กลายเป็นประเด็นทอล์กสนั่นเมืองข้ามคืน เมื่อความรัก 14 ปีของดีเจ. “เต้ย ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์” และ “นลิน โฮเลอร์ หรือ ซาร่า เอเอฟ” มีอันต้องจบลง พร้อมกับกระแสดราม่าถาโถม ทั้งที่มีการวิจารณ์ว่า ซาร่ามีชื่อเสียงแล้วเลยทิ้งคนเก่า หรือเรื่องพฤติกรรมของเต้ยที่ผู้หญิงคนไหนก็สุดจะทน ล่าสุด “เต้ย” ได้เปิดใจหมดเปลือกกับ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ขอเคลียร์เรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ พร้อมฝากความในใจถึงซาร่า
“ผมขอพูดถึงเรื่องที่ผมไลฟ์เมื่อคืนก่อน (9 ก.พ.2564) ผมรู้สึกว่า ตัวเองทำตัวเด็กติ๊งต๊อง ผมไม่ควรทำอะไรเรื่องพวกนั้นเลย ผมควรจะเงียบหายไปเลยมากกว่า
เรื่องสภาพจิตใจตอนนี้ ก็ไม่โอเคอยู่แล้ว แต่ก็คงต้องอยู่กับมันไปก่อน และพยายามมาหาอะไรทำที่ออฟฟิต จะได้ไม่วุ่นวาย ไม่ให้ฟุ้งซ่าน ผมไม่ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ แต่มีคนเข้าส่งมาประมาณโพสต์ 2 โพสต์ ซึ่งที่ผ่านมาผมเองเป็นประเภทที่ไม่ค่อยจับมือถือเลยนะ จนเมื่อวานที่ได้เข้าไปดู และที่เสียใจมากที่สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คิดว่า ความคิดตื้นเขินของผม การพูดอะไรออกไป ทำให้มันกระทบคนหลายฝ่าย โดยเฉพาะฝั่งของเขา ที่โดนคนเข้ามามองต่างกันเยอะมาก สิ่งที่ทำให้ผมอึดอัดมากที่สุด คือมีการพาดพิงว่า ได้ดีแล้วก็ทิ้งเก่า ซึ่งมันไม่ใช่ ผมรู้สึกว่าปัญหาของพวกเราทั้งหมด มันมาจากแค่ว่า เมื่อผู้หญิงเขาทำงาน เขาก็มีความคาดหวังจากตัวผู้ชาย มันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคู่บนโลกนี้
คู่ของเราไม่ได้มีมือที่สาม ฝั่งผมไม่ได้มีอบายมุข ติดเหล้า ติดพนัน เที่ยวกลางคืน เที่ยวหญิง เกิดมาในชีวิตนี้ผมไม่เคยเที่ยวผู้หญิงเลยสักครั้ง ผมทำงานเสร็จกลับบ้าน และผมเข้าใจได้ว่า ด้วยตัวเขา เป็นเหมือนก้อนพลังงานก่อนหนึ่ง ที่มันไดนามิกมาก วัฒนธรรมในวงการบันเทิง กับวัฒนธรรมของคนทำงานทั่วไปที่ใช้ชีวิตเนิบ ๆ มันค่อนข้างต่างกันมาก แต่มันก็เดินมาด้วยกันตลอด พอเราต่างคนต่างโตมาก ๆ จริง ๆ มันก็อาจจะมีจุดห่าง หลัก ๆ คือทางผู้หญิงเขาก็มีเอฟเฟกเทคชัน ผมก็ยอมรับผิดกับเขาไปแล้ว เราได้คุยกันแล้ว ก็คงเป็นที่ตัวเต้ยเองแหละที่อาจจะใส่ใจน้อยไป หรือว่าอาจจะดูแลเขาได้ในขีดที่เขาควรได้รับ
ผมมาตกผลึกว่าตัวซาร่าเขามีค่ามาก เขามีมูลค่าที่สูงมาก คือ ทั้งเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนที่ดูแลหลายชีวิต ผู้ชายที่จะเข้ามาอยู่กับเขาต้องเป็นคนที่เป็นพลังงานที่ห่อหุ้มเยอะมาก ผมก็รู้ตัวว่าผมยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ก็พยายามมาเรื่อย ๆ คือเรื่องของเรามันมีเรื่องราวอีกมากมาย แต่ไม่มีเรื่องของมือที่สามอย่างแน่นอน แต่มีตัวแปรแวดล้อมที่ซาร่าเขาเป็นคนกลางที่ต้องแบกรับความรู้สึกอะไรแบบนี้ ซึ่งเขาก็คงไม่ไหวเลยเข้ามาคุยกับเรา
ประโยคที่ชัดเจนที่สุดคือ “ขอถอยออกมาเป็นเพื่อน” ซึ่งมันเป็นที่ตัวผมเองที่รับไม่ได้ ผมไม่เข้าใจว่าการที่ผู้หญิงพูดคำนี้มันหมายความว่า เขาต้องการให้เราใส่ใจมากขึ้น หรือว่า เขาอยากถอยมาเองจริง ๆ ผมอ่ะโง่ อย่างตอนที่เขาทำงาน พอเสร็จงานผมก็ขับรถไปรับ เสร็จงาน ก็ไปนั่งที่ร้านเขา ผมอาจจะไม่ได้อยู่กับเขาตลอด แต่การกระทำทุก ๆ วันแบบนี้ มันกลายเป็น มันตัน เขาอาจจะเบื่อ อาจจะรู้สึกว่าเราควรจะเป็นให้มากกว่านี้ มันเป็นแบบนี้มาประมาณปีหนึ่ง”
ถามถึงเรื่องที่มีคนขุดรายการ “คดีสีชมพู” หนุ่มเต้ยเผยว่า สิ่งที่ตนเองพูดหรือทำในรายการตอนนั้น ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า โง่ที่ไปออก เพราะว่าวางตัวไม่ถูกเลย
“ใครจะโกรธ จะเกลียดผมก็ได้ แต่แค่อย่ามาเปิดสงครามกับคนที่บ้านผมเท่านั้นก็พอ เพราะผมก็ไม่ยอมหากใครมาดูถูกเหยียดหยามคนที่บ้านผม เพียงแต่แค่ว่าความเป็นเราอาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคน ตอนที่ไปออกวันนั้น ในความรู้สึกที่เราคบกันในช่วงนั้นไม่ได้มีปัญหาเลยนะ แค่ว่าตอนที่ออกรายการ เขาต้องการให้มีดราม่าเข้ามาเกี่ยว ก็พยายามหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาให้ เชื่อไหม ผมสาบานได้เลย ว่าตอนนั้นแค่ว่าไปสนุก แต่กลายเป็นว่าการที่เราไม่ได้คิดหรือมองให้ดีก่อน ทำให้เราเสียเกมส์ในวงการบันเทิงไปเลย เพราะฉะนั้นใครที่จะด่า จะว่าผมจากการดูแค่ในรายการนั้น ผมก็เห็น แต่แค่จะบอกว่า ทั้งหมดในรายการ ผมไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ หรือมีปัญหาอะไรกับซาร่าเลย แต่ตอนนั้นคือว่า ถ้าจะออกรายการนี้มันก็คงต้องมีปัญหาหน่อย”
ตลอด 14 ปีที่คบกันมาผมทำหน้าที่ของแฟนเท่าที่คน ๆ หนึ่งจะทำแล้วทั้งหมด เพราะเขาคือผู้หญิงที่อยากจะใช้ชีวิตด้วย เพราะฉะนั้นหากไม่ได้เต็มที่ คงจะรู้สึกแย่
“ผมจะเสียใจมากเลยนะ ถ้าที่ผ่านมาผมไม่เคยลองเปลี่ยนตัวเอง หรือว่าลองทำนอกกรอบ แต่ที่ผ่านมาผมได้ทำไปหมดแล้ว ผมทำหมดทุกอย่างแล้วครับ”
ส่วนเรื่องโอกาสที่จะกลับมานั้น ถ้าอนาคตมันก็อาจจะมี ตนก็ไม่แน่ใจ สำหรับตนแล้วถ้ามีเป็นเรื่องที่ดีมาก จะเป็นข่าวดีในชีวิต แต่ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของจังหวะดีกว่า ยอมรับว่าตอนนี้ตนก็ทำใจแล้วว่า ต้องอยู่คนเดียว ถ้าตนจะมีคู่ก็คือต้องเป็น “ซาร่า” ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เอา
“ผมซื้อบ้านให้เขาแล้ว อยู่ในช่วงทำบ้าน แล้วพอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ คือมันโคตรเคว้ง ผมหยุดทุกอย่าง ถามว่ารอเขาไหม ถ้าเป็นเขาผมก็รอ One Man Women ถ้าไม่ใช่เขาก็ไม่อยากคบใคร ผมมีพี่สาวกับพี่ชายที่คบคน ๆ เดียวจนแต่งงานมีลูก น้องคนเล็กที่โตมามันเห็นแล้วเท่ห์ แต่เราก็อยากที่จะเป็นให้ได้อย่างนั้น ถึงผมจะเคยผ่านการมีแฟนมาแล้ว แต่กับซาร่า เขาเป็นคนดี จริง ๆ เรื่องราวระหว่างเราที่ออกไป มันไม่ควรมีการสร้างสตอรี่ โดยคนอื่น คนอื่นจะพูดอะไรก็ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา และผมมั่นใจมาก ๆ เลย ว่าคุณไม่สิทธิ์พูดในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้มันกลายเป็นมีคนที่มันตัดสินแทน เป็นศาลฎีกาไปแล้ว ผมไม่รู้สึกว่ามันน่าเกลียด” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน