
ภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงคล้องกล้องถ่ายรูปไว้ที่พระศอ เพื่อทรงฉายพระรูป ขณะเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจในทุกพื้นที่บนแผ่นดินไทย เป็นภาพที่พสกนิกรไทยคุ้นตา ทั้งยังเป็นภาพที่มีความหมายและคุณค่าต่อจิตใจเหล่าช่างภาพยิ่งนัก ที่ได้เห็นในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสนพระราชหฤทัยด้านการถ่ายภาพ และทรงคล้องกล้องถ่ายรูปติดพระองค์อยู่ตลอด
“วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) เผยว่า พระอิริยาบถนี้อยู่ในความทรงจำและทับใจตนมากในฐานะช่างภาพมืออาชีพ พร้อมเผยถึงช่วงเวลาที่มีโอกาสได้เป็นช่างภาพในงานพระราชพิธีสำคัญๆ ซึ่งทำให้ได้เห็นว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดการถ่ายภาพอย่างยิ่ง แม้ขณะอยู่ในงานพระราชพิธี องค์อัครศิลปินก็จะทรงฉายพระรูปในมุมที่น้อยคนจะสังเกตเห็น เพื่อเก็บภาพที่ทรงพอพระราชหฤทัยในมุมที่แตกต่าง
วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ยังเล่าย้อนวันวานให้ฟังถึงมงคลสูงสุดในชีวิตว่า มีโอกาสได้ถวายงานในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งจัดทำหนังสือ “ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พัฒนาประเทศ” ซึ่งเป็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทั้งหมด นอกจากนี้เมื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแต่ละครั้งก็จะทรงมีพระราชปฏิสันถารกับคณะช่างภาพเป็นเวลานานกว่าคณะไหนๆ ยังความปลาบปลื้มใจอย่างไม่มีวันลืม
พระปรีชาสามารถด้านการถ่ายภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นอกจากจะเป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรไทยทุกคน ยังได้รับการยกย่องจากต่างชาติในวงกว้างด้วย โดยทรงได้รับการถวายสดุดีจากองค์กรต่างๆ มากมาย อาทิ ราชสมาคมถ่ายภาพแห่งสหราชอาณาจักรที่กราบบังคมทูลเชิญให้ดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์กิตติมศักดิ์ หรือ Honorary Fellow ส่วนสหพันธ์ศิลปะการถ่ายภาพนานาชาติก็ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเกียรติบัตรสูงสุด Honorary Excellent FIAP
ขณะเดียวกันพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณทรงรับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ไว้ในพระบรมราชชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2532 และทรงเป็นผู้ตัดสินการประกวดภาพถ่ายของสมาคมถ่ายภาพในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย ซึ่งสร้างความปลื้มปิติให้กับเหล่าช่างภาพทั้งปวงอย่างหาที่สุดมิได้
เหนือสิ่งอื่นใดภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สามารถนำมาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง สมดังพระราชดำรัสที่เคยพระราชทานไว้ในงาน The First Annual Bangkok Art & Photography Event 2007 ว่า “การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าได้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง”