ซึ้ง!! ภรรยาร่วมทุกข์ร่วมสุขตื่นตี 5 พา “เมฆ วินัย” บำบัด อาการดีขึ้นกว่า 80%

อดทนต่อสู้กับโรคตุ่มน้ำพองมานาน จนทำให้ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ออกปากเรียกโรคนี้ว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม เพราะว่าเหมือนจะหายก็ไม่หาย

ล่าสุด เมฆ ได้อัปเดตอาการป่วยผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง และเผยภาพที่กำลังนอนพันหน้าด้วยผ้าพันแผลเหลือแต่ช่วงดวงตากับปากและจมูก โดยมีภรรยา “เอ๋ ชลรดา แสนสินรังษี” ประกบอยู่ข้างๆ พร้อมกับเขียนข้อความว่า “อย่าตกใจกันนะ เรามาทำอะไรที่นี้ 555 มากัน 2 คนตายาย ตี 5 เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เราต้องสู้กับมัน ครอบครัวไกรบุตร ขอเป็นกำลังใจให้นักสู้ทุกคน บนถนนสายนี้ อย่าไปกลัวๆครับ # เราจะไม่ทิ้งกัน FC ทุกคนสู้ๆ”

โดยมีคนเข้าไปชื่นชมศรีภรรยา ที่ถึงจะเป็นช่วงที่เลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่ทิ้งสามี แถมยังคอยดูแลให้กำลังใจมาตลอดการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมากว่า 10 ปี

ซึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่ได้เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ทำรักษาอาการจากโรคตุ่มน้ำพองดีขึ้น 80% แล้ว โดยนอกจากจะทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังเลือกรักษาตัวเองด้วยวิธีทางเลือกทั้งการใช้ผ้าพันแผลพันรอบตัว เชื่อว่าเป็นการกดต่อมน้ำเหลือง โดยให้ไปขับถ่ายออกทางปัสสาวะแทน ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา (26 ส.ค. 2563) ก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปรักษา

อีกวิธีที่ช่วยในการรักษา คือการนอนแช่น้ำแข็งลดการคันบริเวณผิวหนัง รวมถึงการหันมาทานอาหารเจ โดยการรักษาทั้งหมดและดูแลตัวเองมาได้ 2 เดือนแล้ว เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทำให้กำลังใจดีกว่าเดิม ตอนนี้ไม่มีตุ่มขึ้นตามตัวแล้ว มีเพียงแผลเล็กน้อยที่เป็นผลข้างเคียงจากการทานยา
.
เมฆยังย้ำว่าตนรักษาทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและวิธีทางเลือกควบคู่กันไป โดยตอนนี้ยังต้องทานยาวันละ 4 เม็ด แต่คาดว่าในเดือนหน้า (กันยายน 2563) แพทย์จะปรับยาให้เหลือวันละ 3 เม็ด ส่วนแผลที่เกิดจากตุ่มน้ำพอง จากเดิมที่ต้องใช้ยาทาวันละ 20 หลอด ตอนนี้เหลือเพียงวันละไม่ถึงหนึ่งหลอด
.
ในการทานอาหารเจ ตนรู้สึกดีมากๆ จากแรกๆ ที่เริ่มปรับการทานอาหารรู้สึกตัวมีกลิ่น แต่ตอนนี้สบายตัวมาก และจากที่เคยมีตุ่มขึ้นบริเวณมือและเท้าทำให้ไม่สามารถขับรถได้ ตอนนี้ผิวเรียบ ไร้ตุ่ม จึงทำให้ขับรถไปส่งลูก ๆ ที่โรงเรียนได้ คนเป็นพ่อก็ยิ้มออกได้กว่าเดิม
การต่อสู้กับโรคตุ่มน้ำพองมานานปีกว่า เมฆเปรียบว่าเป็นเหมือนการวิ่งมาราธอน ที่เห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า และสักวันหนึ่งก็เชื่อว่าตนจะวิ่งเข้าเส้นชัยได้.-ไนน์เอ็นเตอร์เท


เข้าชม 86 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม