เมื่อระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน ไม่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ไม่ตอบสนองการเรียนรู้ ไม่สามารถพัฒนาการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กและสังคมในอนาคตได้
อ.ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสมาคมการศึกษาทางเลือกไทย ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตการศึกษาไทย ในงานปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2560
รับชม อ.ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ สัมภาษณ์ต่อได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=XOXDZhFmbBA&t=24s
การศึกษาไทยในปัจจุบันที่ให้เด็กนั่งเรียนอยู่แต่ในห้อง เรียนแบบท่องจำ ถึงเวลาก็สอบ ซึ่งนั่นไม่ใช่การเรียนรู้ที่แท้จริง การเรียนรู้ที่แท้จริง เด็กจะต้องเรียนรู้ แล้วนำไปแก้ไขปัญหาในชีวิตได้ อยู่กับสังคมและพึ่งพาตัวเองได้ “แต่ในปัจจุบันเรากลับเห็นเด็กตกงาน ทำงานกลับบ้านไม่ได้ เป็นหนี้ตั้งแต่ยังเรียน อนาคตก็ไม่รู้ว่าจะมีงานรองรับไหม ซึ่งตอนนี้ตลาดแรงงานทั้งภาครัฐและเอกชนเกิดสภาวะหดตัวเพราะฉะนั้นการแข่งขันในอนาคต ยิ่งต้องการคนที่มีคุณภาพที่แท้จริง”
รับชม นายศุทธิวิชชุ์ สุขพินิจ (น้องออมมี่) สัมภาษณ์ต่อได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=xmbObguT7JA&t=13s
นายศุทธิวิชชุ์ สุขพินิจ (น้องออมมี่) เด็กชายที่เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่ 7 ขวบ บอกว่าการศึกษาในระบบไม่ตอบโจทย์ ไม่ตอบสนองความต้องการของตน “จริงๆ แล้วการศึกษาในระบบก็ให้เราได้ แต่ปัญหาก็คือไม่ให้เรา Progress ไม่ให้เรามี Creativity ครั้งนึงผมได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ (English Class) ผมได้ทำแบบทดสอบ (Work book) หมดก่อนอาจาร์ยสอน เลยถูกอาจาร์ยด่า” น้องออมมี่ได้พูดถึงคนที่อยากจะออกมาเรียนแบบโฮมสคูลสิ่งสำคัญที่สุดต้องถามตัวเองก่อน “ให้เวลาตัวเราเอง ลองคิดดูว่าเราเหมาะกับการเรียนในระบบ หรือเราจะเหมาะกับการเรียนแบบบ้านเรียน”
รับชมคุณศนิกานต์ สุขพินิจ สัมภาษณ์ต่อได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=oFif0SAgRtk&t=10s
ด้านคุณศนิกานต์ สุขพินิจ (คุณแม่น้องออมมี่) เผยว่า เมื่อก่อนก็ให้ลูกชายเรียนอยู่ในระบบ แต่หลายปีผ่านมาตนกลับพบว่าลูกชายไม่มีความสุขกับการเรียนในระบบเลย “ลูกชายเป็นคนชอบเรียนรู้ด้วยตนเอง และ ไม่เห็นด้วยกับการเรียนในห้องเรียน ที่เรียนจากในตำราเพียงอย่างเดียว แล้วไม่ให้โอกาศที่จะไปศึกษาค้นคว้าหาความจริงในโลกภายนอก มันเป็นการเรียนผ่านกระบวนการจำ ไม่ได้เป็นการเรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมันไม่ใช่ความรู้ที่แท้จริงตามที่เขาต้องการ”
หลังจากที่ได้ทราบปัญหาแล้วคุณแม่กับน้องออมมี่ก็ได้ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรโฮมสคูลโดยให้ความสำคัญของสถาบันครอบครัวเป็นหลัก “สิ่งสำคัญที่สุดคือสถาบันครอบครัว ถ้าสถาบันครอบครัวไม่อบอุ่น มันก็ไม่มีอะไรอบอุ่น”
การเรียนแบบบ้านเรียน หรือ โฮมสคูล จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวงการการศึกษาไทย เป็นอีกหนึ่งโอกาศของผู้ปกครองและเด็ก ที่จะเลือกกำหนดทางเดินอนาคตของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญการเรียนแบบโฮมสคูลนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผู้ปกครองเพียงอย่างเดียว พ่อ แม่ ต้องทราบว่าลูกต้องการอะไร “บางครอบครัวอยากทำโฮมสคูล แต่ลูกมีความสุขกับการไปโรงเรียน เขามีเพื่อน เขามีสังคม เขาเหมาะกับแบบนั้นมากกว่า อย่าเอาเขาออกมา ความสุขของลูกอยู่ตรงไหน ให้ถามตรงนั้น ให้ถามตัวเองเบอร์สุดท้าย ให้ดูที่ลูกก่อน” คุณศนิกานต์ สุขพินิจ กล่าวทิ้งท้าย