกทุ่งอยู่แล้ว อาทิตย์หน้าจะลงเพลง ดึงดัน ร้องกับพี่แจ็ค เป็นลุกทุ่งเพราะ ๆ เลย เราน้อยใจนะ อะไรที่ออกมาจากจ๊ะ พร้อมจะดราม่ากัน ก่อนที่จะทำเพลงนี้จ๊ะโทรหานายห้างของโฟร์เอสไทยแลนด์ แล้วก็เป็นผู้ใหญ่ที่จ๊ะรักเคารพมาก ๆ เพราะว่าท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง “คันหู” เชื่อมั้ยว่าท่านไม่เคยเอาเรื่องค่าลิขสิทธิ์เลย ทั้งที่จ๊ะกลัวเรื่องลิขสิทธิ์มาก ๆ ถามนายห้างว่า เพลง นาฏศิลป์อินเดีย ว่าเป็นของใคร เพราะเราหาข้อมูลในระบบลิขสิทธิ์ไม่ขึ้น เราก็ดูชื่อคนแต่ง อ.พยงค์ มุกดา นายก็บอกว่าเพลงนี้จะหมื่นปีแล้วมั้ง เขาเสียชีวิตไปแล้ว ต้องจุดธูปไปขอเขา วันที่จ๊ะทำเพลงก็จุดธูป วันที่ปล่อยเพลง จ๊ะไปปล่อยปลา และอุทิศบุญให้ อ.พยงค์ มุกดา หมดเลย”
.
“ทุกวันนี้จ๊ะยังไม่มีงานเกี่ยวกับ เพลง สิบสอง เข้ามาเลยนะ แต่กลายเป็นว่า ในวงการดราม่ากัน อารมณ์เหมือนกับว่าเราทำงานไม่มีคุณภาพ แต่ทำไมเราดัง ย้อนไปดูจุดประสงค์ของจ๊ะ ทุกวันนี้คนเครียดเพราะโควิดกันจะตายอยู่แล้ว งานดี ๆ จ๊ะก็ทำ แล้วผู้ใหญ่คนนั้นที่โพสต์ จ๊ะเห็นนะคะ และก็รู้สึก เพราะว่าเราเคยร่วมงานกัน ท่านเคยมาขอแรงเราให้ไปช่วยงานท่าน เราไปช่วยงานโดยที่เราไม่ได้ตังค์ เงินสำคัญมั้ย สำคัญแต่ไม่ใช่กับทุกสถานการณ์ ใครให้ไปช่วยอะไร พอดูแล้วที่แบคดร็อปไม่มีสปอนเซอร์ก็ไป แต่วงการนี้มันสกปรก ขอแรงเราไป แต่สปอร์ตเซอร์เต็มเวทีก็เยอะ แล้วเงินก็ไม่ได้ทำบุญทั้งหมดก็มีเยอะ และเราอยู่ในสังกัดเราต้องให้เกียรติเขา
เราเคยไปช่วยงานผู้ใหญ่ท่านนี้ แต่พอเห็นเขาโพสต์เรารู้สึก ผู้ใหญ่ท่านนี้รู้จักเราอยู่แล้ว วันนี้น่าจะมีคนส่งให้ท่านดู จ๊ะเห็นรายชื่อที่เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ของผู้ใหญ่ท่านนี้”
.
“จ๊ะไม่เคยไปว่าใคร เพราะเราเกิดมาจากคนด่า เราก็จะเข้าใจคนที่โดนด่า เราก็จะไม่ว่าใคร เราอยู่ในวงการเราควรใจกว้าง เอื้อให้คนอื่นเขาบ้าง เขาจะร้องดีไม่ดีแต่เขามีงาน เราควรที่จะดีใจด้วย ไม่ใช่ว่าพอใครเริ่มมีกระแสหน่อย ก็เริ่มแขวะเหน็บแนม มันไม่ใช่ งงมาก และอีกเรื่อง มีช่วงนึงที่จ๊ะ ทำธุรกิจ นาฬิกาปาเต๊ะ ซื้อมาขายไป นาฬิกาพวกนี้มันแพง แต่มันคือการลงทุน ถือไม่นานก็ได้กำไรหลักแสน บางเรือนได้หลักล้าน แล้วเราเป็นคนที่ทำอะไรทำสุด ช่วงนั้นเราซื้อบ่อย แล้วก็ใส่ การที่จ๊ะพรีเซนต์เพราะคนจะได้ไดเรกต์มาหาเรา มาซื้อตรงเราไม่ต้องผ่านร้าน ได้กำไรเต็ม ๆ แต่กลับมีคนในวงการคนนึงไปถาม อ.เป็นหนึ่ง ว่าจ๊ะร้องเพลงอย่างเดียวเหรอ เขาค้ายาหรือเปล่า แล้วอาจารย์ก็มาพูดกับเราว่า เธอมีคนคนนึงบอกว่าเธอซื้อนาฬิกาเยอะแล้วทำธุรกิจนาฬิกา จ๊ะค้ายาหรือเปล่า เขาร้องเพลงอย่างเดียวหรือเปล่า สาบานให้ตายห่า ตายชัก ที่จ๊ะเป็นแบบทุกวันนี้ ถ้าค้ายาหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คิดว่าจ๊ะจะยืนอยู่ตรงนี้เหรอ พอเขามีก็คิดไปในทางลบ เราไม่ได้ร้องเพลงอย่างเดียว ธุรกิจหลังบ้านเราก็มี แต่ไม่ได้พรีเซนต์ว่าทำอะไร คนมองจ๊ะร้องเพลงอย่างเดียว แต่มีบ้านมีรถ มีนาฬิกา คงค้ายา ไม่ก็มีเสี่ยงเลี้ยง คิดดูถ้าจ๊ะมีเสี่ยเลี้ยงมันจะปิดได้มั้ย แต่ทุกวันนี้ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง เพราะเป็นคนงกมากทำงานเยอะ”
