เป็นประเด็นร้อนฉ่าอยู่ในขณะนี้ หลังนักร้องหนุ่ม “ข้าวโอ๊ต คริษฐ์ พรรณธรรม” หัวหน้าวง “แอคซิส (AXIS)” ออกมาวิดีโอคอลให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ ยอมรับว่าเป็นบอยแบนด์ติดโควิด-19 จริง พร้อมบอกว่าตนคือคนยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดดีเจ “มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ถึงคอนโด ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าไทม์ไลน์ว่ามีอาการป่วยแต่คิดว่าเป็นภูมิแพ้เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2564 จึงกักตัวอยู่ที่ห้อง จนมารู้มาตนติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 อีกทั้งยังรับว่าติดโควิด-19 จาก “ปีโป้” คนที่ไปร่วมงานกับมะตูม
.
ล่าสุด “ดอร์เช่ ธีรเดช” ผู้จัดการส่วนตัวของข้าวโอ๊ต ได้เปิดไทม์ไลน์ของนักร้องหนุ่มอย่างละเอียดยิบดังนี้
Time Line ผู้ป่วยรายที่ 647
โอ๊ตศิลปินวง axis
8 ม.ค. 64 > เซอร์ไพรส์วันเกิด ที่คอนโด ไม่ได้ไป รร บันยันทรี
9 ม.ค. 64 > ไปพบปีโป้ รร. บันยันทรี ไม่ได้เข้าร่วมทานข้าวบนดาดฟ้า อย่างที่เป็นข่าว
10-11 ม.ค. 64 > อยู่ที่พัก(แก้ไขเพิ่มเติม จากในรายการที่แจ้งว่าไปงาน ) 12 ม.ค. > ช่วงกลางคืนไปทำงานในกองถ่ายมิวสิควิดีโอ ศิลปิน “เปา กิ่งกาญจน์” ช่วงเวลา ไม่แน่ชัด 3 หรือ4 ทุ่ม ราว ๆ นี้ มีแค่ฉากเดียวที่เข้าร่วมกับเปา ไม่เกิน 30 นาที หลังจากนั้น เดินทางกลับที่พักเริ่มมีอาการไข้ ช่วง ดึก
13 ม.ค. 64 > อยู่ที่พักตลอดทั้งวัน เริ่มมีอาการ ไข้ขึ้น หายใจไม่สะดวก รับรสอาหารไม่ค่อยเหมือนเดิม
14-19 ม.ค. 64 > อาการดีขึ้นตามลำดับ ไข้หาย ตั้งแต่ 15 อาการอื่นๆ กลับมาปกติ
20 ม.ค. 64 > ได้ดูข่าว DJ มะตูม เนื่องจากผมไปพบปีโป้มา จึงไปรับการตรวจ แล้วกลับที่พัก
21 ม.ค. 64 > ผลการตรวจ รพ. แจ้งว่า ให้เข้าไปตรวจเลือดเพิ่มเติม ว่ากำลังเป็นหรือหาย และเข้ารับการกักตัว 21.00
.
หลังจากเข้ารับการกักตัวที่ รพ. มีการตรวจเลือดตั้งแต่ไปถึง และ ทุก ๆ 2 วัน จะมีการตรวจเลือด คุณหมอก็แจ้ง เตือนเรื่องค่าตับสูง ผมก็ได้สอบถามทุกครั้ง ว่าสรุปผลโควิดของผมเป็นยังไง เนื่องจากเชื้อน้อย หมอแจ้งว่าอาจจะกำลังเป็น หรือ เชื้อกำลังหาย เพราะทุกครั้งที่ ตรวจเลือดแล้วหมอมาแจ้งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ผมถามหมอว่าผลจะแน่ชัดเมื่อไหร่ เพราะผมก็อยากชี้แจงให้เร็วที่สุด คุณหมอบอก 31 จะได้ทราบว่าเชื้อที่พบกำลังเป็น หรือเชื้อหาย
.
ทามไลน์โอ๊ตไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด โอ๊ตแจ้งทามไลน์ให้หน่วยต่าง ๆ ที่โทรมาสอบถามไปทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ช่วงเช้า และ วันต่อมาก็แจ้ง ทามไลน์ รับสายตามหน่วยงาน ที่โทรมา
.
พอถึงวันที่มีทามไลน์ปรากฏขึ้น โอ๊ตก็รู้สึกตกใจมาก ๆ เพราะไม่ตรงกับทามไลน์ที่โอ๊ตได้แจ้งไปกับทุกหน่วยที่โทรมา ตั้งแต่วันที่ 22 แต่ทามไลน์ที่ออกมาต่างกันข้อนข้างเยอะ กับ ทามไลน์ที่ให้ไป
‐———————————————–
ก่อนอื่นต้องขอโทษพี่ ๆ ในวงการทุกคนที่ทำให้เกิดความกังวลใจ กับข้อมูลข่าวสารที่ออกไปว่าโอ๊ตไม่ให้ข้อมูลกับทาง รพ. ซึ่งจริง ๆ โอ๊ตได้ให้ ข้อมูล กับ ทางรพ.ไว้ทั้งหมดแล้วทุกวันไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูลใด ๆ โดยเฉพาะ วันที่ 12 ม.ค. ซึ่งในไทม์ไลน์ของทางการที่ออกมาได้ใส่ข้อมูลไม่ครบถ้วน
.
โดยวันที่ 12 ม.ค. โอ้ตได้ไปทำงานถ่ายmvของ เปา กิ่งกาญจน์ เวลาราว ๆ 3 หรือ 4 ทุ่ม โอ๊ตแทบจะไม่ได้พูดอะไรกับใคร ในกองถ่ายทีมงานทุกคนก็ใส่มาสก์ กับน้องเปา เข้าฉากไม่เกิน 30 นาที เพราะถ่ายแยกซีนกัน มีเข้าด้วยกัน 1 ฉาก เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที เสร็จโอ๊ตก็กลับบ้านทันที
หลังจากนั้นจึงรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงนอนพักทานยาอยู่ที่คอนโดอย่างเดียว โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย มีแฟนกับพี่คอยดูแล โอ๊ตพักอยู่หลายวัน จนวันที่ 19 ม.ค. ได้เห็นข่าว DJมะตูม ก็รู้สึกตกใจ
วันที่ 20 เดินทางไป รพ.ช่วงกลางคืน ตรวจเชื้อ แล้วกลับที่พัก
วันที่ 21 ทาง รพ. โทรมาแจ้งผล ว่าให้มา ตรวจเลือดเพิ่มเติมและกักตัวที่ รพ. รถมารับ 21.00
.
หลังจากที่รู้ผลว่าโอ๊ตติดเชื้อโควิด-19 โอ๊ตก็ได้แจ้งไปทางทีมงานของเปาทันทีเพื่อให้ทุกคนไปตรวจ ซึ่งผลออกมาเป็นลบไม่มีใครติดครับ
.
สำหรับอีกประเด็นนึงเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่งโอ๊ตได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการแฉของพี่ “มดดำ คชาภา” ผ่านทางวิดีโอคอลเหตุซึ่งเป็นรายการแรกรายการเดียว ด้วยความที่โอ๊ตไม่คิดว่ากระแสจากทุก ๆ สื่อโดยเฉพาะในวงการบันเทิงรุนแรงมาก แล้วโอ๊ตได้อ่านคอมเมนต์ ต่าง ๆ นา ๆ ค่อนข้างกระทบจิตใจ เพราะโอ๊ตเองก็ไม่ใช่นักร้องที่มีชื่อเสียงมากมายอะไร การออกสื่อก็น้อยครั้ง พอมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ที่ตัวเองก็ติดเชื้อมีความกังวลมากอยู่แล้ว พอมาเจอกับพี่ ๆ สื่อทุกคนยิ่งทำให้โอ๊ตรู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก ทำให้ในการพูดคุยกับพี่มดดำ ที่โอ๊ตแจ้งในรายการว่า มีการทำงาน ในวันที่ 12 โอ๊ตไปถ่ายเอ็มวีของเปาไป โอ๊ตไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูลใด ๆ ครับ
.
สุดท้ายนี้โอ๊ตก็ต้องขอโทษ ทุก ๆ คนอีกครั้งครับที่ทำให้กังวลใจครับ ช่วงนี้โอ๊ตต้องขอพักรักษาตัวให้หายจากการติดเชื้อในครั้งนี้ก่อนนะครับ โอ๊ตไม่ได้มีเจตนาปกปิดทามไลน์หรือการไม่ให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงาน เหมือนในข่าวที่ออกไปแต่อย่างใดเลยครับ เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องนี้กระทบไปถีงหลาย ๆ คน ต้องขอโทษสังคมอีกครั้งนะครับ ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน