จากที่เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 63 “ครูชลธี ธารทอง” ครูเพลงชื่อดัง วัย 83 ปี ได้เดินทางไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.กาญจนบุรี จากการที่ศาลนัดสืบพยาน คดีที่ตนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “นางศศิวิมล ทองมา” หรือ ครูปุ้ม วัย 53 ปี อดีตภรรยาที่อยู่กินกันมา 30 ปี โดยครั้งนี้เป็นการฟ้องหย่า แบ่งสินสมรส ขับไล่ส่งมอบทรัพย์สิน ซึ่งก่อนจะมีการสืบพยานทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากันพร้อมเกิดมีการปะทะคารมกัน กระทั่งศาลต้องเรียกให้ทั้งคู่เข้าไปไกล่เกลี่ยกันในห้องพิจารณาคดี แต่ปรากฎว่าไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ
.
ล่าสุดวันนี้ (23 ต.ค. 63) ครูปุ้มได้เผยกับไนน์เอ็นเตอร์เทนเพิ่มเติมว่า ตนยอมรับว่าที่เข้าไปพูดคุยกับครูชลธีเมื่อวันที่ 21 ต.ค.นั้น เจตนาของตนเพื่อต้องการที่จะถามสารทุกข์สุขดิบกับสามีเพียงเท่านั้น รวมถึงได้ขอร้องว่าอยากให้ครูชลธีหยุดการฟ้องร้อง ดำเนินคดีกัน แต่ขณะที่ตนพูดคุยกับสามีนั้น ทางทนายความส่วนตัวของครูชลธีได้เข้ามาห้าม ซึ่งครูปุ้มก็ได้ตอบกลับไปว่าทนายความเป็นคนนอกครอบครัว ไม่ได้มีเหตุการณ์ชลมุนอะไรทั้งสิ้น ตนเข้าไปพูดคุยกับครูชลธีในฐานะภรรยา โดยครูปุ้มเผยว่าที่ไปขึ้นศาลพร้อมกับครูชลธีในวันที่ 21 ต.ค. นั้น เนื่องจากตนเป็นจำเลยที่มีสิทธิ์จะนั่งฟังได้
.
โดยการได้เผชิญหน้ากันในวันนั้น ครูปุ้มเผยว่าเป็นการเจอกันครั้งแรกกับครูชลธีในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมาทั้งตนและลูกของครูชลธีไม่ได้มีโอกาสได้พบกันเลย อีกครั้งยังไม่สามารถติดต่อครูชลธีได้ โดยครูปุ้มได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้เจอหน้าสามีอีกครั้งว่า ตนถึงกับน้ำตาไหล รู้สึกแย่ที่เห็นใบหน้าสามีมีแต่ความเครียด แววตามีความกังวล ผิดจากครูชลธีคนเดิมที่มีรอยยิ้ม
.
ส่วนเรื่องที่ให้โอนสมบัติและลิขสิทธิ์เพลงให้ลูกนั้น ครูปุ้มชี้แจงถึงจุดประสงค์ว่า ทั้งหมดที่เรียกร้องก็เพื่อลูกของครูชลธี ไม่ได้หวังประโยชน์ของตัวเอง.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
