ไม่ยอมแล้ว! “นิก คุณาธิป” งัดหลักฐานแฉ “พชร์” ลั่น! ถูกตัดอนาคตไม่ให้รับงาน 3 ปี


ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่จบลงง่ายๆ กับกรณีโกงเงินค่าโปรโมตหนังระหว่างนักแสดงหนุ่มวัยรุ่น “นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ” กับผู้กำกับคนดัง “พชร์ อานนท์” ที่ล่าสุด (2 ส.ค. 63) นิกออกมาโพสต์ภาพเปิดแชทลับแฉเรื่องเงินค่าโปรโมตหนังทั้งหมด 13 คิว เป็นเงินถึง 130,000 บาท จากเรื่องหลวงตา มหาเฮง ซึ่งเจ้าตัวยังไม่ได้รับเงินเลยสักบาท อีกทั้งเจ้าตัวยังโดนห้ามรับงานอีกด้วย
.
โดยนิกได้ออกมาโพสต์ภาพแชทที่เจ้าตัวทักไปคุยเรื่องค่าโปรโมตหนังลงอินสตาแกรม โดยระบุว่า “ผมขอออกมาปกป้องตัวเองบ้างนะครับหลังจากที่ไม่เคยมีโอกาสได้พูดได้อธิบายเลยทำให้หลายๆ คนเข้าใจผมผิด ห้ามพูด ห้ามออกมาอธิบาย ผมขอยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดไปทุกอย่างคือความจริง มีผู้ใหญ่หลายๆคนให้คำปรึกษาให้คำเเนะนำ ว่าเราเป็นเด็กถ้านิ่งได้จะดี พูดอะไรไปยังไงก็ดูเป็นเด็กก้าวร้าว ดูไม่น่ารัก เเต่ก็ดูเหมือนสิ่งที่ผมทำตามมันจะไม่มีอะไรดีขึ้น นี่ก็ผ่านมาปีกว่าเเล้ว กับการที่อยู่โดนห้ามรับงาน ทำไมผมต้องโดนอะไรเเบบนี้กับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำผิด เเค่ว่าผมเป็นเด็กเเล้วไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้นหรือ… #สิ่งที่ผมพูดไปทุกอย่างตั้งเเต่ต้นผมขอสาบานว่าผมพูดเรื่องจริง#ทุกคำพูด”
.
ต่อมาวันที่ 3 ส.ค. 63 นิกได้โพสต์หลักฐานอีกครั้ง เป็นแชทสนทนายืนยันไทม์ไลน์ว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ค่าโปรโมตหนังจริง โดยระบุว่า “จากรูป1อ้างว่าได้โอนให้เเล้วครบถ้วนทั้งค่าเเสดงเเละค่าโปรโมท(รวมกัน)เเต่จริงๆ เป็นแค่ค่าตัวการเเสดง เเต่ค่าโปรโมต ยืนยันได้จากเเชทวันเเละเวลา ดูกันเทียบกัน วันที่11-12เดือน3 (2019) บอกว่าจ่ายค่าโปรโมตรวมเเล้ว เเต่จากรูป2วันที่ 29เดือน3(2019) มีการคุยขอคิวคุยเรื่องค่าตัว โดยจากรูป3ยืนยันว่า 13เดือน5(2019) เงินค่าโปรโมทยังไม่ออก เรียบเรียงวันเเละเวลา ดู ลองคิดตามครับ ยืนยัน สาบาน ว่า พูดเเต่เรื่องจริงตั้งเเต่ต้น ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เงิน ไม่ได้อยากได้หรอกเงินอะ ขอความยุติธรรม เราต่างรู้ว่าเรื่องเป็นยังไง”
.
ซึ่งทางไนน์เอ็นเตอร์เทนได้ต่อสายไปหานักแสดงหนุ่ม “นิก คุณาธิป” ถามถึงประเด็นดังกล่าว ก็ได้คำอธิบายว่า “ค่าตัวจากหนังได้แล้ว ที่มีปัญหาตอนแรกคือค่าโปรโมตหนัง ที่เขาลงหลักฐานว่าโอนเงิน ค่าตัวได้ 6 แสนบาท ซึ่งหนังแต่ละเรื่องได้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว บางเรื่อง 8 แสน 7 แสน หรือ 5 แสน ที่เขาลง 6 แสน มันรวมกับค่าโปรโมตแล้ว จริงๆ มีแชทนี้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยไปปล่อยที่ไหน เพราะผู้ใหญ่แนะนำให้เรานิ่ง ที่ออกมาโพสต์เพราะมันผ่านมา1 ปีกว่าตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด-19 หลายเดือน แต่ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ผมเห็นที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าทำไมไม่ติดต่อเขาไปเลย แม่ผมก็เลยติดต่อไป ทางเขาก็พูดว่าติดธุระอยู่ เข้าห้องน้ำ ให้ฝากเรื่องไว้กับเลขา แม่ผมเลยโทรไปอีกทีสายไม่ว่างก็น่าจะบล็อกเบอร์
.
เขามาขอคิวโปรโมต คิวละ 1 หมื่นบาท ทั้งหมด 13 คิว ก็ 130,000 บาท ทางเราก็โปรโมตครบ ในแชทไทม์ไลน์ยืนยันทุกอย่าง เขาออกสื่อว่าทำไมไม่ติดต่อไป แต่แม่ผมติดต่อไป ก็บล็อกเบอร์ผม พอศาลนัดไกล่เกลี่ยเขาก็ไม่มา ตั้งแต่แม่โทรไปแล้วบล็อกก็คิดว่าเขาไม่อยากคุย ก็เลยไม่ได้ติดต่อไปอีกเลย ที่เราออกมาโพสต์เพราะรู้สึกว่า 1 ปีกว่าที่เราต้องทนไม่มีงาน คนเข้าใจผมผิดเยอะ เลยอยากจะออกมาปกป้องตัวเอง
.
เรื่องการเซ็นสัญญาเราใช้ใจ เชื่อใจ ไม่ได้อ่านรายละเอียดขนาดนั้น เราอยู่กับเขามามีสัญญาอยู่แล้ว ครั้งแรก 5 ปี เรารักกัน ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายเรา สัญญาฉบับ 2 เราเซ็นตั้งแต่ก่อนสัญญาแรกจะหมดด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องรับงานเราเหลือสัญญา 2 ปี ทางทนายเราบอกว่าสัญญาเป็นโมฆะแล้ว แต่ทางเขาบอกว่าเรายังมีสัญญาอยู่ ทางคนจ้างงานเลยจะสับสน มีคนจ้างงานมาตลอด แต่ผมไม่อยากให้เขามาเดือดร้อนด้วย เลยปฏิเสธไป จริงๆ เงิน 130,000 บาท ไม่ได้เป็นปัจจัยอะไรขนาดนั้น ผมอยากบอกว่าอยากให้คุยกันดีๆ ดีกว่า ต่างคนต่างรู้ว่าเราทำอะไรกันอยู่ ไม่ได้อยากเอาหลักฐานออกมาโพสต์อะไรแบบนี้ พยายามที่จะอ่อนลงแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น คดีก็ยืดเยื้อไปปีหน้า ชีวิตคนเราต้องเดินต่อ มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ตัดอนาคตคนๆ นึงไป 3 ปี มันเป็นอะไรที่แย่มาก”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 190 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม