ได้ฤกษ์ดีวันนี้ (15 พ.ย. 2563) “ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข” นักร้องนำวงชื่อดัง “โปเตโต้” กับแฟนสาว “ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ” เข้าประตูวิวาห์ โดยได้มีพิธีตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งมีทั้งญาติเพื่อนพ้องมาเป็นสักขีพยาน
โดย ปั๊บ ได้ยกขบวน และต่อด้วยพิธีหมั้นที่ กับถือฤกษ์ดี 09.09 นที่. ในการสวมแหวน จากนั้นก็ถึงพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ซึ้งน้ำตาไหลกับคำอวยพรที่เหล่าคนที่รักมอบให้
หลังจากจบพิธีในช่วงเช้า เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าบ่าวเจ้าสาวป้ายแดงก็เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ปั๊บ โปเตโต้-ใบเตย โมื่อเช้าเป็นยังไงบ้าโดยได้เล่าบรรยากาศในพิธีเช้า
ปั๊บ : มันเป็นเรื่องของความรู้สึกใหม่ คือความรู้สึกใหม่ที่หมายถึงคือเป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิต เราก็เล่นแต่ดนตรี แต่ความรักมันเป็นของคู่กัน และการที่ทำให้เรามาแต่งงานกัน มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจผม ผมพยายามกรองว่ามันคืออะไร อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
ใบเตย : สำหรับเมื่อเช้าก็มีแต่ความซาบซึ้ง กับญาติ ๆ ด้วย กับเพื่อน ๆ ด้วย บางทีเราอาจจะไม่คุยเรื่องความรู้สึกกันมากเท่าไร จนกระทั่งถึงวันสำคัญของเรา เราได้คุยกันมากขึ้น นอกจากคำพูดด้วยแล้ว สายตาเราสองคนสื่อสารกันมากกว่าความรู้สึก มีแต่ความซาบซึ้ง
เมื่อเช้าเห็นมีน้ำตาด้วย?
ใบเตย : หน้าพี่ปั๊บเหมือนอมบ๊วยเลยอ่ะ (หัวเราะ)
ปั๊บ : ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะเราก็เคยไปร่วมงานของพี่ ๆ หลายคน เราก็เห็นเขาร้องไห้ เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาร้องทำไม เพราะก็คบกันอยู่แล้ว ก็แต่งงานกันแล้ว แต่ทำไม พอมาวันนี้เราก็พอเข้าใจว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน แต่ไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้ ก็คงตื้นตันด้วย และเป็นเรื่องของการขอบคุณสำหรับคนที่มาร่วมงาน ที่เขาให้เกียตริเรา เราไม่รู้ว่าจะส่งความรู้สึกขอบคุณนั้นกลับไปยังไง เราคิดว่าทำไมเราโชคดีที่มีคนเมตตา มีคนควรสนับสนุน ผมรู้สึกว่าเราโชคดีมาก
จากนางเอกเอ็มวีวันนั้นมาเป็นนางเอกในชีวิตจริงวันนี้?
ปั๊บ : พอผมมานั่งทบทวนดู มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดฝัน แต่ถ้ากลับไปย้อนดูมันก็มีความน่ารักอยู่ ก็ต้องเป็นเขาอะครับ
ย้อนกลับไปทำไมวันนั้นเราเก็บเขามาไม่ทิ้งเขาไว้กลางทาง ?
ปั๊บ : มันเหมือนจังหวะเลย มันเหมือนว่าผมถ่ายมิวสิควิดีโอเสร็จ ผมก็เห็นน้องเขาน่ารักดี เราทำงานกับนางเอกมิวสิควิดีโอหลายคน ทุกคนก็น่ารัก แต่ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาเจอกันอีก แล้วก็โดนบังคับให้ต้องเหมือนต้องเอาความรู้สึกมาอยู่ร่วมในจุดเดียวกันอีก (ในซีรี่ส์) ใช่ มันน่าจะตรงนั้นแหละที่ผมคิดว่า มันจบเหมือนในเรื่อง คือในเรื่องกลับมาเจอกัน
นางเอกเราเลือกเองไหม ?
ปั๊บ : ผมมีส่วนในการเลือกด้วย แต่ไม่ได้เราเลือกเองเลย 100% คือทุกคนก็ช่วยกัน ค่ายด้วย หัวหน้าเราด้วย พี่สันต์เองด้วย คือจังหวะ เพราะตอนแรกจะเป็นน้องอีกคนหนึ่ง แต่น้องเขามีธุระต้องไปต่างประเทศ ก็เลยไม่ได้ (ก็ต้องขอบคุณน้องคนนั้น) จริงนะครับ ก็เคยเล่าให้เตยฟัง คือมีโทรบอกเลื่อนคิวได้ไหม อยากได้น้องคนนั้น เขาก็บอกว่าไม่ได้เลย ก็โอเคไม่ได้ แต่คือที่ค่ายก็เคยส่งรูปเตยมาแล้ว แต่เราคิดว่าเตยต้องแพง เพราะตอนนั้นเตยเขาก็เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าไปแล้ว คือด้วยงบประมาณเรทราคาค่าตัว ผมว่าทุกคนที่ทำโปรดักซ์ชั่นต้องเข้าใจดี แต่ก็โชคดีที่เขารับ
เราลดราคาให้ ?
ใบเตย : จำไม่ได้แล้ว
ปั๊บ : ก็ราคาปกติแหละ โอเค ก็คุยกับหัวหน้า
ใบเตย : โค้งสุดท้ายแล้วเนอะ มันต้องถ่ายแล้ว
ปั๊บ : เขาคาแรกเตอร์ตรงด้วยครับ
ตอนนั้นเป็นนางเอกเอ็มวีตอนนี้เป็นนางเอกในชีวิตจริง คิดไหมว่าจะมีวันนี้ ?
ใบเตย : เรื่องนี้เตยกับพี่ปั๊บคุยกันค่อนข้างจะบ่อย แล้วด้วยในช่วงเวลาระหว่างทางที่เราคบกันมา มันมีเหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งเหมือนพอเรามาตกตะกอนดูแล้ว คุยกันจนรู้สึกว่าหลาย ๆ เรื่องมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มันเกิดขึ้น
ปั๊บ : ใช่ มันมีหลายเรื่อง ถ้าเล่าแล้วมันอาจจะดูเวอร์ๆ
ยกตัวอย่างที่ไม่ใช่เหตุการณ์ความบังเอิญแต่เป็นพรหมลิขิต?
ปั๊บ : ล่าสุดที่เราไปเจอพี่ที่เราเคารพคนหนึ่งเขาทำงานในโปรดักซ์ที่เราทั้งสองคนเคยเป็นพรีเซนเตอร์เหมือนกัน แล้ววงโปเตโต้ก็เกิดจากโฆษณาชิ้นนี้ เตยก็เกิดจากโฆษณาชิ้นนี้ เราถูกยอมรับและมีคนรู้จักจากโฆษณา แล้วก็มาเจอกันผมก็ยังได้เป็นพรีเซนเตอร์ต่อ ตัวเตยเองก็ยังได้เป็นพรีเซนเตอร์อีก มันก็แปลกดีเนาะ เป็นเรื่องน่ารักดี รวมถึงเรื่องอื่นๆอีกที่มีเยอะเหมือนกัน ผมเล่าไปแล้วมันจั๊กกะจี๋ดี (ยิ้มเขิน) แต่มันเป็นจังหวะชีวิตแหละ
อะไรที่ทำให้ปั๊บประทับใจเตย คนนี้แหละคือคู่ชีวิต?
ปั๊บ : ผมว่าเขาน่ารัก อันดับแรกคือหน้าตาเขา รอยยิ้มเขา เราเห็นแล้วเรารู้สึกสบายใจ สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องของความกตัญญู สิ่งที่เขาต้องเสียสละให้ครอบครัว พอเราได้คุยเราก็ได้รู้ว่า คนที่เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สุขสบาย เรารู้สึกดี ผมเองอาจจะไม่ได้ลำบากมาก แล้วมีพ่อแม่ที่ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย เราพอมีพอกิน แต่เตยเขาเหมือนเลี้ยงทั้งครอบครัว เราก็รู้สึกว่าเราอยากดูแลเขา รู้สึกเท่ดี
แล้วเตยล่ะ ทำไมถึงเลือกพี่ปั๊บเป็นคู่ชีวิต?
เตย : สิ่งที่เตยประทับใจพี่ปั๊บตั้งแต่แรกก่อนที่จะคบกัน คือพี่ปั๊บเป็นคนให้เกียรติไม่ว่าจะเป็นใคร อย่างเวลาเราอยู่ในกองถ่าย พี่ปั๊บให้เกียรติทุกคน พี่ๆที่เป็นทีมสวัสดิการ ช่างไฟ คือพี่ปั๊บน่ารักกับทุกคน แล้วพี่ปั๊บก็ให้ความสำคัญในทุก ๆ ตำแหน่ง ตัวเตยเองก็เคยทำงานเป็นเอ็กซ์ตร้าค่าตัว800 500 เราก็พอเข้าใจว่าตำแหน่งเราเป็นการเติมเต็มงานให้มันได้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด แต่พอเราเห็นว่าพี่ที่เขาเป็นเบอร์ใหญ่มากๆ ที่ให้เกียรติคนตัวเล็ก ๆ ให้เกียรติคนที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน เรารู้สึกประทับใจเขาตรงนี้ด้วย และอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนที่จะคบกันช่วงแรก ๆ เขาบอกเตยว่า เราเต็มที่นะ วันนี้เราเต็มที่ยังไง ถึงแต่งงานไปมันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาเต็มที่ตั้งแต่วันแรกตั้งแต่ที่คบกันซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ปั๊บ : มันก็มีเปลี่ยนนิดหน่อย เราก็ใส่เกียร์เลย
ใส่เกียร์คือยังไง?
ปั๊บ : ใส่เกียร์คือมีความรักเราก็ทุ่มเทเต็มที่ (ยิ้ม)
วางแผนชีวิตครอบครัวหลังจากนี้ยังไงบ้าง?
ปั๊บ : วันมะรืนผมไปเล่นคอนเสิร์ตแล้ว ผมต้องไปทำงานต่อ ใจผมก็อยากมีลูกเหมือนกัน แต่เตยตอนนี้ก็ติดถ่ายละครอยู่ด้วย มีลูกตอนนี้อาจจะไม่ดี แต่กว่าจะถ่ายเสร็จก็ (มีเลย) ได้ อยากมีเร็ว ๆ
ใบเตย : อยากมีค่ะ แต่เดี๋ยวขอเคลียร์งาน เคลียร์อะไรต่าง ๆ ให้โอเคก่อน แล้วค่อยว่ากัน
มีแพลนไว้ไหมว่าเมื่อไร?
ปั๊บ : โอ้โห…ก็อยู่ที่น้ำยาผมด้วย ก็ต้องพยายาม แต่ก็เช็กร่างกายแล้ว
ใบเตย : อู้หู้ว
มีการวางแผนเรื่องฮันนีมูนไว้ไหม?
ปั๊บ : ไม่เลย ตอนนี้แค่เหมือนต้องทำงานแล้ว เพราะช่วงก่อนหยุดมาพักใหญ่ แล้วก็เห็นหน้ากันบ่อยมาก ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเห็นแล้วด้วยเพราะว่าทำงานหนักทั้งคู่
ใบเตย : อาจจะเป็นเพราะว่าเราสองคนเดินทางกันบ่อย ค่อนข้างเยอะก่อนหน้านี้แล้วด้วย เลยไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องฮันนีมูนที่ไหน
ธีมงานวันนี้เป็นยังไง?
ปั๊บ : เหมือนรวมสิ่งที่ผมกับเตยชอบ เวลาไปเที่ยวผมชอบถ่ายรูป ผมก็อยากเอารูปมาใช้ เราชอบวาดรูปก็เอารูปวาดมาใช้ เราชอบงานศิลปะเล็ก ๆ น้อย ๆ ราก็เอามาผสม เราอยากให้คนเข้ามา ไม่อยากให้เหมือนมางานแต่ง เหมือนมาแล้วสบาย ๆ เหมือนมาดู มาฟังเพลง มาคุยกัน มาดูแกลอรี่ เอาเพื่อนมาเจอกัน อธิบายไม่ถูกเลย เหมือนมายำ ๆ เต็มไปหมดเลย
ใบเตย : อยากให้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ใหญ่ เขาได้เห็นสถานที่ ๆ เราเคยไปเที่ยว ให้เขาได้เห็นประสบการณ์คล้าย ๆ เรา ที่เคยได้เห็นได้ไปเที่ยวมาก่อน รูปในงานนี้คือรูปที่พี่ปั๊บถ่ายเอง อาจจะมีเอามาเพิ่มสี เพิ่มอะไร
ไม่เห็นมีรูปเตยหลับตาเลย?
ปั๊บ : ไม่น่ามีมั้ง (หัวเราะ)
ใบเตย : ขอเถอะค่ะวันนี้
หลังจากนี้แต่งงานไปจะมีอีกไหม?
ปั๊บ : ทีนี้อิสรภาพแล้วแหละ (หัวเราะ) บางทีมันต้องนิดนึง
วันนี้มาถึงแล้วเรามีคุยเรื่องคำมั่นสัญญาไหม?
ปั๊บ : ผมคิดว่าการแต่งงานเป็นอีกหนึ่งสถานีที่ตัวผมเองรู้สึกว่ามันเดินมาถึงแล้ว หลังจากนี้ผมว่าเรายังต้องศึกษาแล้วก็เรียนรู้ทำความเข้าใจกันไปเรื่อยๆ ผมกับเตยรู้สึกสิ่งนึงที่ทำให้เรายังค่อยๆ ใช้ชีวิตไปด้วยกัน ไม่อยากใช้คำว่าประคอง เราร่วมด้วยช่วยกันไปเรื่อยๆ เหมือนเราพยายามปรับตัวอยู่ตลอดเวลาในสิ่งที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในตามความเป็นจริงครับ เมื่ก่อนวันนึงเราอาจจะโทรหาเขา 10 รอบ แต่ว่าวันนี้อาจจะเหลือ 3 รอบ แต่มันไม่ได้แปลว่า 3 รอบนี้ มันเกิดจากความไม่เข้าใจ มันเกิดจากบางสิ่งที่อาจจะทำให้มันเป็นแบบนั้นคือผมว่าเราพยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ ดีกว่า ผมตั้งมั่นว่า ไม่ว่ามันจะร้ายหรือมันจะดี ก็จะอยู่เป็นบัดดี้ไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้เขาต้องกังวลเยอะ ลุยไปเต็มที่ ล้มเราก็จะล้มไปด้วยกัน ลุกเราก็ลุกไปด้วยกัน ผมว่ามันน่าจะเป็นหลักยึดที่เวลาเราเถียงกันผมยังรู้สึกว่าอาจจะเป็นวันไม่ดี แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด มันยังมีวันที่ดีเหมือนกัน เราจะพยายามคุยกันแบบนี้ สำหรับผมนะครับ จะดูแลไปเรื่อยๆ รักเตยแหละ
ใบเตย : (น้ำตาไหล) เราคุยกันตลอด เราคุยกันแบบจริงจังเรื่องพวกนี้ตลอด เตยเชื่อเรื่องัวนนี้ เตยไม่เชื่อเรื่องตลอดไป เพราะสุดท้ายต่างคนต่างก็ต้องจากกัน แต่เตยจะทำทุก ๆ วันให้มันดีที่สุดเท่าที่เตยจะทำได้
ปั๊บ : ดีมากครับ
.
จากนั้นคู่บ่าวสาวก็เตรียมตัวเพื่อต้อนรับแขกในพิธีตอนเย็น
“ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่อีกครั้งจ้า .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน