“ณวัฒน์” ยืนยัน! ไม่ได้เนรคุณ ฝากถึง “แอน” ถ้ายังเป็นแบบนี้ร่วมงานด้วยไม่ได้

จากกรณีผู้บริหารข้ามเพศ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หรือ แอน JKN เดินทางไปออกรายการหนึ่ง โดยมีการพูดถึงเรื่องบนเตียงและพาดพิงไปถึงนางงามเวทีดัง จนกลายเป็นพิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาไลฟ์สดขอโทษทันที
.
กรณีนี้ร้อนถึงเจ้าของเวทีขาอ่อนชื่อดังอย่าง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ที่ออกมาโพสต์ข้อความในทำนองว่า “ศัลยกรรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่างได้แม้กระทั่งความคิด เคยร่วมงานกันมาหลายรายการ แต่หลังจากนี้ขอแบน” ซึ่งการออกมาโพสต์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้บริหารหมื่นล้านออกมาโต้กลับอีกครั้ง โดยโพสต์ในทำนองว่า “เรียนคุณ ณ…. ดิฉันแอน จักรพงษ์ มีความรู้สึกเซอร์ไพรส์กับการกระทำของคุณที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงตัวดิฉันซึ่งเป็นลูกค้าที่อุดหนุนคุณมาตลอดระยะเวลา 4 ปีและเป็นเงินหลายล้านบาท รวมถึงการให้เกียรติไปเป็นกรรมการงานประกวดนางงามของคุณในหลาย ๆ ปี มากไปกว่านั้นคือการที่เคยพาคุณไปแนะนำตัวกับคู่ค้าของดิฉันในต่างประเทศ แต่อะไรคือ แรงจูงใจที่ทำให้คุณพักนี้ต้องออกมาพูดถึงคนดังหลายคนในเชิงลบตลอดเวลาคะ? คำว่ากตัญญูต่อลูกค้ามีความหมายสำหรับคุณไหมคะ? คำว่าลูกค้าและผู้มีพระคุณที่อุดหนุนเราคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด”
.
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.พ. 2564) ณวัฒน์เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การสนับสนุนการเป็นสปอนเซอร์ เป็นการทำข้อตกลงผลประโยชน์ต่างตอบแทน เราทำงานเต็มความสามารถของตัวเองแล้ว แต่ไม่เคยได้รับความสะดวกในการทำงาน พูดถึงเรื่องการมีบุญคุณ ถ้าใครเป็นสปอนเซอร์ แล้วถ้าเขาจ่ายเงินช้ามาก ๆ จะรู้สึกเหนื่อยและล้าหรือไม่ ทุกอย่างที่พูดมีหลักฐานชัดเจน การทำงานร่วมกันยอมรับว่าสายป่านขาดตั้งแต่ปี 62 เพราะบริษัทจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ จะต้องมีการยกหนี้ข้ามปี แต่เพราะมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน ทำให้ฝ่ายการขายและที่ปรึกษาในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทแนะนำให้ยุติการค้าการขายกับโฆษณากับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้
.
การทำงานทำอย่างเต็มกำลังความสามารถทุกครั้ง เรื่องการตามเงินมีหลักฐานการตามเงินทุกอย่าง ซึ่งการคุยกับอีกฝ่ายมักจะถูกอ้างเสมอจากตัวลูกน้องว่าเจ้านายยังไม่สะดวก สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้ทำงานด้วยกันต่อณวัฒน์เป็นคนเลือก ยืนยันที่เล่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่แน่ใจว่าเจ้าของบริษัทคู่ค้าทราบหรือไม่ ตอนนี้อีกฝ่ายจ่ายเงินให้ครบหมดแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ต้องการออกมาแฉใครเพียงแต่แสดงจุดยืนว่าตัวเองไม่ได้เนรคุณใคร การจะเป็นสปอนเซอร์หรือไม่ได้เป็นขึ้นอยู่ที่สัญญาต่างตอบแทน
.
หลังจากที่เคลียร์ครั้งนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย ไม่เคยเจอกัน ส่วนใหญ่จะติดต่อกันไม่ได้ ถามว่าทำไมถึงโพสต์? ถูกกล่าวหาว่าคอยวิจารณ์คนดัง ต้องบอกจุดยืนก่อนว่า ผมเป็นบุคคลสาธารณะ ผมมีเพจในการช่วยรณรงค์สิทธิความเสมอภาคและการไม่เอาเปรียบกันและการถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ทำมานานแล้ว ถ้าสมมุติว่าเกาะคนดังจริง ๆ คงไม่ได้พูดถึงเขา ผมเคยสนับสนุนในเรื่องที่ต้องการทั้งคำนำหน้าและหลาย ๆ อย่าง อยากให้ย้อนดู เคยสนับสนุนกระทั่งว่าคุณน่าจะเป็นนักการเมืองได้ เพราะเห็นความเก่ง แต่เมื่อได้เห็นสัมภาษณ์ในวันนั้น มันแสดงให้เห็นว่านั้นไม่ใช่หัวข้อที่เราเคยอยากผลักดัน เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะทำให้สิ่งที่เราเคยผลักดันเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน เราเคยเต็มที่ในประเด็นแบบนี้ บอกก่อนว่าหลังจากนี้เจ้าตัวไม่เกี่ยว
.
รู้สึกตกใจเหมือนกัน เราชอบเขาในภาพลักษณ์เดิม แต่ภาพลักษณ์ใหม่ที่เล่าเรื่องแนวนี้ รู้สึกมันลำบากใจ และไม่อยากให้ใช้พื้นที่สาธารณะทำแบบนี้ ต่อให้ไม่ใช่คนนี้หรือเป็นคนอื่น ๆ ก็คงโดนทุกคน ต่อให้เป็นใครก็ไม่เหมาะสม เด็กดูเยอะ คนดูเยอะ แน่นอนเป็นไอดอลของหลาย ๆ คน ถ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติต่อไปสังคมจะอันตราย นั่นจึงทำให้เจ้าตัวออกมาโพสต์ อยากให้จำไว้ว่าทุกอย่างมันจะถูกบันทึกตลอดชีวิต ตอนที่เราเคยสนับสนุนเขายืนยันสนับสนุนด้วยใจ ไม่ใช่สคริปต์ เรารู้จักเขามานานเป็น 10 ปี ที่ผ่านมาเขาเดินมาถูกทางแล้ว อย่าเลี้ยวไปทางอื่นเลย แล้วก็ไม่แน่คนรอบตัวอาจจะเยินยอไม่กล้าคัดค้าน แต่ผมค่อนข้างจะชัดเจน
.
ส่วนที่ถูกตอกกลับมาให้ไปศัลยกรรมแปลงเพศ ไม่ได้รู้สึกอะไร ตราบใดที่เราวิจารณ์คนอื่นได้ คนอื่นก็วิจารณ์เราได้ เรื่องที่ว่ามาอย่างนั้น ไม่รู้สึกโกรธ ถามว่าสิ่งที่เราโพสต์ต่าง ๆ คิดว่าจะหยุดพฤติกรรมของเขาได้ไหม? ไม่ครับ อย่างมากก็ได้แค่ทำให้รู้สึกไตร่ตรอง แต่จะไตร่ตรองได้มากแค่ไหนไม่รู้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ยังเห็นโพสต์อะไรก็แท็กมาอยู่เรื่อย ๆ จริง ๆ เจ้าตัวไม่ได้ตอบโต้เลยนะ ถามว่าสถานะระหว่างเขากับเจ้าตัวตอนนี้คือเพื่อนหรือไม่? เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ปัจจุบัน 2564 ไม่เป็นไร ถึงแม้เราไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดถ้าเจอแล้วจะไม่คุยกัน แต่เราจะไม่คุยเรื่องงาน ทำไม่ได้จริง ๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ร่วมงานด้วยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแบบเดิม เป็นคนทำงานก็ยินดีจะทำให้ หลังจากนี้คงไม่มีการโพสต์อะไรถึงเขาแล้ว ฝากให้ใจเย็น ค่อย ๆ คิด ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ทุกอย่างจะค่อย ๆ ผ่านไป วันหนึ่งหากทุกอย่างมันผ่านไปอาจจะต้องกลับมาขอบคุณผม
.
ด้าน “แอน จักรพงษ์” ก็ขอไม่ให้สัมภาษณ์ทุกสื่อ เนื่องจากได้จบเรื่องราวตั้งแต่ชี้แจงขอโทษในไลฟ์ไปแล้ว.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 4,969 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม